ยูเครนเผยรัสเซียรุกโจมตีกว่า 40 เมืองในภูมิภาคดอนบาส

เคียฟ 26 พ.ค. – กองทัพยูเครนระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงปืนใหญ่โจมตีกว่า 40 เมืองของภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน พร้อมทั้งขู่ปิดเส้นทางอพยพหลักเส้นสุดท้ายของพลเรือนที่ติดอยู่ในเมือง ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบเข้าสู่เดือนที่สี่ กองกำลังเฉพาะกิจร่วม (Joint Task Force) ของกองทัพยูเครนเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า กองทัพรัสเซียได้ระดมยิงปืนใหญ่โจมตีกว่า 40 เมืองในภูมิภาคโดเนตสก์และลูฮันสก์ ทำให้สถานที่ของพลเรือนเสียหาย 47 หลัง รวมถึงบ้านเรือน 38 หลังและโรงเรียน 1 แห่ง การโจมตีดังกล่าวยังทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 5 รายและผู้บาดเจ็บ 12 คน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า กองทัพยูเครนได้ขับไล่ศัตรูออกจากพื้นที่ 10 แห่ง ทำลายรถถัง 4 คัน โดรน 4 ลำ และสังหารทหารฝ่ายศัตรู 62 นาย ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวผ่านคลิปวิดีโอเมื่อคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ขณะนี้กองทัพรัสเซียมีจำนวนทหารมากกว่ายูเครนในบางพื้นที่ของภาคตะวันออก พร้อมทั้งแสดงความเห็นต่อการเปลี่ยนระเบียบเกณฑ์ทหารครั้งใหม่ของรัสเซียว่า รัสเซียไม่มีประชากรวัยหนุ่มมากพอที่จะเป็นทหารเกณฑ์ แต่ยังคงมีเจตนาที่จะสู้ต่อไป และคงต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อทำให้รัสเซียยอมรับความจริงในเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ […]

“เซเลนสกี” เผยจะคุยกับ “ปูติน” โดยตรงเท่านั้น

ดาวอส 25 พ.ค.-ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยวันนี้ว่า เขาต้องการคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย โดยตรงเท่านั้น และจะไม่ใช้การเจรจาผ่านคนกลางอีกต่อไป ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวในที่ประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัมในเมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 22-26 พฤษภาคม ว่า ถ้าประธานาธิบดีปูตินอยู่กับความเป็นจริง ก็จะมีโอกาสใช้วิถีทางการทูตเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ยูเครนจะเดินหน้าต่อสู้กับรัสเซียต่อไปจนกว่าจะยึดดินแดนทั้งหมดกลับคืนมา รัสเซียควรถอนกำลังทหารกลับไปอยู่ในพื้นที่ที่ใช้เป็นฐานที่มั่นก่อนเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ การทำเช่นนี้อาจเป็นย่างก้าวแรกในการเปิดทางสู่การเจรจา ทั้งยังระบุว่า รัสเซียมักมีท่าทีไม่จริงจังหลายครั้งในการเจรจากับยูเครน ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของทางการยูเครนระบุว่า กองทัพรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีหลายเมืองทางภาคตะวันออกของยูเครนในวันนี้ด้วยการยิงปืนครกใส่บ้านเรือนหลายหลังและทำให้มีประชาชนเสียชีวิตหลายคน ในขณะที่รัสเซียยังคงตั้งเป้าโจมตีภูมิภาคดอนบาส แหล่งอุตสาหกรรมทางตะวันออกของยูเครน ด้านนายเซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการเมืองลูฮันสก์ในภูมิภาคดอนบาส เผยว่า มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 8 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่ใกล้หลุมหลบภัยในเมืองซีวีโรโดเนตสก์ที่ถูกรัสเซียโจมตีอยู่ในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” เผยอาจมีคนตายในภูมิภาคดอนบาสวันละ 100

เคียฟ 23 พ.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า ยูเครนอาจมีผู้เสียชีวิตวันละ 50-100 รายในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ขณะที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุว่า ทหารรัสเซียอาจเสียชีวิตมากถึง 15,000 นายในช่วงสงคราม 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเทียบเท่ากับตัวเลขทหารที่เสียชีวิตเมื่อครั้งที่สหภาพโซเวียตทำสงครามในอัฟกานิสถานเป็นเวลา 9 ปี ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ยูเครนอาจมีผู้เสียชีวิตวันละ 50-100 รายในภูมิภาคดอนบาส ผู้เสียชีวิตเหล่านี้เป็นผู้ที่พยายามปกป้องยูเครนจากการถูกรัสเซียรุกราน อย่างไรก็ดี ผู้นำยูเครนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ดูเหมือนว่าข้อคิดเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสียทางทหารและชี้ให้เห็นว่าการต่อสู้ในภูมิภาคดอนบาสมีความรุนแรงมากเพียงใด ในขณะที่กองทัพรัสเซียกำลังพยายามบุกยึดเมืองต่าง ๆ ในภูมิภาคดอนบาส โดยเฉพาะเมืองซีวีโรโดเนตสก์ ในขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมอังกฤษ เผยว่า ทหารรัสเซียอาจเสียชีวิตมากถึง 15,000 นายในช่วงสงคราม 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเทียบเท่ากับตัวเลขทหารที่เสียชีวิตเมื่อครั้งที่สหภาพโซเวียตทำสงครามในอัฟกานิสถานเป็นเวลา 9 ปี ทั้งยังระบุว่า อัตราทหารรัสเซียที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจำนวนมากในการบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาสเป็นผลมาจากการวางแผนกลยุทธ์ที่ไม่ดี มีข้อจำกัดเรื่องเครื่องบินคุ้มกันทางอากาศ การขาดความยืดหยุ่น และแนวทางบัญชาการที่ทำให้เกิดความล้มเหลว กระทรวงกลาโหมอังกฤษยังคาดการณ์ว่า ยอดทหารรัสเซียที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้ประชาชนรัสเซียรับรู้และไม่พอใจกับการทำสงครามในครั้งนี้มากขึ้น. -สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” เผยรัสเซียระเบิดโรงเรียน เสียชีวิต 60 ราย

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่ารัสเซียได้ทิ้งระเบิดใส่โรงเรียนแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกของยูเครน ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตราว 60 ราย

‘เซเลนสกี’ เผยรัสเซียทำลายสถานพยาบาลในยูเครน 400 แห่ง

เคียฟ 6 พ.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า กองทัพรัสเซียได้ทำลายโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์เกือบ 400 แห่งในยูเครน จนทำให้แพทย์ขาดแคลนยาที่ใช้รักษาโรคมะเร็งหรืออุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้ในการผ่าตัด ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุว่า หลายเมืองในภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครนกำลังประสบปัญหาขาดแคลนยาที่ใช้รักษาโรคมะเร็ง ยาอินซูลินสำหรับรักษาโรคเบาหวาน อุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้ในการผ่าตัด หรือแม้แต่ยาปฏิชีวนะก็มีไม่เพียงพอ นับถึงตอนนี้กองทัพรัสเซียได้โจมตีหรือทำลายโรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์ และสถานพยาบาลต่าง ๆ ในยูเครนเกือบ 400 แห่ง โดยเฉพาะในเมืองที่รัสเซียได้เข้าไปยึดครอง ก่อนหน้านี้ กองทัพรัสเซียถูกทั่วโลกประณามจากการเปิดฉากโจมตีโรงพยาบาลแม่และเด็กแห่งหนึ่งในเมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครนเมื่อวันที่ 9 มีนาคม แต่รัสเซียอ้างว่าภาพถ่ายความเสียหายที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียเป็นฝีมือการจัดฉากของยูเครน และโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของกองทัพยูเครน นอกจากนี้ รัสเซียยืนกรานมาโดยตลอดว่าไม่เคยมุ่งเป้าโจมตีพลเรือน อย่างไรก็ดี ทางการยูเครนระบุว่า ยังคงพบพลเรือนที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการถูกรัสเซียโจมตีเป็นประจำทุกวันและกล่าวหารัสเซียว่าก่ออาชญากรรมสงคราม แต่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดของยูเครน.-สำนักข่าวไทย

เลขาฯ ยูเอ็นยอมรับ “UNSC” ล้มเหลวเรื่องสงครามยูเครน

เคียฟ 29 เม.ย. – นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ยอมรับว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ประสบความล้มเหลวในการป้องกันหรือยุติสงครามในยูเครน ขณะที่กรุงเคียฟเกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้งในระหว่างที่นายกูเตอร์เรสเดินทางเยือนยูเครน นายกูเตอร์เรสกล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดีว่า ยูเอ็นเอสซีประสบความล้มเหลวในการใช้อำนาจที่มีอยู่เพื่อป้องกันหรือยุติสงครามในยูเครน ซึ่งทำให้หลายคนผิดหวัง คับข้องใจ และโกรธเคือง แต่เขาขอยืนยันกับประธานาธิบดีเซเลนสกีและประชาชนยูเครนตรงนี้ว่า ยูเอ็นจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจในการดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อยุติในสงครามครั้งนี้ ทั้งนี้ รัสเซียเป็น 1 ใน 5 ประเทศสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซีและได้ใช้สิทธิยับยั้ง หรือวีโต้ (Veto) มติของยูเอ็นเอสซีที่เรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตียูเครนมากกว่า 1 ครั้ง ทางด้านประธานาธิบดีเซเลนสกีแถลงว่า นายกูเตอร์เรสได้มีโอกาสลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมสงครามของรัสเซียด้วยตาตัวเองเมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมทั้งกล่าวหาการกระทำดังกล่าวของรัสเซียในยูเครนว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของกรุงเคียฟเผยว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้งที่เขตเชฟเชนโกของกรุงเคียฟในขณะที่นายกูเตอร์เรสเดินทางเยือนยูเครน.-สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” เผยผู้นำอินโดนีเซียเชิญประชุมสุดยอดจี 20

จาการ์ตา 28 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ได้เชิญเขาเข้าร่วมในงานประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือจี 20 ที่อินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายนนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุผ่านทวิตเตอร์ในวันพุธว่า เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีวิโดโด และรู้สึกขอบคุณที่ผู้นำอินโดนีเซียเชิญเขาเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่มจี 20 แต่ประธานาธิบดีเซเลนสกีไม่ได้ระบุว่า เขาจะเข้าร่วมงานประชุมดังกล่าวที่จะจัดขึ้นที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียในเดือนพฤศจิกายนนี้หรือไม่ ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีอินโดนีเซียและสำนักเลขาธิการของอินโดนีเซียยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนโฆษกกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซียไม่ได้ยืนยันเกี่ยวกับคำพูดของประธานาธิบดีเซเลนสกี แต่ระบุว่า นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซีย กำลังปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเพื่อรายงานผลต่อประธานาธิบดีวิโดโด สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ยูเครนไม่ได้เป็นประเทศสมาชิกของกลุ่มจี 20 แต่ประเทศที่เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมมีสิทธิเชิญประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมการประชุมในฐานะแขกรับเชิญได้ ก่อนหน้านี้ ประเทศสมาชิกบางส่วนของกลุ่มจี 20 เรียกร้องอินโดนีเซียไม่เชิญประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ แต่อินโดนีเซียไม่เห็นด้วยโดยให้เหตุผลว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจทำเช่นนั้น ด้านนักวิเคราะห์การเมืองของศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษาระหว่างประเทศของอินโดนีเซียให้ความเห็นว่า ความตั้งใจของอินโดนีเซียในการเชิญประธานาธิบดีเซเลนสกีเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดของกลุ่มจี 20 สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามรักษาการมีส่วนร่วมของประเทศสมาชิกทั้งหมดของกลุ่ม รวมถึงการเปิดโอกาสให้รัสเซียกับยูเครนหาทางแก้ไขปัญหาขัดแย้งเพื่อสันติภาพและความสงบสุข.-สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” ยินดี “มาครง” คว้าชัยเลือกตั้งอีกสมัย

ปารีส 25 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และผู้นำจากหลายประเทศทั่วโลก กล่าวแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่คว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสอีกสมัย ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุผ่านทวิตเตอร์เป็นภาษายูเครนและฝรั่งเศสว่า ประธานาธิบดีมาครงเป็นมิตรแท้ของยูเครน และกล่าวขอบคุณฝรั่งเศสที่ให้การสนับสนุนยูเครนท่ามกลางสถานการณ์ที่ถูกรัสเซียบุกโจมตี เขาขอให้ประธานาธิบดีมาครงประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวฝรั่งเศส เขาเชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะเดินหน้าไปพร้อมกันเพื่อมุ่งสู่ชัยชนะร่วมกันครั้งใหม่ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีมาครงได้มีบทบาทสำคัญในการพยายามยุติสงครามในยูเครนด้วยการเดินทางไปพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่กรุงมอสโกก่อนที่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และต่อสายคุยกับผู้นำรัสเซียหลายครั้ง ในขณะเดียวกัน ยังมีผู้นำจากหลายประเทศที่ร่วมแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีมาครงเช่นเดียวกัน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระบุว่า เขาขอแสดงความยินดีต่อชัยชนะของประธานาธิบดีมาครงและพร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้นำฝรั่งเศสต่อไป โดยที่ฝรั่งเศสถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่แน่นแฟ้นที่สุดและสำคัญที่สุดของอังกฤษ ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาขอแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีมาครงที่คว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งอีกสมัย ฝรั่งเศสเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐและมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความท้าทายระดับโลก เขาหวังที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้นำฝรั่งเศสในด้านต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนยูเครน การปกป้องประชาธิปไตย และการรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ ยังมีผู้นำประเทศอื่น ๆ ที่ออกมาแสดงความยินดีต่อชัยชนะของประธานาธิบดีมาครง เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา อิตาลี สวีเดน โรมาเนีย […]

“ปูติน” อ้างรัสเซียคว้าชัยในเมืองมารีอูปอลแล้ว

เคียฟ 22 เม.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อ้างว่า กองทัพรัสเซียคว้าชัยชนะจากการก่อสงครามครั้งใหญ่ในยูเครนด้วยการประกาศว่า รัสเซียสามารถ ‘ปลดแอก’ เมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครน หลังปิดล้อมเมืองนี้มานานเกือบ 2 เดือน ขณะที่สหรัฐแย้งว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวของผู้นำรัสเซียเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ประธานาธิบดีปูตินอ้างว่า กองทัพรัสเซียคว้าชัยชนะจากการก่อสงครามครั้งใหญ่ในยูเครนด้วยการประกาศว่า รัสเซียสามารถ ‘ปลดแอก’ เมืองมารีอูปอลสำเร็จ ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ยังคงมีทหารและพลเรือนของยูเครนอีกหลายร้อยคนหลบซ่อนอยู่ในโรงงานเหล็กอาซอฟสตอลในเมืองมารีอูปอล โดยที่ประธานาธิบดีปูตินได้สั่งให้กองทัพรัสเซียปิดล้อมโรงงานแห่งนี้อย่างแน่นหนาอย่างที่แมลงวันตัวเดียวก็ไม่อาจบินหนีออกมาได้ อย่างไรก็ดี กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐเข้าใจว่ากองทัพยูเครนยังคงยืนหยัดต้านกองทัพรัสเซียอยู่ในเมืองมารีอูปอล และเรียกข้อกล่าวอ้างปลดแอกเมืองนี้ของประธานาธิบดีปูตินว่าเป็นลูกไม้เดิม ๆ ของรัสเซียเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐยังประกาศมอบเงินสนับสนุนกองทัพยูเครนเพิ่มอีก 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 27,000 ล้านบาท) รวมถึงการส่งอาวุธหนักให้แก่ยูเครนอีกด้วย ด้านทางการยูเครนเผยว่า ประธานาธิบดีปูตินต้องการหลีกเลี่ยงการปะทะครั้งสุดท้ายกับกองทัพยูเครนในเมืองมารีอูปอล เนื่องจากรัสเซียมีกำลังทหารไม่เพียงพอที่จะเอาชนะทหารยูเครนได้ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุผ่านคลิปวิดีโอในงานสัมมนาของธนาคารโลกหรือเวิลด์แบงก์ว่า เขาขอให้ชาติตะวันตกส่งอาวุธให้แก่ยูเครนเพิ่มเติม และประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียมากขึ้น ยูเครนจำเป็นต้องใช้งบประมาณเดือนละ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (23.7 […]

“เซเลนสกี” ชี้ถ้ายูเครนได้อาวุธดีเท่ารัสเซียก็จบสงครามได้

เคียฟ 20 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า หากยูเครนได้รับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีเทียบเท่ากับรัสเซีย ก็สามารถจบสงครามในครั้งนี้ได้ ขณะที่ทางการยูเครนได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับรัสเซียในการเปิดระเบียงมนุษยธรรม (humanitarian corridor) เพื่ออพยพผู้หญิง เด็ก และผู้สูงวัย ออกจากเมืองมารีอูปอลในวันนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวคำปราศรัยผ่านคลิปวิดีโอว่า เขาได้พูดคุยและเจรจากับผู้นำประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเกี่ยวกับความไม่ยุติธรรมที่ยูเครนยังคงต้องออกมาร้องขอให้ชาติพันธมิตรช่วยส่งอาวุธที่เก็บไว้นานแรมปีให้แก่ยูเครน หากประเทศต่าง ๆ มีอาวุธและกระสุนที่ยูเครนจำเป็นต้องใช้ ก็ควรส่งมาให้ยูเครนเพื่อช่วยปกป้องเสรีภาพและรักษาชีวิตของประชาชนยูเครน ทั้งยังระบุว่า กองทัพรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีเมืองคาร์คิฟในภูมิภาคดอนบาส และภูมิภาคดนิโปรเปตรอฟสก์ ทางตะวันออกของยูเครน อย่างหนักหน่วงมากขึ้น รวมถึงการตั้งเป้าโจมตีอาคารที่พักอาศัยของพลเรือนด้วย ขณะที่อิรินา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน เผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ยูเครนได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับรัสเซียในการเปิดระเบียงมนุษยธรรมเพื่ออพยพผู้หญิง เด็ก และผู้สูงวัย ออกจากเมืองมารีอูปอลในวันนี้ ทางการจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการอพยพประชาชนออกจากเมืองมารีอูปอลที่เผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายด้านมนุษยธรรม ด้านนายวาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมารีอูปอลที่ออกจากเมืองไปแล้ว กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของยูเครนว่า ยูเครนจะส่งรถโดยสาร 90 คันไปยังเมืองมารีอูปอลในวันนี้เพื่ออพยพผู้หญิง เด็ก และผู้สูงวัยราว 6,000 คน โดยคาดว่ายังมีพลเรือนอีกราว 100,000 คนที่ติดอยู่ในเมืองดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย

ทำเนียบขาวสหรัฐเผย “ไบเดน” ไร้แผนเยือนยูเครน

วอชิงตัน 19 เม.ย. – ทำเนียบขาวสหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ยังไม่มีแผนเดินทางเยือนยูเครน แม้ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐแสดงท่าทีสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซียด้วยการเดินทางเยือนกรุงเคียฟก็ตาม นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐ ระบุเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เธอขอเน้นย้ำให้ชัดเจนอีกครั้งว่า ประธานาธิบดีไบเดนยังไม่มีแผนเดินทางเยือนยูเครน ถ้าสหรัฐจะส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไป ก็จะไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางหรือชื่อบุคคลด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ทั้งยังระบุว่า สหรัฐมีเจตนาจะเปิดสถานทูตสหรัฐประจำยูเครนในกรุงเคียฟอีกครั้งเนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวกับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาคิดว่าประธานาธิบดีไบเดนจะเดินทางเยือนยูเครน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้นำสหรัฐและการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยในยูเครน ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าประธานาธิบดีไบเดนควรเดินทางเยือนยูเครนเพื่อให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ด้วยตาตัวเอง เพราะเขาเป็นผู้นำสหรัฐ ส่วนนายดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน เผยกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐว่า เขารู้สึกชื่นชมประธานาธิบดีไบเดนที่ให้การสนับสนุนยูเครน และการเดินทางเยือนยูเครนของผู้นำสหรัฐจะสื่อให้เห็นว่าสหรัฐมีท่าทีสนับสนุนยูเครนอย่างจริงจัง อย่างไรก็ดี การเดินทางเยือนยูเครนของประธานาธิบดีไบเดนอาจทำให้เกิดข้อวิตกกังวลด้านความปลอดภัยมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลสหรัฐเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐอาจส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง เช่น นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ หรือพลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เดินทางเยือนยูเครนแทนผู้นำสหรัฐ ส่วนประธานาธิบดีไบเดนระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สหรัฐกำลังตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอยู่. -สำนักข่าวไทย

ยูเครนเผยรัสเซียเปิดฉากบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาสแล้ว

เคียฟ 19 เม.ย.-ยูเครน ระบุว่า รัสเซียได้เริ่มการโจมตีครั้งใหม่ในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ตามที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับรายงานเหตุระเบิดในพื้นที่แนวรบด้านหน้าของภูมิภาคดอนบาสและการถูกโจมตีในภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวคำปราศรัยผ่านคลิปวิดีโอว่า รัสเซียได้เริ่มเปิดฉากบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนเมื่อวันจันทร์ และกองทัพรัสเซียส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการบุกโจมตีภูมิภาคดังกล่าว ทั้งยังระบุว่า ไม่ว่ารัสเซียจะเพิ่มกำลังทหารบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาสมากขึ้นเท่าใดก็ตาม แต่ยูเครนก็จะสู้เพื่อปกป้องประเทศชาติอย่างสุดกำลัง ขณะที่นายอังดรี เยอร์มัก หัวหน้าฝ่ายบริหารของทำเนียบประธานาธิบดียูเครน เรียกการโจมตีดังกล่าวว่าเป็นสงครามระยะที่สอง เขามั่นใจว่ายูเครนจะสามารถต้านทานการโจมตีของรัสเซียได้ และขอให้ชาวยูเครนเชื่อมั่นในกองทัพยูเครนที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ในขณะเดียวกัน สื่อของยูเครนรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่แนวรบด้านหน้าของภูมิภาคดอนบาส และเหตุระเบิดในพื้นที่บางแห่งก็รุนแรงมาก รวมถึงการถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่ที่เมืองมารินกา สลาฟยันสก์ และครามาตอร์สก์ ส่วนเจ้าหน้าที่และสื่อท้องถิ่นของยูเครนระบุตรงกันว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นในเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน เมืองไมโคลาอีฟ ทางตอนใต้ของยูเครน และเมืองซาปอริชเชีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน. -สำนักข่าวไทย

1 4 5 6 7 8 9
...