อังกฤษจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิดเข็มสามตั้งแต่สัปดาห์หน้า

ลอนดอน 15 ก.ย. – อังกฤษจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไปตั้งแต่สัปดาห์หน้า ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของอังกฤษแถลงเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่สามให้แก่ประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานดูแลคนชราและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยใช้วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาเป็นวัคซีนหลัก การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นโดยอ้างอิงจากการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบ ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ กล่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือเกี่ยวกับแผนงานของรัฐบาลอังกฤษที่งานแถลงข่าวเดียวกันว่า ทางการมั่นใจว่าวัคซีนจะสร้างความแตกต่างในการใช้ชีวิตของประชาชน และจะสร้างกำแพงภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ที่สูงยิ่งขึ้นในอังกฤษ ทั้งนี้ แผนงานของรัฐบาลอังกฤษยังเรียกร้องให้พิจารณามาตรการต่าง ๆ เช่น การใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิดและการบังคับสวมหน้ากากอนามัย ในกรณีที่ระบบสาธารณสุขอังกฤษเผชิญกับภาวะตึงตัว ขณะนี้ อังกฤษพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่วันละ 30,000 คนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 7.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 134,000 คน โดยรัฐบาลอังกฤษระบุว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่สามจะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการหนักได้.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียแลกวัคซีนของไฟเซอร์ 4 ล้านโดสกับอังกฤษ

ซิดนีย์ 3 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย ประกาศวันนี้ว่า อังกฤษจะส่งวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงแลกเปลี่ยนวัคซีน โดยที่ออสเตรเลียจะส่งวัคซีนจำนวนดังกล่าวคืนอังกฤษในภายหลัง นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันระบุว่า เครื่องบินขนส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์กำลังเดินทางออกจากอังกฤษเพื่อทยอยส่งมอบวัคซีนจำนวน 4 ล้านโดสให้แก่ออสเตรเลียภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า การส่งมอบวัคซีนจากอังกฤษมายังออสเตรเลียถือเป็นข้อตกลงอันดีที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ฉันมิตรของทั้งสองประเทศ เขาขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ พร้อมกล่าวติดตลกว่า เขาติดหนี้เลี้ยงเบียร์ผู้นำอังกฤษ ขณะนี้ นครเมลเบิร์น นครซิดนีย์ และกรุงแคนเบอร์รา กำลังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด ในขณะที่ออสเตรเลียยังคงพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา แม้ออสเตรเลียมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาที่ผลิตใช้เองในประเทศ แต่ชาวออสเตรเลียจำนวนมากกลับรู้สึกลังเลที่จะฉีดวัคซีนดังกล่าว เนื่องจากหวั่นเกรงผลข้างเคียงของภาวะลิ่มเลือดอุดตันชนิดหายากหลังฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา ทั้งนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 58,200 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน โดยฉีดวัคซีนครบสองโดสให้แก่ประชาชนวัยผู้ใหญ่ได้เกือบร้อยละ 40 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว.-สำนักข่าวไทย

นายกฯอังกฤษไม่ต้องกักตัวแม้คนใกล้ชิดติดโควิด

ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษแถลงว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ไม่จำเป็นต้องกักตัว แม้ว่าเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ร่วมคณะเดินทางไปสกอตแลนด์กับเขาเมื่อไม่นานมานี้มีผลตรวจหาเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นบวก

เผยผู้นำอังกฤษเมินล็อกดาวน์เพราะมีแต่ผู้สูงวัยที่จะตาย

ลอนดอน 20 ก.ค. – อดีตที่ปรึกษาระดับสูงของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระบุว่า ผู้นำอังกฤษไม่ได้เตรียมใช้มาตรการล็อกดาวน์สกัดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อรักษาชีวิตผู้สูงอายุเมื่อปีก่อน และไม่ยอมรับว่าระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ หรือเอ็นเอชเอส รองรับผู้ป่วยติดเชื้อไม่ไหว นายโดมินิก คัมมิงส์ อดีตที่ปรึกษาด้านการเมืองของนายกรัฐมนตรีจอห์นสันให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์เป็นครั้งแรกหลังลาออกจากตำแหน่งเมื่อปีก่อนว่า ผู้นำอังกฤษไม่ต้องการใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งที่สองในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีก่อน เพราะเชื่อว่าชาวอังกฤษที่จะเสียชีวิตจากโรคโควิดส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสันต้องการเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระชนมพรรษา 95 พรรษา แม้มีสัญญาณการระบาดของเชื้อโควิดที่สำนักนายกรัฐมนตรีในช่วงเริ่มต้นของการระบาด และทางการก็ได้แจ้งให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการพบปะที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพบปะกับผู้สูงวัย นายคัมมิงส์ ซึ่งกล่าวหารัฐบาลอังกฤษว่าเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดจำนวนมากทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ยังได้เผยแพร่ข้อความต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนที่อ้างว่าเป็นข้อความที่นายกรัฐมนตรีจอห์นสันส่งถึงผู้ช่วย ไม่ว่าจะเป็นข้อความกล่าวติดตลกของผู้นำอังกฤษที่ระบุว่า ผู้สูงวัยอาจติดโควิดและมีอายุยืนยาวได้ เพราะผู้สูงวัยส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตมีอายุเกินอายุขัยเฉลี่ย รวมถึงข้อความของนายกรัฐมนตรีจอห์นสันที่ส่งถึงนายคัมมิงส์ว่า เขาไม่เชื่อเรื่องระบบเอ็นเอชเอสรองรับผู้ป่วยติดเชื้อไม่ไหว และคิดว่าทุกคนควรเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์สไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างอิสระว่าข้อความเหล่านั้นเป็นข้อความที่ผู้นำอังกฤษส่งมาจริงหรือไม่ ในขณะเดียวกัน โฆษกของนายกรัฐมนตรีจอห์นสันกล่าวว่า ผู้นำอังกฤษได้ใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุด ขณะที่พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ ระบุว่า การเปิดเผยเรื่องดังกล่าวของนายคัมมิงส์ทำให้เห็นถึงความจำเป็นของการเปิดไต่สวนสาธารณะ และถือเป็นหลักฐานที่ชี้ว่านายกรัฐมนตรีจอห์นสันตัดสินใจผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทำให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชน ขณะนี้ อังกฤษมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า […]

ผู้นำอังกฤษขอประชาชนระวังตัวแม้ยกเลิกล็อกดาวน์วันนี้

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้มาเป็นเวลากว่าปีในอังกฤษตั้งแต่วันนี้ และขอให้ประชาชนระมัดระวังตัวต่อไป พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ช่วยปกป้องประเทศได้ แม้ยังคงพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้น

อังกฤษกับออสเตรเลียประกาศบรรลุข้อตกลงการค้าเสรี

อังกฤษและออสเตรเลียประกาศบรรลุข้อตกลงการค้าเสรี โดยที่อังกฤษระบุว่า จะทำให้สินค้าอังกฤษที่ส่งออกไปออสเตรเลียปลอดภาษีทั้งหมด กระตุ้นการสร้างงานและธุรกิจทั่วประเทศ

จี 7 จะบริจาควัคซีนโควิด 1 พันล้านโดสให้ประเทศยากจน

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษคาดว่า กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศของโลก หรือจี 7 จะตกลงบริจาควัคซีนโควิด-19 จำนวน 1,000 ล้านโดส ให้แก่ประเทศยากจน

ผู้นำสหรัฐ-อังกฤษเตรียมหารือเปิดการเดินทางระหว่างกัน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษจะหารือร่วมกันเพื่อเปิดการเดินทางระหว่างทั้งสองประเทศโดยเร็วที่สุด

เผยนายกฯ อังกฤษแต่งงานเงียบ ๆ แล้ว

ลอนดอน 30 พ.ค.- สื่ออังกฤษรายงานข่าวนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เข้าพิธีสมรสอย่างเงียบ ๆ กับแคร์รี ซิมอนด์ส คู่หมั้นเมื่อวันเสาร์ตามเวลาอังกฤษ หนังสือพิมพ์หัวสีอย่างเดอะเมลและเดอะซันรายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสันวัย 56 ปี สมรสกับซิมอนด์สวัย 33 ปีที่วิหารเวสต์มินเตอร์ กลางกรุงลอนดอน โดยมีเพียงครอบครัวและเพื่อนสนิทร่วมพิธี เดอะเมลระบุว่า แขกราว 30 คน มากที่สุดตามข้อกำหนดควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้รับเชิญในนาทีสุดท้าย ข่าวนี้สร้างความแปลกใจให้แก่ผู้คน เพราะเมื่อต้นสัปดาห์เพิ่งมีข่าวว่า ทั้งคู่ได้แจกการ์ดเชิญร่วมงานสมรสในวันที่ 30 กรกฎาคมปีหน้า หลังเลื่อนมาจากปีก่อนเพราะสถานการณ์โควิด-19 แต่เดอะซันระบุว่า ทั้งคู่เตรียมการเรื่องนี้มาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน โดยมีอัลเฟรด บุตรชายที่เกิดเมื่อเดือนเมษายน 2563 ร่วมพิธีสมรสด้วย นายกรัฐมนตรีจอห์นสันและซิมอนด์สหมั้นกันในเดือนธันวาคม 2562 เธอเป็นอดีตหัวหน้าฝ่ายสื่อสารพรรคอนุรักษ์นิยมที่เขาเป็นผู้นำอยู่ และเป็นภรรยาคนที่ 3 ของเขา มีข่าวว่า เขามีลูกทั้งหมดอย่างน้อย 6 คน จอห์นสันเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของอังกฤษในรอบเกือบ 200 […]

นายกฯ อังกฤษ ไม่ตำหนิการประท้วงแฟนบอลแมนฯ ยูฯ

นายกรัฐมนตรีอังกฤษไม่ตำหนิแฟนบอลประท้วงก่อนเกมแดงเดือด แสดงให้เห็นถึงการไม่สนับสนุนการก่อตั้งซูเปอร์ลีกของแฟนบอลเช่นเดียวกับรัฐบาลอังกฤษ

อังกฤษเริ่มคลายล็อกดาวน์

ลอนดอน 12 เม.ย.- อังกฤษเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนแล้วในวันนี้ ประชาชนเตรียมกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกขั้นหนึ่ง ทางการอนุญาตให้ผับและร้านอาหารเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มนอกร้าน แม้คาดกันว่าลูกค้าอาจใช้บริการไม่มากนักเนื่องอากาศหนาวเย็น ให้ร้านตัดผมร้านเสริมสวยกลับมาให้บริการอีกครั้งหลังจากปิดไปนานกว่า 3 เดือนตามมาตรการล็อกดาวน์ล่าสุด เช่นเดียวกับร้านค้าปลีกสินค้าไม่จำเป็น โรงยิมในร่ม สระว่ายน้ำ ห้องสมุด และสวนสัตว์ ขณะที่มัสยิดเตรียมเปิดให้ชาวมุสลิมเข้ามาสวดมนต์เนื่องในเทศกาลถือศีลอดหรือรอมฎอนที่จะเริ่มในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี กิจกรรมทุกอย่างยังคงต้องเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากการกิจกรรมในร่ม คาดว่ารัฐบาลจะประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ครั้งถัดไปในวันที่ 17 พฤษภาคม และจะยกเลิกมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมทั้งหมดในวันที่ 21 มิถุนายน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษกล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ว่า เป็นก้าวสำคัญของการจะกลับไปมีเสรีภาพอีกครั้ง เขามั่นใจว่าเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ จะเบาใจขึ้นมาก หลังจากต้องปิดมานาน ทุกคนจะได้กลับไปทำในสิ่งที่รักและคิดถึงอีกครั้ง เดิมนายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศว่า ไปจะฉลองการผ่อนคลายล็อกดาวน์ที่ผับแห่งหนึ่ง ตรงกับวันครบ 1 ปีที่ออกจากโรงพยาบาลหลังจากติดเชื้อโรคโควิด-19 แต่ได้ล้มเลิกความตั้งใจเนื่องจากทั้งประเทศกำลังถวายความอาลัยเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ และพระสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่สิ้นพระชนม์ รัฐมนตรี นักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตือนประชาชนอย่าการ์ดตก แม้มีผู้ใหญ่รับการฉีดวัคซีนแล้วเข็มแรกแล้วกว่าร้อยละ 60 อังกฤษมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมแล้วกว่า 4.3 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 127,000 คน.-สำนักข่าวไทย

1 3 4 5 6
...