มาเลเซียประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศสกัดโควิด

กัวลาลัมเปอร์ 11 พ.ค. – มาเลเซียประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศครั้งใหม่ ในขณะที่กำลังเผชิญกับยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้น และการระบาดรุนแรงของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซียระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจะห้ามการเดินทางระหว่างรัฐและเขตทั้งหมดตั้งแต่วันจันทร์ ห้ามการรวมตัวของประชาชน สั่งปิดการเรียนในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ แต่จะยกเว้นให้ภาคธุรกิจดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยไม่ได้ระบุถึงเหตุผลที่ทำเช่นนั้น เขายังระบุเพิ่มเติมว่า มาเลเซียกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกที่สามที่อาจทำให้เกิดวิกฤตระดับชาติ มาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 7 มิถุนายน การใช้มาตรการดังกล่าวมีความจำเป็น เนื่องจากมาเลเซียมีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่ปรับปรุงสายพันธุ์ใหม่เพิ่มสูงขึ้น และทำให้ระบบสาธารณสุขเผชิญกับภาวะตึงตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ มาเลเซียพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่เมื่อวานนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อสูงถึง 3,807 คน ขณะนี้ มาเลเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 444,400 คน และผู้เสียชีวิตราว 1,700 คน ทั้งนี้ มาเลเซียยังคงอยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่นายมูห์ยิดดินประกาศใช้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19. -สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นพบผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มขึ้นระหว่างรอเตียง

ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในจังหวัดโอซากาของญี่ปุ่นเสียชีวิต 18 รายในระหว่างกำลังรอเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาล ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นใช้มาตรการเข้มงวดขึ้น เพื่อควบคุมการระบาดระลอกที่สี่ ก่อนเปิดฉากการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกในเดือนกรกฎาคมนี้

ฟิลิปปินส์พบผู้ติดโควิดสายพันธุ์อินเดีย 2 รายแรก

มะนิลา 11 พ.ค.- กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์แจ้งว่า พบผู้ติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์ที่พบในอินเดีย 2 รายแรกของประเทศ เป็นชาวฟิลิปปินส์ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ผู้อำนวยการสำนักงานโรคระบาด กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า พบไวรัสสายพันธุ์ B.1.617 ที่องค์การอนามัยโลกเตือนว่า เป็นความกังวลของโลก เนื่องจากมีผลการศึกษาเบื้องต้นชี้ว่า สามารถแพร่ได้อย่างรวดเร็ว โดยพบในลูกเรือเดินทะเลชาวฟิลิปปินส์ที่กลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และโอมานเมื่อเดือนเมษายน ทั้งคู่ถูกกักโรคและรับการรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว ทางการจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องว่ามีไวรัสสายพันธุ์อื่น ๆ ในประเทศอีกหรือไม่ และเฝ้าระวังว่า สายพันธุ์ที่พบแล้วมีการแพร่ระบาดหรือไม่ ฟิลิปปินส์เคยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ที่พบในอังกฤษและสายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้มาแล้ว รวมทั้งสายพันธุ์ในฟิลิปปินส์เอง ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สะสมกว่า 1.1 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 18,500 คน มากเป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากอินโดนีเซีย ขณะที่อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียรายแรกในเดือนนี้.-สำนักข่าวไทย

แพทย์อินเดียเตือนใช้มูลวัวรักษาโควิดเสี่ยงติดโรคเพิ่ม

อาห์เมดาบัด 11 พ.ค. – แพทย์อินเดียออกโรงเตือนผู้ที่เชื่อว่ามูลวัวรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้ โดยระบุว่ายังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพดังกล่าว และเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรคอื่น ผู้นับถือศาสนาฮินดูในรัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดีย ต่างพากันเดินทางไปยังคอกวัวสัปดาห์ละครั้ง เพื่อนำมูลและปัสสาวะของวัวมาทาตัว โดยเชื่อว่ามูลวัวจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันหรือรักษาอาการป่วยจากโรคโควิด เนื่องจากศาสนาฮินดูถือว่าวัวเป็นสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตและโลก โดยจะรอให้มูลและปัสสาวะของวัวที่ทาบนร่างกายแห้ง จึงจะเข้าไปกอดหรือแสดงความเคารพต่อวัวในคอก รวมถึงฝึกโยคะเพื่อเพิ่มระดับพลังงานในร่างกาย หลังจากนั้น พวกเขาจะชำระล้างร่างกายด้วยนมวัว ทั้งนี้ ชาวฮินดูใช้มูลวัวมาทำความสะอาดบ้านเรือนและประกอบพิธีสวดมนต์มาเป็นเวลาหลายร้อยปี โดยเชื่อว่ามูลวัวมีคุณสมบัติในการรักษาโรคและฆ่าเชื้อโรคได้ อย่างไรก็ดี แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ในอินเดียและหลายประเทศทั่วโลกได้ย้ำเตือนถึงทางเลือกในการรักษาโรคโควิด-19 ดังกล่าวว่า อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดด้านความปลอดภัยและทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ประธานสมาคมแพทย์อินเดียระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรมที่ยืนยันว่ามูลหรือปัสสาวะของวัวช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 แต่เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น นอกจากนี้ การทาและบริโภคมูลหรือปัสสาวะของวัวยังทำให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขภาพ และทำให้เกิดการแพร่กระจายโรคอื่น ๆ จากสัตว์มาสู่คนอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าการกรุงโตเกียวหนุนขยายประกาศภาวะฉุกเฉินสกัดโควิด

โตเกียว 6 พ.ค. – นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวระบุว่า การขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมีความจำเป็นต่อการควบคุมยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่กำลังทำให้ระบบการแพทย์ของกรุงโตเกียวเผชิญกับภาวะตึงตัว นางโคอิเกะกล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขว่า กรุงโตเกียวจะหารือเรื่องการขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเหมาะสมร่วมกับจังหวัดใกล้เคียงและรัฐบาลญี่ปุ่น แต่จากการวิเคราะห์ในแง่มุมต่าง ๆ เธอคิดว่ามีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งยังระบุว่า เชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วจนทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อในกลุ่มคนหนุ่มสาวมากขึ้น และอาจมียอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงกว่าการระบาดระลอกที่สามในเดือนมกราคม นอกจากนี้ นางโคอิเกะยังเรียกร้องให้ชาวกรุงโตเกียวจำกัดการเดินทางเพื่อช่วยควบคุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อ ขณะที่ทางการกรุงโตเกียวรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 591 คน ทำให้ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 612,300 คน และผู้เสียชีวิตราว 10,500 คน ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นหวังว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่เข้มงวดเป็นเวลาสั้น ๆ จะช่วยควบคุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อในการระบาดระลอกที่สี่ได้ก่อนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกในอีก 3 เดือนหน้า แต่ประกาศดังกล่าวที่เริ่มเมื่อวันที่ 25 เมษายนและจะสิ้นสุดในวันที่ 11 พฤษภาคมกลับไม่ได้ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงลดลง ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าว 3 แห่งว่า ทางการญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงโตเกียว จังหวัดโอซากา เกียวโต และเฮียวโงะออกไปจากกำหนดเดิม โดยพื้นที่ดังกล่าวมีประชากรเกือบ 1 ใน 4 หรือคิดเป็นร้อยละ […]

สิงคโปร์พบผู้ป่วยโควิดสูงสุดในรอบ 7 เดือน

สิงคโปร์พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศ 16 คนเมื่อวานนี้ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่และในกลุ่มเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยาน

บราซิลมียอดตายโควิดทะลุ 400,000 คนแล้ว

วุฒิสภาบราซิลลงมติผ่านร่างกฎหมายระงับการคุ้มครองสิทธิบัตรสำหรับวัคซีนป้องกันกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 การทดสอบ และเวชภัณฑ์ในช่วงที่มีการระบาด ในขณะที่บราซิลพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทะลุ 400,000 คนแล้ว

สิงคโปร์ส่งเครื่องบินขนออกซิเจนช่วยอินเดียรับมือโควิด

สิงคโปร์ 28 เม.ย. – สิงคโปร์ส่งเครื่องบิน 2 ลำที่ขนส่งถังออกซิเจนไปยังอินเดีย ซึ่งกำลังประสบปัญหาขาดแคลนออกซิเจนครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากการระบาดระลอกสองของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กองทัพอากาศสิงคโปร์ใช้เครื่องบินขนส่งแบบ ซี-130 จำนวน 2 ลำ เพื่อขนส่งออกซิเจน 256 ถังไปยังรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย ดร. มาลิกิ ออสแมน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์คนที่สองกล่าวยืนยันถึงความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่แน่นแฟ้นของสิงคโปร์และอินเดียในพิธีส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสิงคโปร์ไปยังอินเดีย โดยมีผู้แทนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งอินเดียประจำสิงคโปร์เป็นผู้รับมอบ ทั้งยังระบุว่า ชาวสิงคโปร์พร้อมยืนเคียงบ่าเคียงไหล่เพื่อช่วยเหลืออินเดียรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์ว่า การจัดหาออกซิเจนจำนวนดังกล่าวภายในเวลาสั้น ๆ เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ การขนส่งออกซิเจนไปยังอินเดียเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานมากมายของสิงคโปร์ที่พยายามให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่อินเดีย ในขณะเดียวกัน ‘สิงคโปร์ อิน อินเดีย’ (Singapore in India) ซึ่งเป็นบัญชีผู้ใช้งานอย่างเป็นทางการบนทวิตเตอร์ของหน่วยงานที่ดูแลภารกิจทางการทูตของสิงคโปร์ในกรุงนิวเดลี นครมุมไบ และนครเจนไน ระบุว่า บริษัทและองค์กรต่าง ๆ ในสิงคโปร์ได้ช่วยกันส่งเครื่องผลิตออกซิเจน 7,511 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ 516 เครื่อง รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ ไปยังอินเดียด้วย.-สำนักข่าวไทย

WHO เผยเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียระบาดใน 17 ประเทศ

องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.617 ซึ่งพบการระบาดครั้งแรกในอินเดีย และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย ได้แพร่ระบาดในอย่างน้อย 17 ประเทศทั่วโลก

อินเดียพบยอดป่วยโควิดกว่า 300,000 คนเป็นวันที่หก

อินเดียพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 300,000 คนติดต่อกันเป็นวันที่หก ขณะที่กองทัพอินเดียยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน เพื่อรับมือกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ฟิลิปปินส์มียอดป่วยโควิดทะลุ 1 ล้านคนแล้ว

มะนิลา 26 เม.ย. – ฟิลิปปินส์มียอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทะลุ 1 ล้านคน ในขณะที่ยังคงพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกหลายพันคนในกรุงมะนิลาที่กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดครั้งใหม่ กระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 8,929 คน และผู้เสียชีวิต 70 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทะลุ 1 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 16,800 คน ซึ่งถือเป็นยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมและผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย ในขณะเดียวกัน นายโรลันโด เอ็นริเก โดมิงโก ผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยา หรือเอฟดีเอ ของฟิลิปปินส์เผยว่า โมเดอร์นา อิงค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐได้ยื่นเอกสารขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินในฟิลิปปินส์แล้ว เขายังระบุเพิ่มเติมว่า ทางการฟิลิปปินส์จะได้รับวัคซีนของโมเดอร์นา 194,000 โดสในเดือนหน้า และอีก 1 ล้านโดสในเดือนกรกฎาคม ขณะนี้ ฟิลิปปินส์ได้ประกาศอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นการฉุกเฉินทั้งหมด 6 ขนาน ได้แก่ วัคซีนไฟเซอร์ของสหรัฐ จอห์นสันแอนด์จอห์นสันของสหรัฐ ซิโนแวกของจีน สปุตนิก-วีของรัสเซีย แอสตราเซนเนกาของอังกฤษ-สวีเดน […]

ปี 63 งบทหารทั่วโลกเพิ่มขึ้นแม้โควิดระบาด

งบประมาณด้านกลาโหมทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 เป็น 1.98 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 62.23 ล้านล้านบาท) เมื่อปี 2563 แม้ว่าบางประเทศได้โยกงบกลาโหมไปใช้รับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ก็ตาม

1 22 23 24 25 26 30
...