เจนีวา 28 เม.ย. – องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.617 ซึ่งพบการระบาดครั้งแรกในอินเดีย และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย ได้แพร่ระบาดในอย่างน้อย 17 ประเทศทั่วโลกแล้ว
องค์การอนามัยโลกกล่าวในรายงานสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ประจำสัปดาห์เมื่อวานนี้ว่า พบเชื้อโควิดสายพันธุ์ B.1.617 ในรหัสพันธุกรรมกว่า 1,200 ตัวอย่างในอย่างน้อย 17 ประเทศทั่วโลกจากระบบฐานข้อมูลแบบเปิดจีโนม (GISAID) โดยนับถึงเมื่อวานนี้ ทั้งยังระบุว่า แบบจำลองเบื้องต้นของตัวอย่างรหัสพันธุกรรมในฐานข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์ B.1.617 มีอัตราแพร่เชื้อสูงกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ ในอินเดีย และมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการระบาดเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกได้เน้นย้ำว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ ก็มีแนวโน้มก่อให้เกิดแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์ B.1.617 และสายพันธุ์อื่น ๆ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อในอินเดียพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ ผลการศึกษาต่าง ๆ ยังชี้ให้เห็นว่า การระบาดระลอกสองจะรวดเร็วกว่าการระบาดระลอกแรก รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น เช่น การไม่ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขและการรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่
เมื่อไม่นานมานี้ องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้เชื้อโควิดสายพันธุ์ B.1.617 เป็นสายพันธุ์ที่น่าเฝ้าระวัง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ประกาศให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ซึ่งจะเป็นการบ่งชี้ว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวอันตรายกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม เช่น แพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขึ้น หรือต้านทานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย