SCB EIC ประเมินจีดีพีปี 68 ที่ 1.5% ปี 69 เหลือ 1.2% ขึ้นกับผลเจรจาภาษีสหรัฐฯ

กรุงเทพฯ 23 ก.ค. – SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง-ปีหน้า เสี่ยงชะลอตัวแรง SCB EIC มองผลกระทบขึ้นอยู่กับผลเจรจาภาษีสหรัฐฯ ก่อนถึงกำหนด 1 ส.ค. ประเมินจีดีพีปี 68 ที่ 1.5% ปี 69 เหลือ 1.2% เหตุส่งออก-ลงทุนภาคเอกชน หดตัวหนัก คาด กนง.ลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้


SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะยังขยายตัวใกล้เคียงมุมมองเดิมที่ 1.5% แม้ในกรณีที่ไทยเจรจาสหรัฐฯ ขอลดภาษีตอบโต้ลงได้บ้างภายใน 1 ส.ค. แต่อัตราภาษีไทยสูงกว่าคู่แข่งหลัก ส่วนหนึ่งเพราะมีการเร่ง Front-loading สินค้าส่งออกก่อนสหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสูงไว้แล้ว แต่ในช่วงครึ่งปีหลังการส่งออกจะได้รับผลกระทบรุนแรงขึ้นจาก Reciprocal tariffs ไทยที่อาจสูงกว่าคู่แข่งในตลาดสหรัฐฯ โดยในปัจจุบันพบว่า กำแพงภาษีสหรัฐฯ รายสินค้าเริ่มส่งผลลบต่อคู่ค้าที่เน้นส่งออกสินค้าที่ถูกเก็บ Specific tariffs แล้ว สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2569 จะขยายตัวต่ำลงมากเหลือเพียง 1.2% จากการส่งออกและลงทุนภาคเอกชนที่จะหดตัวมากขึ้นจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ที่จะมีผลต่อเนื่องไปถึงปีหน้า

สินค้าส่งออกสำคัญของไทยเผชิญความเสี่ยงจากการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ให้คู่แข่งที่ถูกเก็บภาษีตอบโต้ต่ำกว่า โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีแนวโน้มจะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่งในอาเซียน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ไทยอาจเผชิญความเสี่ยงจากการถูกเก็บภาษีสินค้าสวมสิทธิ เช่นเดียวกับเวียดนาม ซึ่งจะยิ่งเพิ่มต้นทุนการค้า รวมถึงสินค้าไทยอาจต้องเผชิญมาตรการตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้าของสหรัฐฯ ที่เข้มงวดขึ้น กระทบการส่งออกสินค้าไทยที่มีสัดส่วนการนำเข้า (Import content) สูงเพิ่มเติมอีกด้วย


สำหรับกรณีเลวร้ายหากไทยเจรจาไม่สำเร็จ (Worsecase) สหรัฐฯ เก็บภาษีตอบโต้ไทย 36% เท่าเดิมเริ่มตั้งแต่ 1 ส.ค. แต่คู่แข่งสำคัญในตลาดสหรัฐฯ เช่น เวียดนาม เสียภาษีตอบโต้ในอัตราต่ำกว่ามากอยู่ที่ 20% SCB EIC ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตเหลือเพียง 1.1% ในปีนี้ และขยายตัวต่ำลงมากเหลือ 0.4% ในปี 2569 จากการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนที่จะหดตัวมากต่อเนื่อง

ในระยะต่อไปต้องจับตาข้อเสนอใหม่ของไทยในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยปัจจุบันรัฐบาลยังคงพิจารณาการเปิดตลาดเสรีตามข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ โดยเฉพาะภาคเกษตร เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการ โดย SCB EIC ประเมินว่า อุตสาหกรรมเกษตรและปศุสัตว์ โดยเฉพาะสุกร, ไก่เนื้อ และข้าวโพด จัดอยู่ในกลุ่มที่มีความอ่อนไหวสูง หากไทยต้องเปิดตลาดเสรีให้สินค้าสหรัฐฯ เนื่องจาก (1) ต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าสหรัฐฯ (รวมค่าขนส่งมาไทย) ค่อนข้างมาก (2) ปัจจุบันไทยพึ่งพาผลผลิตในประเทศเป็นหลัก หากจะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากขึ้น ภาครัฐจะต้องพิจารณาประเด็นความมั่นคงทางอาหารของประเทศอย่างสมดุล และ (3) ผู้ผลิตและผู้เล่นที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิตในประเทศอาจได้รับผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่มีต้นทุนผลิตสูงกว่า ดังนั้น หากไทยจะเปิดเสรีสินค้าเกษตรกับสหรัฐฯ ภาครัฐจะต้องเตรียมมาตรการรองรับเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบและช่วยให้สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม

นอกจากผลการเจรจาต่อรองการค้ากับสหรัฐฯ ที่ยังไม่แน่นอน เศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากหลายปัจจัย คือ (1) การท่องเที่ยวไทยยังเผชิญปัจจัยเสี่ยงสูง แม้นักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อการใช้จ่ายท่องเที่ยวในระยะข้างหน้า (2) ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาที่จะกระทบเศรษฐกิจไทยได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของมาตรการตอบโต้ระหว่างกัน และ (3) ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2568 – 2569


สำหรับมุมมองเศรษฐกิจโลกในปี 2569 ปรับดีขึ้นบ้าง หลังสหรัฐฯ เลื่อนเก็บภาษีตอบโต้เป็น 1 ส.ค. และการเจรจากับประเทศคู่ค้ามีความคืบหน้ามากขึ้น แต่ผลของกำแพงภาษีสหรัฐฯ จะชัดเจนมากขึ้นหลังเดือน ส.ค. และจะกดดันเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องไปถึงปี 2569 โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ พบว่า เครื่องชี้กิจกรรมเศรษฐกิจของโลกยังขยายตัวได้ดีจากการเร่งผลิตเพื่อส่งออก เช่น เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ดีกว่าคาดในไตรมาส 2 อยู่ที่ 5.2%YOY ส่วนหนึ่งจากการส่งออกที่ยังขยายตัวดี โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนและยุโรป อย่างไรก็ดี การนำเข้าของสหรัฐฯ ในไตรมาส 2 เริ่มลดลงต่ำกว่าเทรนด์ปกติหลังเร่งนำเข้าล่วงหน้า (Front-load) ไปมากตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 4 ปี 2567 ต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1 ปีนี้

สหรัฐฯ เจรจาประเทศต่าง ๆ คืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะหลังประธานาธิบดีทรัมป์ส่งจดหมายถึงคู่ค้าหลักกลุ่มแรก ๆ แจ้งอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ที่จะเริ่มเก็บตั้งแต่ 1 ส.ค. พร้อมกับเร่งให้คู่ค้ายื่นข้อเสนอที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ มากขึ้น นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังขู่จะเริ่มเก็บภาษีรายสินค้า(Specific tariffs) เพิ่มอีกหลายรายการ เช่น ทองแดง,ยา และเซมิคอนดักเตอร์ ภายในปีนี้

นโยบายการเงินโลกยังมีแนวโน้มผ่อนคลายในปีนี้แต่ความเสี่ยงจากสงครามการค้าจะมีผลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า เช่น Fed จะยังไม่เร่งปรับลดดอกเบี้ยใน Q3 เนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและผลกระทบกำแพงภาษีต่อเงินเฟ้อยังไม่ชัดเจน ขณะที่ญี่ปุ่นมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ จากผลกำแพงภาษีที่อาจกระทบค่าจ้างและชะลอวัฏจักรเชิงบวกของเงินเฟ้อ

SCB EIC ประเมินว่ามีโอกาสมากขึ้นที่จะเห็น กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าที่จะแย่ลงกว่าที่ กนง. เคยประเมินไว้ แต่หากการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่สำเร็จหรือเกิดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม เศรษฐกิจไทยจะยิ่งเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำสูงขึ้น อาจมีโอกาสเห็น กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมากกว่า 2 ครั้งในปีนี้.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]