คาดเกาหลีใต้เพิ่มมาตรการเข้มงวดหลังยอดป่วยโควิดพุ่ง

โซล 8 เม.ย. – เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 700 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ในช่วงต้นเดือนมกราคม ขณะที่นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ย้ำเตือนว่าอาจจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการใหม่ในการเว้นระยะห่างทางสังคม สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี หรือเคดีซีเอระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 700 คนถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายวันโดยเฉลี่ยของสัปดาห์ก่อนที่พบวันละ 477 คน และทำให้เกิดความหวั่นเกรงเพิ่มขึ้นว่า เกาหลีใต้อาจต้องเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกสี่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีชุง เซ-คยุน ของเกาหลีใต้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐบาลว่า การระบาดระลอกใหม่อาจส่งผลกระทบต่อโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของเกาหลีใต้ที่กำลังประสบปัญหาล่าช้า เนื่องจากโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลกไม่สามารถจัดส่งวัคซีนตามกำหนด ด้านเจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ระบุว่า ทางการอาจประกาศเพิ่มมาตรการควบคุมการระบาดอย่างเร็วที่สุดในวันพรุ่งนี้ ขณะนี้ เกาหลีใต้ยังคงใช้คำสั่งจำกัดการรวมตัวของประชาชนในที่ส่วนตัวได้ไม่เกิน 4 คน เกาหลีใต้ยังได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า จะระงับฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นการชั่วคราวในประชาชนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปีในขณะที่วัคซีนดังกล่าวกำลังได้รับการตรวจสอบในยุโรป นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังได้อนุมัติใช้วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเพื่อเร่งการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะนี้ เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 107,500 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 1,750 คน.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียขอให้อียูจัดส่งวัคซีนโควิดพิสูจน์ข้อกล่าวหา

แคนเบอร์รา 7 เม.ย. – ออสเตรเลียจะขอให้สหภาพยุโรป หรืออียูจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกากว่า 3 ล้านโดส เพื่อพิสูจน์ข้ออ้างว่าอียูไม่ได้ระงับการส่งออกวัคซีน ในขณะที่ออสเตรเลียกำลังประสบปัญหาฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียกล่าวว่า อียูได้ร้องขอให้ออสเตรเลียถอนใบอนุญาตการส่งออกวัคซีน ในขณะเดียวกันยังคงไม่ตอบคำถามในจดหมายที่ออสเตรเลียยื่นต่ออียูเพื่อขอให้จัดส่งวัคซีนเช่นกัน เขากล่าวว่า หากอียูต้องการพิสูจน์ว่าไม่ได้ระงับการส่งออกวัคซีนจริง เขาขอให้อียูจัดส่งวัคซีน 3.1 ล้านโดสให้แก่ออสเตรเลีย เพราะออสเตรเลียควรได้รับวัคซีนจำนวนดังกล่าวในช่วงสิ้นเดือนที่แล้ว ขณะนี้ออสเตรเลียฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนได้ราว 670,000 คน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4 ล้านคนภายในเดือนมีนาคม โดยได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา 300,000 โดสจากการจัดส่งครั้งแรกและครั้งเดียวในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่ออสเตรเลียยังได้นำเข้าวัคซีนของไฟเซอร์มาใช้อีกขนานหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 29,300 คน และผู้เสียชีวิต 909 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ก่อนหน้านี้ อียูได้ปฏิเสธเมื่อวันอังคารว่า ไม่ได้สั่งระงับการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ออสเตรเลียที่กำลังประสบปัญหาความล่าช้าในโครงการฉีดวัคซีนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งยังระบุว่า อียูไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบในความล้มเหลวจากข้อตกลงที่แอสตราเซเนกาได้ให้สัญญาไว้กับประเทศต่าง ๆ ขณะที่ในเดือนที่แล้ว อียูได้สั่งระงับการจัดส่งวัคซีนของแอสตราเซเนกา 250,000 โดสให้แก่ออสเตรเลียตามที่อิตาลีร้องขอ โดยอ้างว่ายุโรปกำลังประสบปัญหาขาดแคลนวัคซีน.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียสืบกรณีลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนโควิด

ออสเตรเลียเผยว่า กำลังสืบสวนกรณีพบผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แล้วมีภาวะลิ่มเลือดแข็งตัวในวันนี้ว่ามีความเชื่อมโยงกับวัคซีนของแอสตราเซเนกาหรือไม่

เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนโควิดไม่ถึงเป้าเพราะได้รับวัคซีนช้า

โซล 31 มี.ค. – โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของเกาหลีใต้อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากปัญหาความล่าช้าในการจัดส่งวัคซีน ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนในประชาชนส่วนใหญ่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้เผยว่า เกาหลีใต้จะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากแอสตราเซเนกาล่าช้าออกไปเป็นสัปดาห์ที่สามของเดือนหน้า ทั้งที่ตามกำหนดเดิมต้องได้รับวัคซีนดังกล่าว 690,000 โดส สำหรับฉีดให้ประชาชน 345,000 คนผ่านโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลกในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น  ปัญหาการจัดส่งวัคซีนล่าช้ามีขึ้นในขณะที่เกาหลีใต้กำลังเร่งฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาให้แก่ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป หลังองค์การยาแห่งสหภาพยุโรปประเมินว่าวัคซีนดังกล่าวไม่มีความเชื่อมโยงกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่พบในผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนบางราย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเกาหลีใต้ระบุว่า กำลังพิจารณาขยายระยะเวลารับวัคซีนโดสสองของแอสตราเซเนกาจากเดิม 10 สัปดาห์เป็น 12 สัปดาห์หลังรับวัคซีนโดสแรก วิธีดังกล่าวจะทำให้สามารถนำวัคซีนที่เก็บไว้สำหรับฉีดโดสสองมาฉีดเป็นโดสแรกได้ ทั้งนี้ เกาหลีใต้ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนกว่า 852,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.64 จากประชากรทั้งหมด 52 ล้านคนนับตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกากว่า 791,000 คน และวัคซีนของไฟเซอร์กว่า 60,000 คน ในขณะเดียวกัน เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 506 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจนกลับไปอยู่ในระดับที่สูงกว่า 500 คนอีกครั้งและทำสถิติสูงสุดในรอบ […]

วัคซีนแอสตราเซเนกามีประสิทธิภาพ 76% ในสหรัฐ

แอสตราเซเนกาเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพป้องกันโรคได้ร้อยละ 76 จากการวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ของการทดลองครั้งใหญ่ในสหรัฐ และมีประสิทธิภาพลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 79 ที่รายงานในช่วงต้นสัปดาห์ ซึ่งตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้ข้อมูลเก่า

ไต้หวันอาจจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิดสัปดาห์หน้า

ไทเป 18 มี.ค. – ไต้หวันเสร็จสิ้นการตรวจสอบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ลอตแรกของแอสตราเซเนกาแล้ว และอาจจะเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนครั้งแรกตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป ไต้หวันได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลอตแรกจำนวน 117,000 โดสของแอสตราเซเนกาในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ไดนำมาฉีดให้แก่ประชาชน นายเฉิน สือจง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขไต้หวันแถลงผ่านคลิปวิดีโอว่า หน่วยงานกำกับดูแลอาหารและยาของไต้หวันได้ตรวจสอบวัคซีนจำนวนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้รับวัคซีนมาจากโรงงานในเกาหลีใต้ เขายังระบุเพิ่มเติมว่า ไต้หวันตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์นี้ และจะฉีดให้แก่ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงราว 60,000 คน โดยเน้นไปที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นลำดับแรก ก่อนหน้านี้ ไต้หวันได้ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เกือบ 20 ล้านโดสในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ในจำนวนนี้ มีวัคซีนของแอสตราเซเนกา 10 ล้านโดส อย่างไรก็ดี รัฐบาลไต้หวันไม่ค่อยสนใจข้อกังวลเกี่ยวกับโครงการฉีดวัคซีนโควิดที่ล่าช้า โดยระบุว่า ไต้หวันมีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อในระดับต่ำและยังไม่จำเป็นต้องเร่งฉีดวัคซีนเหมือนกับประเทศอื่น ๆ ที่เผชิญกับการระบาดรุนแรง ขณะนี้ ไต้หวันมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพียง 990 คน และผู้เสียชีวิต 10 คน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ แจงเหตุไม่ฉีดวัคซีน ยึดคำแนะนำแพทย์

นายกรัฐมนตรี แจง เหตุไม่ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ย้ำไม่กลัวฉีดวัคซีน แต่ต้องยึดคำแนะนำแพทย์ ขออย่านำไปเป็นประเด็นดราม่าให้เกิดความเสียหาย

อินโดนีเซียอนุมัติใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาแล้ว

จาการ์ตา 9 มี.ค. – อินโดนีเซียอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาเป็นกรณีฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นวัคซีนขนานที่สองที่นำมาใช้ในโครงการฉีดวัคซีน ท่ามกลางความหวั่นวิตกเรื่องเชื้อโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่มาจากต่างประเทศ หัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลอาหารและยาของอินโดนีเซียหรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ บีพีโอเอ็ม ระบุว่า ทางการจำเป็นต้องเร่งโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนหน้านี้ หน่วยงานดังกล่าวได้อนุมัติใช้วัคซีนของซิโนแวก ไบโอเทค บริษัทเวชภัณฑ์ของจีนเป็นขนานแรกในอินโดนีเซียเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ อินโดนีเซียได้รับวัคซีนของแอสตราเซนเนกากว่า 1 ล้านโดสในช่วงค่ำวานนี้ผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ขององค์การอนามัยโลก อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังได้ประกาศขยายมาตรการคุมเข้มต่าง ๆ ใน 3 จังหวัดตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะที่กำลังพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจที่หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีเมื่อปีที่แล้ว ขณะนี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 1.4 ล้านคน ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษ 6 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 35,000 คน.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันได้รับวัคซีนโควิดลอตแรกแล้ว

ไต้หวันได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ลอตแรกราว 117,000 โดส จากแอสตราเซเนกาแล้ว และหวังว่าจะได้รับวัคซีนเพิ่มมากขึ้นอีก ในขณะที่เตรียมเปิดโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน

เวียดนามได้รับวัคซีนโควิดลอตแรกแล้ว

เวียดนามได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ลอตแรก 117,000 โดสจากแอสตราเซเนกาก่อนที่จะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนในเดือนหน้า

“หมอโสภณ” แจงแอสตราเซเนกา อุดช่องโหว่กลุ่ม 60 ปีขึ้นไป

“หมอโสภณ” แจงวัคซีนแอสตราเซเนกาถึงไทย 24 ก.พ. เช่นกัน โดยจะเข้ามาอุดช่องโหว่ กลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ให้ได้รับวัคซีนจนครบทุกกลุ่ม ย้ำไม่มีสิทธิเลือกวัคซีน ขึ้นอยู่กับปัจจัยความเหมาะสมและเกณฑ์การพิจารณาของแพทย์ ถึงไทยเข้าตรวจกรมวิทย์ รับรองประสิทธิภาพแล้ว สามารถดำเนินการฉีดได้ทันที

ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนโควิดเป็นวันแรก

โตเกียว 17 ก.พ. – ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไฟเซอร์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลในกรุงโตเกียววันนี้เป็นวันแรก สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของญี่ปุ่นเผยแพร่ภาพบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลโตเกียวที่กำลังได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยที่บุคลากรกลุ่มดังกล่าวจัดอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพทางการแพทย์ 40,000 คนที่จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์โดสแรก รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นให้ความสำคัญสูงสุดกับการฉีดวัคซีนให้แก่ชาวญี่ปุ่น 126 ล้านคนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่การจัดแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ดี โครงการฉีดวัคซีนดังกล่าวที่ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 3.7 ล้านคนและผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปราว 36 ล้านคนอาจต้องใช้เวลาถึง 1 ปีจึงจะสำเร็จ นอกจากนี้ ยังเกิดความวิตกกังวลว่า วัคซีนของไฟเซอร์ที่สั่งซื้อมาหลายล้านโดสอาจสูญเปล่าเป็นบางส่วน เนื่องจากญี่ปุ่นประสบปัญหาขาดแคลนเข็มฉีดยาแบบพิเศษที่จะช่วยเพิ่มจำนวนเข็มที่ฉีดได้ต่อวัคซีน 1 ขวด ญี่ปุ่นได้ทำข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 314 ล้านโดสจากไฟเซอร์ แอสตราเซเนกา และโมเดอร์นา ซึ่งเพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชน 157 ล้านคน แม้ญี่ปุ่นพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่มียอดผู้ป่วยพุ่งสูงในช่วงต้นเดือนมกราคม แต่กรุงโตเกียวและอีก 9 จังหวัดยังคงใช้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 415,000 คน และผู้เสียชีวิต 7,013 คน.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5
...