กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แถลงภายหลังการประชุม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ที่ประชุม กกร.วันนี้ (1 พ.ย.) คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้และการส่งออก โดยเศรษฐกิจปีนี้ประเมินว่าจะขยายตัวอยู่ในระดับร้อยละ 3.3-3.5 ส่วนการส่งออกจะอยู่ในระดับติดลบร้อยละ 0-2 ซึ่งในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ (ต.ค.-ธ.ค.) คาดว่าส่งออกจะติดลบร้อยละ 0-1 ส่วนปีหน้าประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 3.5 ถึงร้อยละ 4 ส่วนการส่งออกจะขยายตัวในระดับร้อยละ 0 ถึงบวกร้อยละ 2
ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น เห็นด้วย โดยทางไตรภาคีแต่ละจังหวัดต้องไปพิจารณา สำหรับค่าแรงขั้นต่ำที่ขอปรับเพิ่มขึ้นภาพรวมปรับเพิ่มขึ้นไม่ถึงร้อยละ 2 อย่างไรก็ตาม ต้องการให้ประสิทธิภาพของแรงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียได้
สำหรับราคาข้าวที่ตกต่ำขณะนี้เป็นผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ระดับความชื้นของข้าวสูงเกินกว่าร้อยละ 15 หากความชื้นสูงถึงร้อยละ 25-30 ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อราคาข้าวจะต้องลดลงตามระดับความชื้น ดังนั้น เรื่องคุณภาพจึงเป็นหลักสำคัญ ซึ่ง กกร.เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะช่วยเหลือผ่านโครงการจำนำยุ้งฉาง เพื่อชะลอการขายข้าว โดยให้วงเงินร้อยละ 90 ของราคาข้าวตันละ 9,700 บาท หรือช่วยเหลือให้เกษตรกรได้รับเงินประมาณตันละ 8,300 บาท ซึ่งจะช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่มีพื้นปลูกรายละไม่เกิน 10 ไร่เท่านั้น ซึ่งการชะลอเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง เชื่อว่าจะช่วยสถานการณ์ราคาได้
ส่วนภาคเอกชน มีคณะทำงานที่ทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่แล้ว ก็จะเสนอมาตรการช่วยเหลือระยะกลางถึงระยะยาว โดยให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพและผลผลิตต่อไร่ของข้าวที่จะต้องช่วยเหลือยกระดับต่อไป พร้อมกันนี้ต้องส่งเสริมให้ปลูกพืชอื่นทดแทน เช่น ถั่วลิสง ซึ่งต้องนำเข้าจากจีน ปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าถั่วเหลืองปีละ 40,000-50,000 ล้านบาท เพื่อนำมาสกัดเป็นน้ำมันถั่วเหลืองและทำเครื่องดื่ม เป็นต้น โดยดำเนินการผ่านโครงการประชารัฐและจะส่งเสริมให้มีการใช้เครื่องจักรทางการเกษตรมากขึ้น
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ที่ประชุม กกร. พิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจทั้งประเทศ แม้จะพบว่าอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจแต่ละภูมิภาคไม่เท่ากัน แต่ตัวเลขทางการยืนยันออกมาแล้วว่าแนวโน้มเศรษฐกิจดีไทยขึ้น ด้านการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ปกติจะมีอัตราการขยายตัวสอดคล้องกับจีดีพีประเทศอยู่แล้ว ดังนั้น การปล่อยสินเชื่อในภาพรวมน่าจะดีขึ้น แต่บางธนาคารตัวเลขการปล่อยสินเชื่ออาจไม่โตอย่างที่ประมาณการไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนปีนี้ ธนาคารพาณิชย์ เช่น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวร้อยละ 3.3 ดังนั้น การปล่อยสินเชื่อปีหน้าแนวโน้มคงจะดี เพราะอัตราการขยายตัวของจีดีพีดีขึ้น และฐานสินเชื่อปีนี้ใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา
นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีความโศกเศร้าของคนไทยว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจระยะสั้นประมาณ 1 เดือนเท่านั้น โดยขณะนี้รัฐบาลพยายามที่จะให้ทุกอย่างทางเศรษฐกิจกลับฟื้นดีขึ้นแล้ว ด้านปัจจัยต่างประเทศผลจากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้มีความชัดเจนเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หากปรับขึ้นจริงก็จะส่งผลต่อเงินไหลออกและมีผลต่อเงินบาทให้อ่อนค่าลงบ้างแต่ไม่มาก แต่จะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย
นายเจน กล่าวถึงกรณีที่ราคาข้าวตกต่ำว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจมากนัก เพราะเป็นระยะสั้นเท่านั้น ขณะที่พืชเศรษฐกิจอย่างอื่น เช่น ยางพาราระดับราคาปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องข้าวราคาตกต่ำ รัฐบาลหาทางช่วยเหลือชาวนาโดยมีกลไกช่วยพยุงราคาแล้วและการที่ชาวนาขายข้าวออนไลน์ นับว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ขณะที่การประชุมคณะกรรมการ ส.อ.ท.ครั้งล่าสุดได้ขอให้สภาอุตสาหกรรมจังหวัดแต่ละจังหวัดใช้กลไกที่มีอยู่ช่วยเหลือชาวนาอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ ต้องการให้ภาครัฐหาทางช่วยให้ข้าวไม่ออกมาพร้อมกัน หากดำเนินการได้ก็จะช่วยให้สถานการณ์ราคาข้าวที่ตกต่ำบรรเทาลงได้ ส.อ.ท.ต้องการเห็นรัฐบาลจัดทำมาตรการช่วยเหลือชาวนาให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เช่น เรื่องการลดพื้นที่ปลูกข้าว การปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนข้าว หากสามารถดำเนินการเป็นรูปธรรมได้ น่าจะส่งผลดีต่อระดับราคาสินค้าทางการเกษตร ด้าน ส.อ.ท.ได้ช่วยเหลือด้วยการนำผลิตผลทางการเกษตร เช่น ถั่วเหลืองไปแปรรูป เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย