เคียฟ 18 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประณามกองทัพรัสเซียที่ยิงปืนใหญ่โจมตีหลายเมืองในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนและเมืองมารีอูปอลที่ถูกรัสเซียปิดล้อมมาเกือบ 2 เดือน ขณะที่รัสเซียอ้างว่าสามารถยึดครองพื้นที่ของเมืองดังกล่าวได้เกือบทั้งหมดแล้ว
ประธานาธิบดีเซเลนสกีเผยเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ว่า ในรอบ 4 วันที่ผ่านมา การยิงปืนใหญ่ของรัสเซียทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 100 คนในเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองทางตะวันออกเฉียงเหนือของของยูเครน ทั้งยังระบุว่า การโจมตีดังกล่าวถือเป็นการจงใจสร้างความหวาดกลัว เพราะรัสเซียได้ยิงปืนครกและปืนใหญ่ใส่ที่พักอาศัยของพลเรือน ขณะที่รัสเซียยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้ตั้งเป้าโจมตีพลเรือน และอ้างว่าหลักฐานเกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในยูเครนเป็นการจัดฉากเพื่อทำลายการเจรจาสันติภาพของทั้งสองประเทศ
ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเดนิส ชมีฮัล ของยูเครน เผยกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีของสหรัฐว่า เมืองมารีอูปอลยังไม่ตกเป็นของรัสเซียโดยสมบูรณ์ เนื่องจากทหารยูเครนยังคงควบคุมพื้นที่บางส่วนของเมืองมารีอูปอลไว้ได้ ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า มีศพจำนวนหนึ่งถูกวางเรียงรายโดยมีผ้าห่มคลุมไว้บนท้องถนนในเมืองมารีอูปอลท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยต้นไม้หักโค่นและซากปรักหักพังของอาคารต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ รัสเซียอ้างเมื่อวันเสาร์ว่า กองทัพรัสเซียสามารถยึดพื้นที่เขตเมืองของเมืองมารีอูปอลได้แล้ว และมีทหารยูเครนบางส่วนที่ยังคงปักหลักต่อสู้อยู่ที่โรงงานเหล็กอาซอฟสตอล (Azovstal) เพื่อควบคุมพื้นที่แถบทะเลอาซอฟ ทางตอนใต้ของยูเครน. -สำนักข่าวไทย