‘ออมสิน’ คาดภายใน 3 เดือน เห็นผลจัดทำสมาร์ทการ์ดพระ

พุทธมณฑล 12 ก.ค.-“ออมสิน”เผย ภายใน3เดือนสมาร์ทการ์ดพระเห็นผล พร้อมเร่งรัดให้วัดกว่า4หมื่นแห่งเร่ง ทำบัญชีรายรับรายจ่ายประจำปี เน้นทำแบบง่าย แต่ต้องได้มาตรฐาน ส่วนกรณีเงินทอนวัด พศ.ตั้งกรรมการสอบวินัยข้าราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว


นายออมสิน ชีวะพฤกษ์  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือ ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)และมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ว่าผลการหารือ ได้ข้อสรุปเรื่องการจัดทำบัตรประจำตัวพระ  หรือสมาร์ทการ์ดพระ  ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลภายใน 3 เดือน โดยคณะกรรมการมหาเถรสมาคมกำลังดูในรายละเอียดว่าต้องใส่ข้อมูลอะไรลงไปในบัตรสมาร์ทการ์ดบ้าง  รวมทั้งต้องมีหลักเกณฑ์พระเถระที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลในสมาร์ทการ์ดของพระทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันทางกรมการปกครองได้มีการจัดทำบัตรประจำตัวพระอยู่แล้วและมีข้อมูลส่วนใหญ่เหมือนกับข้อมูลในบัตรประชาชนของประชาชนทั่วไป แต่อาจแยกฐานข้อมูลเฉพาะของพระออกไปเป็นอีกฐานหนึ่ง เพื่อความสะดวก โดยหลังจากคณะกรรมการมหาเถรสมาคมได้พิจารณาเรียบร้อยแล้วก็จะส่งเรื่องกลับมายังตน เพื่อดำเนินการต่อทันที 


ส่วนการหารือเรื่องการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดต่างๆกว่า 47,000 วัด ทั่วประเทศซึ่งปัจจุบันร้อยละ 96-97 ได้ส่งบัญชีรายรับรายจ่ายมายัง พศ.เรียบร้อยแล้ว แต่ข้อมูลยังขาดความสมบูรณ์และไม่ครบถ้วน ดังนั้นในการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดต่างๆ ที่จะดำเนินการต่อไป                     ได้มอบหมายให้ พศ.ทำความเข้าใจกับวัดและผู้ที่ทำบัญชีให้กับวัดต่างๆ ให้ทำแบบง่ายๆ เน้นการลงรายรับ และรายจ่ายของวัดเป็นหลักแล้วค่อยๆพัฒนาไป แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานของกพร.ด้วย โดยตัองให้ความสำคัญกับวัดที่อยู่ต่างจังหวัดและวัดห่างไกลซึ่งอาจมีคนทำบัญชีเพียงคนเดียวและส่วนใหญ่เป็นคนแก่ๆ ที่ไม่เข้าใจระบบบัญชีมากนัก


ส่วนประเด็น การให้ข่าวกับสื่อมวลชนเรื่องที่เกี่ยวกับคณะสงฆ์วัดหรือการดำเนินการของคณะสงฆ์ ที่ประชุมมีมติให้ ผู้อำนวยการ พศ.เป็นผู้ให้ข่าวกับสื่อมวลชนเพียงคนเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน  โดยเมื่อมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาหรือประเด็นที่อาจส่งผลกระทบกับคณะสงฆ์และพระสงฆ์ ก็ให้คณะกรรมการที่มหาเถรสมาคมได้ตั้งขึ้นมา ซึ่งมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรเป็นประธาน ได้หารือร่วมกันในคณะกรรมการแล้วให้ ผู้อำนวยการ พศ.เป็นผู้ให้ข่าว

ส่วนกรณีการทุจริตเงินทอนวัดในที่ประชุมวันนี้ ไม่ได้มีการหารือในเรื่องนี้มากนัก เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งต้องรอให้ทาง ปปป.ส่งเรื่องคดีทั้งหมดมาที่ พศ.แล้วจึงจะคุยกันอีกที เบื้องต้นหากทาง ปปป.ส่งเรื่องกลับมาทาง พศ.ก็จะดูแลและดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับวินัยเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา เนื่องจาก พศ.ไม่มีอำนาจ ดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา และขณะนี้ได้มีการตั้งตั้งคณะกรรมการ สอบวินัยข้าราชการที่เกี่ยวข้องแล้วจำนวน2ชุด เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนยังเผชิญพายุฤดูร้อน ฝนตก-ลมแรง

กทม. 12 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง โดยมีแนวโน้มลดลงหรือคงที่ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหลายพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย

เร่งคุมเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มควันพวยพุ่ง

ลาดกระบัง 12 พ.ค.- ระดมกำลังเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ล่าสุดยังมีกลุ่มควันจำนวนมาก คาดความเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อเวลา 16.24 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนฉลองกรุง ขนานข้างเป็นแนวยาวติดกับแนวซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นโรงงาน 2 ชั้น แนวราบยาวจากพื้นดิน ยกพื้นสูงเป็นชั้นลอย โดยทำห้องใต้ดินไว้เก็บของและวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงตัวสินค้า หากเข้ามาในซอยฉลองกรุง 55 จะเป็นพื้นกำแพงของตัวโรงงานอยู่ด้านขวามือ จุดต้นเพลิง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปผจญเหตุ เล่าว่า อยู่บริเวณชั้นใต้ดิน หลังจากเกิดเหตุไม่สามารถที่จะลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูงต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือพิเศษรวมถึงหน้ากากออกซิเจน ในการเข้าไป โดยจะเห็นได้ว่าตามช่องต่างๆ (ช่องกำแพง ช่องท่อ ช่องประตู) ก็จะมีกลุ่มควันนั้นลอยขึ้น และออกมาด้านนอก มูลค่าความเสียหาย เบื้องต้น ยังไม่สามารถประเมินค่าได้ ต้องรอให้เหตุการณ์สงบลง ทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เขตลาดกระบัง ร่วมกับ สน.ฉลองกรุง ซึ่งเป็นพื้นที่เขตความรับผิดชอบ ก็จะมีการเรียกพูดคุย และสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเหตุในครั้งนี้ รวมถึงการประเมินมูลค่าทรัพย์สินความเสียหาย โดยตอนนี้ทางเจ้าของโรงงานได้ทราบเรื่องแล้ว ทางด้าน กรุงเทพมหานคร […]

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย