25 ส.ค. – ไขปริศนาเบื้องลึกเบื้องหลัง “หลวงพ่ออลงกต” สำนักพุทธฯ เตรียมเข้าพบพระอุปัชฌาย์ ตรวจสอบเลข 13 หลักในใบสุทธิ หลังพบพิรุธข้อมูลหลายอย่างตรงกับข้าราชการที่เสียชีวิตเมื่อ 2 ปีก่อน
นายนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าตรวจสอบข้อมูลการบวชของหลวงพ่อลงกต ว่าข้อมูลที่มีตอนนี้คือ สำเนาหนังสือสุทธิ ที่ออกโดยพระอุปัชฌาย์ ปี 2529 ในปีที่บวช ยังไม่ยืนว่าเลข 13 หลักตรงกับผู้เสียชีวิตหรือไม่ ซึ่งในยุคนั้นการคัดกรองผู้บวชยังไม่ละเอียด เป็นเพียงการกรอกใบสมัครขอบวชเท่านั้น วัน เดือน ปีเกิด และข้อมูลชื่อบิดา มารดา ตามประวัติใบเกิด มีผู้รับรองการขอบวช เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บิดา มารดา เพื่อไปลงในทะเบียนสัทธิวิหาริก เป็นสมุดปกแข็งเล่มใหญ่ ทะเบียนของพระอุปัชฌาย์ในการควบคุมหนังสือสุทธิที่ออกให้พระภิกษุที่บวชกับพระอุปัชฌาย์ไป
ส่วนเลขประจำตัว 13 หลักในใบสุทธิ ตรงกับผู้เสียชีวิตนั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ ขอสืบค้นก่อน ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อไขข้อข้องใจในหลายเรื่อง และ พศ. จะร่วมตรวจสอบกับคณะสงฆ์เจ้าคณะผู้ปกครอง เพื่อพบกับพระอุปัชฌาย์ที่บวชให้หลวงพ่ออลงกต คงจะได้ข้อมูลที่ชัดเจน หากพบความผิดปกติจะนำส่งให้คณะสงฆ์พิจารณาว่ามีมาตรการหรือบทลงโทษอย่างไร
นายอินทพร กล่าวอีกว่า จากปัญหาดังกล่าว พศ. ได้จัดทำฐานข้อมูลพระกว่า 280,0000 รูป นำข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง ตั้งแต่เกิดมาทำข้อมูลกับใบสุทธิ และบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อให้สามารถตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลเริ่มมาตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา เนื่องจากอดีตเมื่อบวชเป็นพระจะใช้ใบสุทธิแทนบัตรประจำตัวประชาชน จึงทำให้ฐานข้อมูลส่วนบุคคลหายไป และเป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้นใช้หนังสือสุทธิแทนบัตรประชาชนได้ ซึ่งปัจจุบันต้องใช้ทั้งใบสุทธิและข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ฐานข้อมูลในบัตรประชาชน เพื่อเป็นการคัดกรองและตรวจสอบได้ และเพื่อให้พระภิกษุสามารถใช้สิทธิการรักษาบัตรทอง เปิดบัญชีธนาคาร หรือทำธุรกรรมต่างๆ ต้องใช้บัตรประชาชนควบคู่กับใบสุทธิเป็นหลัก.-สำนักข่าวไทย