22 ก.ย. – สหพันธ์เปตองนานาชาติ สั่งลงโทษแบน ห้ามไทยจัดแข่งขันเปตอง ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 หากฝ่าฝืนและมีชาติในอาเซียนเข้าร่วม จะถูกตัดสิทธิเข้าร่วมแข่งขันระดับนานาชาติ 2 ปี
เหลือระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพก็จะเปิดฉากขึ้นแล้ว แต่กลับมีปัญหารุมเร้าเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งโลโก้การแข่งขันซีเกมส์ที่เพิ่งได้ข้อยุติ หลังจากผู้ออกแบบที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ อนุญาตให้นำไปใช้เป็นภาพเคลื่อนไหว และติดบนของที่ระลึกได้ สนามแข่งขันหลายชนิดกีฬาที่เพิ่งได้ข้อสรุป ล่าสุดมวยสากล ที่ต้องย้ายสังเวียนชกจากศูนย์ฝึกกีฬามวยสากลของ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ก่อสร้างด้วยงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท ที่เสร็จไม่ทันตามกำหนด ต้องย้ายไปที่อาคารเฉลิมราชสุดากีฬาสถาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ล่าสุดอีกหนึ่งปัญหา ที่ถือเป็นความล้มเหลว ในการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาของชาวอาเซียนครั้งที่ 7 ของประเทศไทย คือ ปัญหาสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ที่ถูกสหพันธ์เปตองนานาชาติ รวมถึงสหพันธ์กีฬาเปตองและโบว์ลโลก สั่งลงโทษแบน ห้ามนักกีฬาเปตองไทย เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ รวมถึงกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากคุณสมบัติของนายกสมาคมฯ ที่ได้รับเลือกตั้งล่าสุด ขัดต่อจริยธรรมกีฬา แม้ว่าโอลิมปิคไทย จะได้ตั้งคณะกรรมการกลาง ในการคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ตามคำสั่งของสหพันธ์เปตองนานาชาติ แต่คณะกรรมการสมาคมชุดเก่าที่ถูกลงโทษแบน กลับยังเข้ามามีบทบาทในหลายๆ เรื่อง ทั้งเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา ที่ยังต้องเบิกจ่ายผ่านสมาคม หรือการพยายามส่งชื่อนักกีฬาลงแข่งขัน
จากปัญหาที่คาราคาซังไม่มีข้อยุติ ส่งผลให้ โคล้ด อเซมา ประธานสหพันธ์เปตองนานาชาติ หมดความอดทน ส่งหนังสือถึง ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ปฏิเสธการรับรองการจัดแข่งขันเปตองในซีเกมส์ครั้งที่ 33 ซึ่งหากไทย ยังยืนยันที่จะจัดการแข่งขัน รวมถึงมีชาติในอาเซียนส่งนักกีฬาเข้าร่วมชิงชัยในซีเกมส์ครั้งนี้ จะถูกทางสหพันธ์ลงโทษแบนจากการแข่งขันระดับนานาชาติเป็นระยะเวลา 2 ปี จนกว่าจะถึงกีฬาซีเกมส์ครั้งต่อไปปี 2027 ที่ประเทศมาเลเซีย
ด้าน “บิ๊กแน็ท” นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานโอลิมปิคไทย ในฐานะมนตรีซีเกมส์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยเคยเจอเหตุการณ์รูปแบบนี้มาแล้ว กับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และมีการตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาจัดการ แต่ปัญหาเปตองครั้งนี้ กลับไม่มีการดำเนินการหาข้อยุติ จนส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของประเทศ
11 เหรียญทองที่นักทอยแก่นไทย ได้ลุ้นในซีเกมส์ครั้งนี้ กลับต้องฝันสลายลงไป เพราะผลประโยชน์ของบุคคลเพียงไม่กี่คน ที่ส่งผลเสียต่อวงการกีฬาไทยและตัวนักกีฬาไทย ที่ทุ่มเทฝึกซ้อม เพื่อหวังที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย