“เซเลนสกี” ชี้ถ้ายูเครนได้อาวุธดีเท่ารัสเซียก็จบสงครามได้

เคียฟ 20 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า หากยูเครนได้รับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีเทียบเท่ากับรัสเซีย ก็สามารถจบสงครามในครั้งนี้ได้ ขณะที่ทางการยูเครนได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับรัสเซียในการเปิดระเบียงมนุษยธรรม (humanitarian corridor) เพื่ออพยพผู้หญิง เด็ก และผู้สูงวัย ออกจากเมืองมารีอูปอลในวันนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวคำปราศรัยผ่านคลิปวิดีโอว่า เขาได้พูดคุยและเจรจากับผู้นำประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเกี่ยวกับความไม่ยุติธรรมที่ยูเครนยังคงต้องออกมาร้องขอให้ชาติพันธมิตรช่วยส่งอาวุธที่เก็บไว้นานแรมปีให้แก่ยูเครน หากประเทศต่าง ๆ มีอาวุธและกระสุนที่ยูเครนจำเป็นต้องใช้ ก็ควรส่งมาให้ยูเครนเพื่อช่วยปกป้องเสรีภาพและรักษาชีวิตของประชาชนยูเครน ทั้งยังระบุว่า กองทัพรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีเมืองคาร์คิฟในภูมิภาคดอนบาส และภูมิภาคดนิโปรเปตรอฟสก์ ทางตะวันออกของยูเครน อย่างหนักหน่วงมากขึ้น รวมถึงการตั้งเป้าโจมตีอาคารที่พักอาศัยของพลเรือนด้วย ขณะที่อิรินา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน เผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ยูเครนได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับรัสเซียในการเปิดระเบียงมนุษยธรรมเพื่ออพยพผู้หญิง เด็ก และผู้สูงวัย ออกจากเมืองมารีอูปอลในวันนี้ ทางการจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการอพยพประชาชนออกจากเมืองมารีอูปอลที่เผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายด้านมนุษยธรรม ด้านนายวาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมารีอูปอลที่ออกจากเมืองไปแล้ว กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของยูเครนว่า ยูเครนจะส่งรถโดยสาร 90 คันไปยังเมืองมารีอูปอลในวันนี้เพื่ออพยพผู้หญิง เด็ก และผู้สูงวัยราว 6,000 คน โดยคาดว่ายังมีพลเรือนอีกราว 100,000 คนที่ติดอยู่ในเมืองดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย

ทำเนียบขาวสหรัฐเผย “ไบเดน” ไร้แผนเยือนยูเครน

วอชิงตัน 19 เม.ย. – ทำเนียบขาวสหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ยังไม่มีแผนเดินทางเยือนยูเครน แม้ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐแสดงท่าทีสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซียด้วยการเดินทางเยือนกรุงเคียฟก็ตาม นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐ ระบุเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เธอขอเน้นย้ำให้ชัดเจนอีกครั้งว่า ประธานาธิบดีไบเดนยังไม่มีแผนเดินทางเยือนยูเครน ถ้าสหรัฐจะส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไป ก็จะไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางหรือชื่อบุคคลด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ทั้งยังระบุว่า สหรัฐมีเจตนาจะเปิดสถานทูตสหรัฐประจำยูเครนในกรุงเคียฟอีกครั้งเนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวกับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาคิดว่าประธานาธิบดีไบเดนจะเดินทางเยือนยูเครน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้นำสหรัฐและการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยในยูเครน ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าประธานาธิบดีไบเดนควรเดินทางเยือนยูเครนเพื่อให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ด้วยตาตัวเอง เพราะเขาเป็นผู้นำสหรัฐ ส่วนนายดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน เผยกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐว่า เขารู้สึกชื่นชมประธานาธิบดีไบเดนที่ให้การสนับสนุนยูเครน และการเดินทางเยือนยูเครนของผู้นำสหรัฐจะสื่อให้เห็นว่าสหรัฐมีท่าทีสนับสนุนยูเครนอย่างจริงจัง อย่างไรก็ดี การเดินทางเยือนยูเครนของประธานาธิบดีไบเดนอาจทำให้เกิดข้อวิตกกังวลด้านความปลอดภัยมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลสหรัฐเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐอาจส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง เช่น นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ หรือพลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เดินทางเยือนยูเครนแทนผู้นำสหรัฐ ส่วนประธานาธิบดีไบเดนระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สหรัฐกำลังตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอยู่. -สำนักข่าวไทย

ยูเครนเผยรัสเซียเปิดฉากบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาสแล้ว

เคียฟ 19 เม.ย.-ยูเครน ระบุว่า รัสเซียได้เริ่มการโจมตีครั้งใหม่ในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ตามที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับรายงานเหตุระเบิดในพื้นที่แนวรบด้านหน้าของภูมิภาคดอนบาสและการถูกโจมตีในภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวคำปราศรัยผ่านคลิปวิดีโอว่า รัสเซียได้เริ่มเปิดฉากบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนเมื่อวันจันทร์ และกองทัพรัสเซียส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการบุกโจมตีภูมิภาคดังกล่าว ทั้งยังระบุว่า ไม่ว่ารัสเซียจะเพิ่มกำลังทหารบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาสมากขึ้นเท่าใดก็ตาม แต่ยูเครนก็จะสู้เพื่อปกป้องประเทศชาติอย่างสุดกำลัง ขณะที่นายอังดรี เยอร์มัก หัวหน้าฝ่ายบริหารของทำเนียบประธานาธิบดียูเครน เรียกการโจมตีดังกล่าวว่าเป็นสงครามระยะที่สอง เขามั่นใจว่ายูเครนจะสามารถต้านทานการโจมตีของรัสเซียได้ และขอให้ชาวยูเครนเชื่อมั่นในกองทัพยูเครนที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ในขณะเดียวกัน สื่อของยูเครนรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่แนวรบด้านหน้าของภูมิภาคดอนบาส และเหตุระเบิดในพื้นที่บางแห่งก็รุนแรงมาก รวมถึงการถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่ที่เมืองมารินกา สลาฟยันสก์ และครามาตอร์สก์ ส่วนเจ้าหน้าที่และสื่อท้องถิ่นของยูเครนระบุตรงกันว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นในเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน เมืองไมโคลาอีฟ ทางตอนใต้ของยูเครน และเมืองซาปอริชเชีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำยูเครนประณามรัสเซียยิงปืนใหญ่โจมตีพลเรือนเสียชีวิต

เคียฟ 18 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประณามกองทัพรัสเซียที่ยิงปืนใหญ่โจมตีหลายเมืองในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนและเมืองมารีอูปอลที่ถูกรัสเซียปิดล้อมมาเกือบ 2 เดือน ขณะที่รัสเซียอ้างว่าสามารถยึดครองพื้นที่ของเมืองดังกล่าวได้เกือบทั้งหมดแล้ว ประธานาธิบดีเซเลนสกีเผยเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ว่า ในรอบ 4 วันที่ผ่านมา การยิงปืนใหญ่ของรัสเซียทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 100 คนในเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองทางตะวันออกเฉียงเหนือของของยูเครน ทั้งยังระบุว่า การโจมตีดังกล่าวถือเป็นการจงใจสร้างความหวาดกลัว เพราะรัสเซียได้ยิงปืนครกและปืนใหญ่ใส่ที่พักอาศัยของพลเรือน ขณะที่รัสเซียยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้ตั้งเป้าโจมตีพลเรือน และอ้างว่าหลักฐานเกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในยูเครนเป็นการจัดฉากเพื่อทำลายการเจรจาสันติภาพของทั้งสองประเทศ ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเดนิส ชมีฮัล ของยูเครน เผยกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีของสหรัฐว่า เมืองมารีอูปอลยังไม่ตกเป็นของรัสเซียโดยสมบูรณ์ เนื่องจากทหารยูเครนยังคงควบคุมพื้นที่บางส่วนของเมืองมารีอูปอลไว้ได้ ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า มีศพจำนวนหนึ่งถูกวางเรียงรายโดยมีผ้าห่มคลุมไว้บนท้องถนนในเมืองมารีอูปอลท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยต้นไม้หักโค่นและซากปรักหักพังของอาคารต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ รัสเซียอ้างเมื่อวันเสาร์ว่า กองทัพรัสเซียสามารถยึดพื้นที่เขตเมืองของเมืองมารีอูปอลได้แล้ว และมีทหารยูเครนบางส่วนที่ยังคงปักหลักต่อสู้อยู่ที่โรงงานเหล็กอาซอฟสตอล (Azovstal) เพื่อควบคุมพื้นที่แถบทะเลอาซอฟ ทางตอนใต้ของยูเครน. -สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” ชี้สัปดาห์นี้เป็นช่วงสำคัญของสงครามยูเครน

เคียฟ 11 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า สัปดาห์นี้เป็นช่วงสำคัญของการทำสงครามในยูเครน พร้อมทั้งเตือนว่า กองทัพรัสเซียจะเพิ่มกำลังครั้งใหญ่เพื่อบุกโจมตีภาคตะวันออกของยูเครน ขณะที่นายกรัฐมนตรีคาร์ล เนฮัมเมอร์ ของออสเตรีย จะเข้าพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในวันนี้เพื่อเรียกร้องให้ยุติความขัดแย้งในยูเครน ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวคำปราศรัยผ่านวิดีโอว่า กองทัพรัสเซียจะเพิ่มกำลังทหารมากขึ้นในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน และอาจยิงขีปนาวุธหรือทิ้งระเบิดโจมตียูเครนมากขึ้นเช่นกัน แต่ยูเครนก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีเหล่านี้ไว้แล้ว ทั้งนี้ ผู้นำยูเครนมีกำหนดกล่าวคำปราศรัยต่อรัฐสภาของเกาหลีใต้ในวันนี้ผ่านระบบวิดีโอลิงก์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของกองทัพยูเครนเผยว่า กองทัพรัสเซียมีแนวโน้มที่จะขัดขวางระบบห่วงโซ่อุปทานและโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของยูเครน ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเนฮัมเมอร์มีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดีปูตินที่กรุงมอสโกในวันนี้ และจะเรียกร้องให้ผู้นำรัสเซียยุติสถานการณ์ขัดแย้งในยูเครน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีปูตินได้พบกับผู้นำของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู แบบตัวต่อตัวนับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีเนฮัมเมอร์ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า แม้ออสเตรียวางตัวเป็นกลางทางทหาร แต่มีจุดยืนที่ชัดเจนต่อสงครามยูเครน สงครามในครั้งนี้ต้องยุติ และเปิดเส้นทางเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงการใช้ประกาศหยุดยิงและการเดินหน้าสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมสงคราม. -สำนักข่าวไทย

ยูเครนเผยพบศพกว่า 1,200 รายในพื้นที่ใกล้เคียฟ

ครามาตอร์สก์ 11 เม.ย. – ยูเครนระบุว่า พบศพผู้เสียชีวิตกว่า 1,200 รายในแคว้นเคียฟ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเกิดขึ้นจากการโจมตีอันโหดร้ายทารุณของกองทัพรัสเซียเมื่อเดือนก่อน ขณะที่ชาวยูเครนในภาคตะวันออกของยูเครนเร่งหาที่หลบภัยหรือเตรียมหลบหนีออกจากพื้นที่ก่อนรัสเซียจะเปิดฉากบุกโจมตีครั้งใหญ่ นางอิรีนา เวเนดิกโตวา อัยการสูงสุดของยูเครน ระบุว่า จนถึงขณะนี้ยูเครนพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 1,222 รายในแคว้นเคียฟที่อยู่รอบกรุงเคียฟ ขณะที่องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยว่า มีพลเรือนเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 4,232 รายนับถึงวันอาทิตย์ โดยแบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 1,793 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 2,439 คน ในขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซียยังคงเปิดฉากทิ้งระเบิดโจมตียูเครนอย่างหนักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกในสงครามที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ด้านนายโอเลก ซิเนโกบอฟ ผู้ว่าการแคว้นคาร์คิฟ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 รายจากเหตุทิ้งระเบิดในเมืองนี้เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ หลังจากเมื่อวันก่อนพบศพพลเรือน 10 ราย ซึ่งรวมถึงเด็ก 1 ราย ที่เสียชีวิตจากเหตุทิ้งระเบิดในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้ออกมาประณามการสังหารพลเรือนของรัสเซีย […]

ผู้นำยูเครนเผยสถานการณ์อีกเมืองโหดร้ายกว่าเมืองบูจา

เคียฟ 8 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า เมืองโบโรเดียนกา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ ถูกโจมตีอย่างหนักและโหดร้ายกว่าเมืองบูจาที่อยู่ใกล้กัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของยูเครนพบร่างผู้เสียชีวิต 26 รายใต้ซากปรักหักพังของอพาร์ทเมนต์ 2 แห่งในเมืองโบโรเดียนกา ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวคำปราศรัยต่อสาธารณชนผ่านเฟซบุ๊กเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดีว่า เจ้าหน้าที่ของยูเครนกำลังเร่งรื้อซากปรักหักพังในเมืองโบโรเดียนกา และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากจากฝีมือของกองทัพรัสเซีย โดยที่สถานการณ์ในเมืองโบโรเดียนกานั้นโหดร้ายรุนแรงกว่าที่อื่นมาก ทั้งนี้ เมืองโบโรเดียนกาและเมืองบูจาเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแถบชานเมืองนอกกรุงเคียฟ และเป็นสนามรบดุเดือดในระหว่างที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเพื่อตั้งเป้ายึดกรุงเคียฟก่อนประกาศถอนกำลังทหารออกไป ในขณะเดียวกัน อิรีนา เวเนดิกโตวา อัยการสูงสุดของยูเครน เผยว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนได้พบร่างผู้เสียชีวิต 26 รายในซากปรักหักพังของอพาร์ทเมนต์ 2 แห่งที่เมืองโบโรเดียนกา และกล่าวหารัสเซียว่าจงใจโจมตีย่านที่พักอาศัยของพลเรือน เนื่องจากเมืองโบโรเดียนกาไม่มีที่ตั้งฐานทัพยูเครน รวมถึงตั้งใจทิ้งระเบิดอาคารที่พักอาศัยในช่วงค่ำ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีพลเรือนอาศัยอยู่ในที่พักอาศัยเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งอ้างว่า เธอมีหลักฐานการก่ออาชญากรรมสงครามของกองทัพรัสเซียทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำยูเครนแนะชาติตะวันตกแบนน้ำมันจากรัสเซียเต็มรูปแบบ

เคียฟ 7 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน รู้สึกยินดีที่ชาติตะวันตกได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย แต่ระบุว่ามาตรการเหล่านี้ยังคงไม่เพียงพอ และต้องการให้ชาติตะวันตกสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ประธานาธิบดีเซเลนสกีแถลงผ่านคลิปวิดีโอล่าสุดว่า เขาขอเรียกร้องให้ชาติตะวันตกใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นและสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับสามของโลกและส่งออกน้ำมันกว่าครึ่งไปยังทวีปยุโรป การที่ชาติตะวันตกประสบความล้มเหลวในการลงมติร่วมกันเพื่อสั่งห้ามค้าขายกับรัสเซียจะยิ่งทำให้มีชาวยูเครนเสียชีวิตมากขึ้น ทั้งยังระบุว่า รัสเซียมีรายได้เข้าประเทศเป็นกอบเป็นกำจากการส่งออกน้ำมันจนทำให้รัสเซียไม่เห็นความจำเป็นของการเจรจาเพื่อสันติภาพอย่างจริงจัง และเขาขอยืนกรานให้ใช้มาตรการตัดธนาคารของรัสเซียออกจากระบบการเงินระหว่างประเทศโดยสิ้นเชิง ในขณะเดียวกัน องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น จะเปิดประชุมในวันนี้เพื่อลงมติว่า ควรขับรัสเซียพ้นการเป็นสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) หรือไม่ หลังมีรายงานระบุว่ากองทัพรัสเซียสังหารพลเรือนยูเครนอย่างโหดร้ายทารุณในหลายเมืองของยูเครนที่รัสเซียยึดไว้ โดยมีสหรัฐเป็นผู้เสนอให้ใช้แนวทางนี้หลังได้รับหลักฐานที่ชี้ว่ากองทัพรัสเซียได้สังหารพลเรือนหลายร้อยรายในเมืองบูจา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างจดหมายที่ส่งถึงนักการทูตของประเทศสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่ระบุว่า หากมีประเทศใดในประเทศสมาชิกคณะมนตรีฯ ทั้ง 47 ประเทศที่ต้องการขับรัสเซียพ้นจากการเป็นสมาชิก รัสเซียจะขึ้นบัญชีประเทศเหล่านั้นเป็นประเทศที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซียทันที ขณะที่สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานอ้างแถลงการณ์ของหัวหน้าภารกิจสหประชาชาติของรัสเซียว่า หากประเทศสมาชิกลงมติขับรัสเซียพ้นจากการเป็นสมาชิกคณะมนตรีฯ กลุ่มชาติตะวันตกจะสามารถกำหนดแนวคิดและวิสัยทัศน์ด้านสิทธิมนุษยชนต่อประเทศอื่น ๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มชาติตะวันตกและผู้สนับสนุนที่เป็นพวกเดียวกันเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำยูเครนจะกล่าวคำปราศรัยต่อ UNSC วันนี้

เคียฟ 5 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า เขาจะกล่าวคำปราศรัยต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ในวันนี้ และคาดการณ์ว่ายูเครนจะค้นพบการสังหารหมู่ของกองทัพรัสเซียเพิ่มขึ้นในอีกหลายเมืองของยูเครนที่รัสเซียถอนกำลังทหารออกไปแล้ว ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวผ่านคลิปวิดีโอเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ว่า เขาขอเน้นย้ำว่ายูเครนต้องการกระบวนการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบและโปร่งใสเพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่จะสามารถอธิบายให้ประชาคมระหว่างประเทศรับรู้ถึงเหตุสังหารในเมืองบูจา ยูเครนพบหลุมศพหมู่และศพพลเรือนกว่า 300 รายในเมืองนี้หลังกองทัพยูเครนได้ยึดเมืองคืนจากรัสเซีย ตัวเลขดังกล่าวเป็นยอดผู้เสียชีวิตในเมืองบูจาเพียงเมืองเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายเมืองของยูเครนที่รัสเซียบุกเข้าไปโจมตีและควบคุมพื้นที่ ขณะนี้เขาได้รับรายงานว่า เมืองบอรอเดียนกาและอีกหลายเมืองที่ยูเครนยึดคืนจากรัสเซียอาจมีตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงกว่าที่เมืองบูจา ทั้งยังระบุว่า ยูเครนต้องการให้นักข่าวลงพื้นที่ทำข่าวในเมืองบูจาให้ได้มากที่สุด เพื่อรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทั่วโลกได้รับรู้ถึงสิ่งที่รัสเซียกระทำต่อเมืองนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ยูเอ็นเอสซีจะเปิดประชุมในวันนี้เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของยูเครนที่ระบุว่า กองทัพรัสเซียได้สังหารพลเรือนจำนวนมากในเมืองบูจา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ หลังยูเครนค้นพบศพพลเรือนหลายร้อยรายที่เมืองดังกล่าว โดยมีศพบางส่วนถูกมัดมือมัดเท้าและโดนจ่อยิงในระยะประชิด ขณะที่รัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครน โดยระบุว่า ข้อกล่าวหาเหล่านี้เป็นการยั่วยุทางอาญา และรัสเซียจะมอบหลักฐานเชิงประจักษ์ต่อยูเอ็นเอสซีเพื่อยืนยันว่ากองทัพรัสเซียไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุสังหารในเมืองบูจา. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำยูเครนไล่ออกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทรยศแผ่นดิน

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศไล่เจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 คนของหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเป็นผู้ทรยศต่อประเทศชาติ

ผู้นำยูเครนพร้อมเจรจาสถานะเป็นกลางกับรัสเซีย

เคียฟ 28 มี.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า ยูเครนเตรียมหารือเกี่ยวกับการนำประเด็นเรื่องการยอมรับสถานะเป็นกลางมาไว้ในการเจรจาข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย โดยที่ข้อตกลงดังกล่าวจะต้องได้รับการรับประกันโดยประเทศฝ่ายที่สามและผ่านการลงประชามติ ประธานาธิบดีเซเลนสกีเผยกับผู้สื่อข่าวชาวรัสเซียผ่านระบบวิดีโอคอลเป็นเวลา 90 นาที ซึ่งทางการรัสเซียได้เตือนสื่อรัสเซียล่วงหน้าไม่ให้เผยแพร่การรายงานดังกล่าว โดยที่ผู้นำยูเครนได้กล่าวคำปราศรัยภาษารัสเซียตลอดการสัมภาษณ์ว่า การบุกโจมตียูเครนของรัสเซียในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายอันใหญ่หลวงให้แก่หลายเมืองในยูเครนที่มีพลเรือนพูดภาษารัสเซียอาศัยอยู่ ซึ่งนับว่ารุนแรงยิ่งกว่าสงครามเชชเนีย พร้อมทั้งระบุว่า ยูเครนพร้อมยอมรับสถานะเป็นกลาง การรับประกันความปลอดภัย รวมถึงสถานะปลอดนิวเคลียร์แล้ว แต่ขอปฏิเสธการหารือเกี่ยวกับข้อเรียกร้องอื่น ๆ ของรัสเซีย เช่น การทำให้ยูเครนปลอดทหาร ประธานาธิบดีเซเลนสกียังกล่าวว่า เขาไม่ต้องการที่จะส่งกำลังทหารไปยึดดินแดนที่รัสเซียถือครองทั้งหมดกลับคืนมา เพราะการทำเช่นนั้นจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 แต่ต้องการที่จะบรรลุข้อตกลงโดยประนีประนอมต่อแคว้นดอนบาสที่รัสเซียหนุนหลังมาตั้งแต่ปี 2557 ประธานาธิบดีเซเลนสกียังเน้นย้ำถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกรัสเซียปิดล้อมและยิงถล่มมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ปิดทางเข้าออกของเมืองไว้หมดแล้ว จนทำให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรม เนื่องจากประชาชนไม่สามารถเข้าถึงอาหาร ยารักษาโรค และน้ำดื่ม นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของทางการรัสเซียที่อ้างว่า ยูเครนจำกัดสิทธิของประชาชนยูเครนที่พูดภาษารัสเซีย และยูเครนก็ไม่ได้มีอาวุธนิวเคลียร์หรืออาวุธชีวภาพตามที่รัสเซียกล่าวอ้าง ในขณะเดียวกัน นายเดวิด อาราคาเมีย ผู้แทนเจรจราของยูเครนเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครนแบบพบกันตัวต่อตัวครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ตุรกีในวันที่ 28-30 มีนาคม ด้านนายวลาดิเมียร์ มีดินสกี ผู้นำคณะผู้แทนเจรจาของรัสเซียยืนยันว่าการเจรจาของทั้งสองประเทศจะจัดขึ้นในวันอังคารและวันพุธนี้ที่ตุรกี ซึ่งแตกต่างจากกำหนดเวลาที่นายอาราคาเมียระบุไว้ก่อนหน้านี้เพียงเล็กน้อย.-สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” ขอให้ทั่วโลกชุมนุมแสดงพลังหนุนยูเครน

เคียฟ 24 มี.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เรียกร้องให้ประชาชนทั่วทุกมุมโลกออกมาชุมนุมกันบนท้องถนนในวันนี้เพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครน ก่อนที่การประชุมสุดยอดขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่รัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนครบ 1 เดือน ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวคำปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษครั้งแรกในคลิปวิดีโอล่าสุดว่า รัสเซียไม่ได้ก่อสงครามกับยูเครนเพียงชาติเดียว แต่ยังทำสงครามกับเสรีภาพของทุกคนบนโลก ทั่วโลกจำเป็นต้องร่วมมือกันหยุดการใช้กำลังอย่างโหดร้ายทารุณของรัสเซียในครั้งนี้ เขาขอให้ทุกคนเดินออกมาจากสำนักงาน ที่อยู่อาศัย โรงเรียน มหาวิทยาลัย เพื่อรวมตัวกันในนามของสันติภาพและแสดงการสนับสนุนยูเครน เสรีภาพ และการมีชีวิตอยู่ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ระบุว่า แถลงการณ์ดังกล่าวของประธานาธิบดีเซเลนสกีมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำของนาโตจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม โดยคาดว่ากลุ่มชาติตะวันตกจะลงมติส่งกองกำลังเสริมไปยังยุโรปกลางและตะวันออกเพื่อสนับสนุนการป้องกันดินแดน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำดังกล่าวที่จัดขึ้นในขณะที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนครบ 1 เดือน.-สำนักข่าวไทย

1 5 6 7 8 9
...