fbpx

นายกฯ อังกฤษจะร่วมมือสู้โลกร้อนกับไบเดน

ลอนดอน 24 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ประกาศจะกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการสนทนาทางโทรศัพท์กันครั้งแรกตั้งแต่นายไบเดนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ สำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษแถลงว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสันแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีไบเดน เมื่อวันเสาร์ตามเวลาอังกฤษ ผู้นำทั้งสองมุ่งหวังจะกระชับความเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ ย้ำความเป็นพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและปกป้องประชาธิปไตย หนังสือพิมพ์ซันเดย์เทเลกราฟในอังกฤษรายงานว่า นายจอห์นสันเป็นผู้นำยุโรปคนแรกที่ได้รับโทรศัพท์จากนายไบเดน และได้รับเร็วขึ้นจากกำหนดเดิม 2 วัน สะท้อนถึงความสัมพันธ์พิเศษของสองประเทศ นายกรัฐมนตรีจอห์นสันทวีตภาพตัวเองหัวเราะขณะสนทนาทางโทรศัพท์ และข้อความว่า ยินดีมากที่ได้สนทนากับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ส่วนผู้นำต่างประเทศคนแรกที่ไบเดนโทรศัพท์หาเมื่อวันศุกร์คือ นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ด้านทำเนียบขาวแถลงว่า นายไบเดนได้แสดงเจตจำนงที่จะสร้างเสริมความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสองประเทศ และย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือในประเด็นท้าทายร่วมกัน รวมถึงความร่วมมือผ่านองค์กรพหุภาคี ได้แก่ การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แพร่ระบาด การรับรองความปลอดภัยของโลก และฟื้นความสัมพันธ์ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยการชูบทบาทของนาโตเรื่องการป้องกันร่วมกันและค่านิยมเดียวกัน เอเอฟพีตั้งข้อสังเกตว่า ผู้นำสหรัฐต่อสายตรงหาผู้นำอังกฤษหวังฟื้นความสัมพันธ์ หลังจากที่เคยวิจารณ์ผู้นำอังกฤษในปี 2562 ว่าเป็นร่างโคลนทั้งบุคลิกและความคิดของโดนัลด์ ทรัมป์ นายไบเดนยังเคยวิจารณ์นโยบายของนายจอห์นสันเรื่องสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิต ว่าหากเบร็กซิตส่งผลเสียต่อข้อตกลงกู้ดฟรายเดย์ปี 2541 ยุติเหตุไม่สงบนาน […]

อังกฤษจะใช้ร้านขายยาเป็นจุดฉีดวัคซีนโควิด

ลอนดอน 14 ม.ค. – อังกฤษจะใช้ร้านขายยาเป็นจุดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ประชาชนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากรัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ 1 ล้านคนต่อสัปดาห์ ร้านขายยาชื่อดังตามถนนสายหลักของอังกฤษ เช่น บู๊ทส์และซูเปอร์ดรัก จะเริ่มให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนตามสาขาต่าง ๆ ในชุมชนราว 200 แห่งเป็นเวลา 2 สัปดาห์เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระในการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาล คลินิกแพทย์ และจุดบริการฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ 7 แห่ง นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษกล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ชาวอังกฤษตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีวันหยุดเพื่อให้ประชาชนราว 15 ล้านคนได้รับวัคซีนภายในกลางเดือนหน้า ขณะที่นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษเผยว่า ร้านขายยาเหล่านี้มีทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางชุมชน และมีความพิเศษที่แตกต่างไปจากจุดบริการฉีดวัคซีนของรัฐบาล เนื่องจากร้านขายยาสามารถเข้าถึงผู้คนในชุมชนที่เข้าเกณฑ์ฉีดวัคซีนได้ง่ายกว่า โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สามารถเข้ารับวัคซีน ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ ขณะนี้รัฐบาลอังกฤษได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกให้ประชาชนราว 2.6 ล้านคนแล้ว อังกฤษยังคงเผชิญกับสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็ว โดยทำสถิติผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุด 1,564 […]

อังกฤษมอบเงินเยียวยาธุรกิจหลังประกาศล็อกดาวน์

ลอนดอน 5 ม.ค. – อังกฤษอนุมัติงบประมาณ 4,600 ล้านปอนด์ (187,000 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งที่ 3 ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นายริชี สุนัค รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอังกฤษกล่าวว่า ร้านค้าปลีก สถานบริการ และธุรกิจด้านสันทนาการจะมีสิทธิได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลสูงสุดถึง 9,000 ปอนด์ (365,000 บาท) เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโรคโควิด-19 ให้ภาคธุรกิจสามารถอยู่รอดต่อไปในอีกหลายเดือน ทั้งยังช่วยให้ประชาชนไม่ตกงาน และสามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้งเมื่อภาคธุรกิจเปิดบริการได้ นอกจากนี้ รัฐบาลอังกฤษยังจะมอบเงินสนับสนุนอีก 594 ล้านปอนด์ (ราว 24,000 ล้านบาท) ให้แก่รัฐบาลสก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนืออีกด้วย ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษประกาศล็อกดาวน์ในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยระบุว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แพร่เร็วที่พบในอังกฤษเป็นที่แรกทำให้ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอสของอังกฤษต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลในอีก 21 วันข้างหน้า สหราชอาณาจักรมียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมกว่า 2.7 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 75,000 คน. -สำนักข่าวไทย

อังกฤษอาจคุมเข้มอีกระยะเพื่อสกัดโควิดสายพันธุ์แพร่เร็ว

ลอนดอน 21 ธ.ค.- กรุงลอนดอนและฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษอาจต้องอยู่ภายใต้มาตรการเข้มงวดไปอีกระยะหนึ่งเพื่อควบคุมเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ได้รวดเร็ว ขณะที่ยอดผู้ป่วยใหม่ในวันเดียวทำสถิติสูงสุด นายแมตต์ แฮนคอค รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษเผยกับสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันเริ่มบังคับใช้มาตรการว่า มาตรการเข้มงวดที่ให้ประชากรบนเกาะอังกฤษราวหนึ่งในสามต้องอยู่บ้านหากไม่มีเหตุผลจำเป็น เช่น ไปทำงาน อาจต้องใช้ไปจนกว่าจะมีวัคซีนใช้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์ใหม่สามารถแพร่ได้อย่างรวดเร็ว จะทำให้การควบคุมทำได้ยากมากจนกว่าประชาชนจะได้รับวัคซีน อังกฤษเริ่มฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคเป็นประเทศแรกของโลกเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ขณะที่เมื่อวานนี้มีผู้ป่วยใหม่ 35,928 คน มากที่สุดในวันเดียวนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศ และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่ 326 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการรวมกว่า 67,000 คน ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ว่ากันว่าแพร่ได้เร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมร้อยละ 70 ทำให้เกิดความวิตกในวงกว้าง หลายประเทศในยุโรปดำเนินมาตรการห้ามคนเดินทางจากอังกฤษทั้งทางเครื่องบินและรถไฟ ด้านนายเคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นฝ่ายค้านแถลงว่า สนับสนุนให้ใช้มาตรการเข้มงวดขึ้น แต่ตำหนินายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันว่ารอนานถึง 11 ชั่วโมงกว่าจะประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า ยกเลิกแผนการผ่อนปรนที่อนุญาตให้คนต่างครอบครัวสังสรรค์ด้วยกันได้สูงสุด 3 ครอบครัวในช่วงคริสต์มาส 5 วัน และประกาศใช้มาตรการจำกัดระดับ 4 ที่คล้ายกับการล็อกดาวน์ประเทศเมื่อเดือนมีนาคมกับกรุงลอนดอนและฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษ.-สำนักข่าวไทย

นายกฯอังกฤษจะเยือนอินเดียหลังเบร็กซิต

ลอนดอน 15 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษจะเยือนอินเดียในเดือนมกราคม เป็นการเยือนครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งและจะเป็นประเทศแรกหลังสหราชอาณาจักร (ยูเค) ออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิตสิ้นเดือนนี้ จอห์นสันรับตำแหน่งตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน เขาต้องการส่งเสริม “ความเป็นอังกฤษระดับโลก” ตั้งแต่เบร็กซิตอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม และจะสิ้นสุดช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านในวันที่ 31 ธันวาคม ตั้งเป้ากระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ นอกภูมิภาค และดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศที่ถูกกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ผู้นำอังกฤษวัย 56 ปีกล่าวว่า ยินดีอย่างยิ่งที่จะไปเยือนอินเดียในปีนี้ อันเป็นการเริ่มต้นปีที่น่าตื่นเต้นของอังกฤษระดับโลก และต้องการทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีก้าวหน้าขึ้นมากอย่างทันทีทันใดตามที่เขาและนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียเคยรับปากไว้ อินเดียในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเป็นหุ้นส่วนที่ขาดไม่ได้สำหรับยูเคมากยิ่งขึ้น เพราะทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมการจ้างงานและการเติบโต เผชิญหน้ากับภัยคุกคามความมั่นคง และปกป้องโลกใบนี้ร่วมกัน ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษแถลงเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมพิธีสวนสนามเนื่องในวันสาธารณอินเดีย 26 มกราคมปีหน้าในกรุงนิวเดลีของอินเดีย.-สำนักข่าวไทย

นายกอังกฤษเตรียมแถลงมาตรการสกัดโควิด

ลอนดอน 26 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษเตรียมแถลงข่าวเกี่ยวกับมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในชุมชน หลังเข้าสู่มาตรการกักตัวมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ นายริชี ซูนัก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอังกฤษเผยว่า นายจอห์นสันจะเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น และจะแถลงข่าวว่า พื้นที่ใดต้องใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในชุมชนต่อไปหลังจากที่สิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนหน้า นายซูนักกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเข้าใจถึงความรู้สึกของประชาชนที่ต้องใช้ชีวิตอย่างอึดอัดภายใต้มาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะในรอบเดือนที่ผ่านมา แต่ทุกคนจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้นในตอนนี้เมื่อเทียบกับในช่วง 4 สัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ คาดว่าหลายพื้นที่ของอังกฤษจะยังคงห้ามการทำกิจกรรมร่วมกันในที่พักอาศัยแม้สิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์ในสัปดาห์หน้า. -สำนักข่าวไทย

อังกฤษเผยนายกฯ สบายดี จะทำงานผ่านซูม

ลอนดอน 16 พ.ย.- นายแมตต์ แฮนคอค รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษเผยวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันยังคงสบายดี หลังจากกักตัวเพราะใกล้ชิดผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และจะบริหารประเทศผ่านแอปพลิเคชันซูม (Zoom) นายแฮนคอคให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสันสบายดี เต็มไปด้วยกำลังวังชา เชื่อว่าจะเดินหน้าทำงานในสัปดาห์นี้ผ่านซูม แอปประชุมทางไกล รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษแสดงความมั่นใจดังกล่าวหลังจากนายกรัฐมนตรีจอห์นสันวัย 56 ปี เผยเมื่อวานนี้ว่า ได้รับแจ้งจากบริการตรวจและติดตามของสถาบันปกป้องสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ให้กักตัวเองเป็นเวลาสองสัปดาห์ เนื่องจากเมื่อวันพฤหัสบดีได้ประชุมนาน 35 นาทีกับนายลี แอนเดอร์สัน ส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยมที่สูญเสียการรับรสในวันถัดมา นายกรัฐมนตรีจอห์นสันโพสต์คลิปในวันนี้ ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามระเบียบและกักตัวเองหากได้รับแจ้งจากบริการดังกล่าวของเอ็นเอชเอส ผู้นำอังกฤษเคยติดโรคโควิด-19 ในเดือนมีนาคม ครั้งนั้นเขายังฝืนทำงานทั้งที่มีอาการ สุดท้ายต้องเข้าหอผู้ป่วยวิกฤตและสวมเครื่องช่วยหายใจ ต้องพักรักษาตัวนานร่วมเดือน เขายอมรับหลังจากนั้นว่า เกือบเอาชีวิตไม่รอด และรัฐบาลต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดว่าอาจมีนายกรัฐมนตรีเสียขีวิตขณะดำรงตำแหน่ง.-สำนักข่าวไทย

เผยนายกฯ อังกฤษเล็งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ

ลอนดอน 31 ต.ค.- สื่ออังกฤษเผยนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันกำลังพิจารณาเรื่องประกาศมาตรการปิดเมืองหรือล็อกดาวน์ทั่วประเทศครั้งใหม่ในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางกระแสวิตกว่าโรงพยาบาลทั่วประเทศกำลังมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้นจนเกินความสามารถที่จะรับไหว หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์คาดการณ์ว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสันจะแถลงข่าวในวันจันทร์เพื่อประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ตั้งแต่วันพุธไปจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม ปิดทุกสถานที่ ยกเว้นร้านค้าจำเป็นและสถานศึกษา อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเผยว่า รัฐบาลยังอยู่ระหว่างหารือและยังไม่ได้ข้อสรุป แหล่งข่าวเผยด้วยว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องใช้มาตรการระดับท้องถิ่นที่เข้มงวดขึ้นหรือที่เรียกว่า ระดับ 4 จากปัจจุบันที่ใช้ 3 ระดับเฉพาะในอังกฤษ เพราะสกอตแลนด์ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือมีนโยบายรับมือโรคโควิด-19 ของตนเอง แต่คณะรัฐมนตรีสนับสนุนให้ใช้นโยบายระดับประเทศมากกว่า สหราชอาณาจักรแจ้งเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ป่วยใหม่ 24,405 คน เสียชีวิตเพิ่ม 247 คน มีผู้ป่วยใหม่เฉลี่ยวันละกว่า 20,000 คนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า อัตราการติดเชื้อในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อลดการติดเชื้อ กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเป็นไปได้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 80,000 คน อาจเลวร้ายกว่านั้น ขณะนี้สหราชอาณาจักรมีผู้ป่วยสะสม 965,340 คน เสียชีวิตรวม 45,955 คน.-สำนักข่าวไทย

หญิงอเมริกันอ้างมีสัมพันธ์กับนายกฯอังกฤษ

ลอนดอน 17 ต.ค.- สตรีอเมริกันที่เป็นผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีอ้างว่า มีความสัมพันธ์พิเศษมาก ๆ กับนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษช่วงที่เขาเป็นนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เดลีเมล หนังสือพิมพ์หัวสีในอังกฤษฉบับลงบทสัมภาษณ์เจนนิเฟอร์ อาร์คิวรี วัย 35 ปี ที่ตอบคำถามเรื่องเคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้นำอังกฤษหรือไม่ว่า เธอคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูด เพราะมีความชัดเจนมากอยู่แล้ว จอห์นสันซึ่งในขณะนั้นมีภรรยาคนที่สองคือนางมารียา วีลเลอร์ ทุ่มเทความรักให้เธออย่างเหลือล้น เธอและเขามีความสัมพันธ์พิเศษมาก ๆ แต่ไม่ยอมพูดอย่างชัดเจนว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงชู้สาวหรือไม่ อาร์คิวรีให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์หลายแห่งตั้งแต่เป็นข่าว นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน วัย 56 ปี ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนปี 2551-2559 ก่อนมาเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมและนายกรัฐมนตรีในเดือนกรกฎาคมปีก่อนเนื่องจากนางเทรเซา เมย์ลาออก ต่อมาหนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทมส์ลงข่าวว่า ช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเขาไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ส่วนตัวกับอาร์คิวรี ถือว่าผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะเธอและบริษัทของเธอได้รับเงินจากรัฐบาล เธอได้ร่วมเดินทางพร้อมคณะการค้าของทางการหลายครั้ง สำนักงานอิสระว่าด้วยความประพฤติตำรวจเปิดการสอบสวนในเดือนกันยายนปีเดียวกัน เนื่องจากช่วงที่เป็นนายกเทศมนตรี จอห์นสันเป็นหัวหน้าสำนักงานการตรวจตราและอาชญากรรมของเมืองด้วย อย่างไรก็ดี สำนักงานประกาศในเดือนพฤษภาคมว่า จะยุติการสอบสวนทางอาญาในเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย

1 4 5 6
...