ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ คาร์ดิฟฟ์ 3-1

ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ คาร์ดิฟฟ์ ส่วนน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พลิกล็อกเปิดบ้านถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกเอฟเอ คัพ

สมเด็จพระราชินีนาถอังกฤษทรงปรารถนาให้ “คามิลลา” เป็น “ราชินี”

ลอนดอน 6 ก.พ.- สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษทรงปรารถนาให้คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ได้เป็นสมเด็จพระราชินีเมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระชนมพรรษา 95 พรรษา ทรงพระราชทานพระราชสาส์นถึงปวงชนชาวอังกฤษเมื่อวันเสาร์ หนึ่งวันก่อนการฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปีว่า เมื่อถึงเวลาอันสมควร ชาร์ลส์ พระราชโอรสของพระองค์จะเป็นพระมหากษัตริย์ เชื่อว่าทุกคนจะให้การสนับสนุนเขาและคามิลลาเช่นเดียวกับที่ให้การสนับสนุนพระองค์ พระองค์ทรงมีความปรารถนาอย่างจริงใจว่า เมื่อเวลานั้นมาถึง คามิลลาจะได้เป็นพระราชินีที่เป็นพระมเหสีในพระมหากษัตริย์ (Queen Consort) และปฏิบัติกรณียกิจของตนเองต่อไป เว็บไซต์บรรษัทกระจายและแพร่ภาพแห่งอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ตั้งข้อสังเกตว่า พระราชสาส์นของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องพระอิสริยยศในอนาคตของคามิลลาเมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เสด็จขึ้นครองราชย์ เนื่องจากช่วงที่คามิลลาสมรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เมื่อปี 2548 พระอิสริยยศที่คิดว่าควรจะเป็นคือ พระมเหสีในเจ้าชาย แต่เกิดความไม่ชัดเจนมากขึ้นในเรื่องนี้ การตัดสินพระทัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จึงทรงเป็นการทำให้ทุกอย่างชัดเจน.-สำนักข่าวไทย

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงครองราชย์ครบ 70 ปีวันอาทิตย์นี้

ลอนดอน 2 ก.พ. – สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ จะทรงเป็นกษัตริย์อังกฤษพระองค์แรกที่ครองราชย์ยาวนานถึง 70 ปีในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ แต่คาดว่าจะไม่มีการจัดพิธีเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์นี้เช่นเดียวกับปีก่อน ๆ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระชนมพรรษา 95 พรรษา จะทรงเป็นกษัตริย์อังกฤษพระองค์แรกที่ครองราชย์ยาวนานถึง 70 ปีในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ แต่คาดว่าจะไม่มีการจัดพิธีเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการในวันดังกล่าว เนื่องจากพระองค์มักทรงใช้วันนั้นเพื่อระลึกถึงวันครบรอบการเสด็จสวรรคตของพระเจ้าจอร์จที่ 6 ผู้เป็นพระราชบิดา เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2495 ซึ่งเป็นวันที่สมเด็จพระราชินนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงขึ้นครองราชย์เป็นประมุขแห่งอังกฤษในขณะที่พระองค์มีพระชนมพรรษา 25 พรรษาและกำลังเสด็จประพาสชมสัตว์ป่าในย่านชนบทของเคนยาพร้อมกับเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระและพระสวามีที่สิ้นพระชนม์เมื่อปีก่อน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งทรงติดอันดับสมาชิกราชวงศ์อังกฤษที่ได้รับความนิยมสูงสุดอยู่เป็นประจำ ได้เสด็จขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังพระราชวังซานดริงแฮมในพื้นที่ทางตะวันออกของอังกฤษเมื่อวันที่ 23 มกราคม โดยที่ก่อนหน้านี้พระองค์ทรงมีกำหนดใช้เวลาส่วนตัวร่วมกับครอบครัวเชื้อพระวงศ์ที่พระราชวังซานดริงแฮมในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ แต่จำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการออกไปเป็นวันดังกล่าว เนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ทั้งนี้ คาดว่าจะไม่มีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์นี้เช่นเดียวกับปีก่อน ๆ แต่ได้มีการวางแผนจัดงานเฉลิมฉลองเป็นเวลา 4 วันในช่วงต้นเดือนมิถุนายน รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ […]

สหรัฐ-อังกฤษ-แคนาดา คว่ำบาตร จนท. เมียนมา

วอชิงตัน 1 ก.พ. – สหรัฐ อังกฤษ และแคนาดา ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมของเมียนมา ในขณะที่วันนี้เป็นวันเกิดเหตุรัฐประหารเมียนมาครบ 1 ปี และสถานการณ์ในเมียนมายังคงตกอยู่ในสภาพโกลาหล กระทรวงการคลังสหรัฐระบุเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรรายบุคคลต่อเจ้าหน้าที่ในทางศาลเพิ่มอีก 7 คน เช่น ธิดา อู อัยการสูงสุดของเมียนมาที่จงใจตั้งข้อหานางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อหวังผลทางการเมือง หัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกาของเมียนมา และประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตของเมียนมา ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีของนางซู จี และแกนนำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐยังได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับอีก 2 บริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนรัฐบาลทหารเช่นกัน ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวทำให้ทรัพย์สินในสหรัฐของบุคคลและบริษัทเหล่านั้นถูกอายัด และทำให้ชาวอเมริกันถูกห้ามติดต่อกับคนกลุ่มนี้ ในขณะเดียวกัน แคนาดาก็ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรายบุคคลต่อเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม 3 คนของเมียนมาเช่นเดียวกับสหรัฐ ส่วนอังกฤษได้ประกาศคว่ำบาตรต่ออัยการสูงสุด ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตของเมียนมา และประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งของเมียนมาที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลทหารเมียนมา นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวว่า การใช้มาตรการคว่ำบาตรร่วมกันของสหรัฐ อังกฤษ และแคนาดา สะท้อนให้เห็นถึงแรงสนับสนุนจากต่างประเทศที่มีต่อชาวเมียนมา และส่งเสริมการลงโทษผู้ก่อเหตุรัฐประหารและใช้ความรุนแรงโดยผิดกฎหมาย ทั้งยังระบุว่า […]

อังกฤษ-ญี่ปุ่นเตรียมแผนการประชุมสุดยอดกลางเดือน ก.พ.

อังกฤษและญี่ปุ่นกำลังเตรียมการประชุมสุดยอดระหว่างนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษกับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นที่กรุงโตเกียวในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์

จนท. สาธารณสุขอังกฤษที่ไม่ฉีดวัคซีนโควิดเสี่ยงถูกไล่ออก

ลอนดอน 27 ม.ค.- สำนักงานบริการสาธารณสุขแห่งชาติของสหราชอาณาจักรหรือเอ็นเอชเอส (NHS) แจ้งเจ้าหน้าที่ในอังกฤษเกือบ 80,000 คนที่ไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า ผู้ที่ต้องดูแลคนไข้แต่ยังไม่ฉีดวัคซีนเลยภายในสัปดาห์หน้าจะถูกย้ายหรือถึงขั้นไล่ออก ระเบียบปัจจุบันของรัฐบาลอังกฤษกำหนดให้เจ้าหน้าที่เอ็นเอชเอสในอังกฤษที่ทำงานด่านหน้าทุกคนต้องฉีดวัคซีนเข็มแรกภายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ และฉีดให้ครบ 2 เข็มภายในวันที่ 1 เมษายน กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมยืนยันว่า จะไม่เลื่อนเส้นตายดังกล่าว เพราะการปกป้องคนไข้คือสิ่งที่ถูกต้อง ขณะที่ผู้อำนวยการการแพทย์ของเอ็นเอชเอสในอังกฤษย้ำว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่จะต้องสร้างความมั่นใจว่าตนเองได้รับการปกป้องแล้ว ข้อมูลจนถึงวันที่ 31 ธันวาคมปีก่อนระบุว่า เจ้าหน้าที่เอ็นเอสเอชในอังกฤษฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วร้อยละ 94.3 และฉีด 2 เข็มแล้วร้อยละ 91.5 มาตรการบังคับฉีดวัคซีนของทางการอาจทำให้เจ้าหน้าที่ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนประมาณ 73,000 คน ตกงานได้ สำนักงานความมั่นคงสาธารณสุขสหราชอาณาจักรระบุว่า วัคซีนช่วยลดความเสี่ยงป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโควิดลงได้อย่างมาก อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อหรือแพร่ด้วย แต่นายแมตต์ เทย์เลอร์ นักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ วัย 42 ปี ที่ดูแลผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงตามบ้านช่วงโควิดระบาดรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่เอ็นเอชเอสกำลังตกเป็นตัวประกันทางการเมือง ทุกคนรู้ว่า คนฉีดวัคซีน 3 เข็มแล้วก็ยังติดเชื้อได้ ขณะที่บางคนไม่เคยฉีดเลยและไม่ติดเชื้อ เขาเองไม่ได้ฉีดและเตรียมใจแล้วว่าจะต้องตกงาน […]

อังกฤษยกเลิกมาตรการจำกัดโอไมครอนแล้ว

ลอนดอน 27 ม.ค.- อังกฤษยกเลิกการใช้มาตรการเพื่อจำกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนแล้วในวันนี้ ทำให้ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยและไม่ต้องใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีน รัฐบาลอังกฤษใช้มาตรการจำกัดที่เรียกว่าแผนบี (Plan B) ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม หลังจากนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เตือนว่า กำลังจะเกิดการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน มาตรการนี้กำหนดให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ปิด และต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนในการเข้าสถานที่สาธารณะ เช่น ไนต์คลับ สนามฟุตบอล และงานขนาดใหญ่ ยอดผู้ติดเชื้อได้ลดลงอย่างมากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และทางการได้ประกาศยกเลิกการใช้แผนบีแล้วในวันนี้ นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า การฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อทำให้อังกฤษมีการป้องกันแข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป และทำให้สามารถกลับไปใช้แผนเอ (Plan A) ได้อย่างระมัดระวังและมีเสรีภาพมากขึ้น ดังนั้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คนในอังกฤษไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่ปิด รวมถึงชั้นเรียนมัธยมศึกษา แต่ผู้โดยสารรถขนส่งสาธารณะในกรุงลอนดอนยังต้องสวมต่อไป ส่วนมาตรการที่กำหนดให้ผู้มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกต้องกักตัวเอง 5 วันเป็นอย่างน้อย นายกรัฐมนตรีจอห์นสันหวังว่าจะยกเลิกได้เมื่อครบกำหนดในวันที่ 24 มีนาคม อังกฤษเคยยกเลิกมาตรการจำกัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมโดยเรียกว่าเป็นวันแห่งเสรีภาพ แต่หลังจากนั้นต้องออกมาตรการใหม่เพราะเริ่มพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ส่วนสกอตแลนด์และเวลส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในสหราชอาณาจักรใช้มาตรการสาธารณสุขของตนเองที่แยกจากอังกฤษ.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษเผยรัสเซียวางแผนโค่นรัฐบาลยูเครน

รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ระบุรัฐบาลรัสเซียกำลังทำทุกวิถีทางที่จะโค่นล้มรัฐบาลยูเครน เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่ที่เป็นมิตรกับรัสเซีย

อังกฤษกล่าวหารัสเซียหาทางตั้งผู้นำในยูเครน

ลอนดอน 23 ม.ค.- อังกฤษกล่าวหารัสเซียว่า กำลังหาทางตั้งผู้นำในยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซีย และให้หน่วยข่าวกรองติดต่อกับอดีตนักการเมืองยูเครนหลายคนหวังรุกรานยูเครน กระทรวงต่างประเทศอังกฤษแถลงเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า มีหลักฐานว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังคิดวางตัวนายเยฟเฮน มูราเยฟ นักการเมืองและเจ้าของสื่อยูเครนวัย 45 ปี เป็นผู้นำยูเครนที่สนับสนุนรัสเซีย นายมูราเยฟเคยอ้างว่าประชาคมโลกให้การรับรองเรื่องที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเมื่อปี 2557 เขามีคะแนนนิยมเป็นอันดับ 7 ในบรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนปี 2567 นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า อังกฤษจะไม่ยอมทนต่อแผนการของรัสเซียที่จะตั้งผู้นำยูเครนฝักใฝ่รัสเซีย รัฐบาลรัสเซียรู้ดีว่า การใช้กำลังทหารรุกรานยูเครนจะเป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ เพราะสหราชอาณาจักรและหุ้นส่วนจะทำให้รัสเซียต้องรับผลอย่างร้ายแรง กระทรวงต่างประเทศอังกฤษไม่ยอมเปิดเผยหลักฐานตามที่กล่าวอ้าง ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า ปกติแล้วจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลข่าวกรอง และจะมีการเปิดเผยในรายละเอียดต่อเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า จะเป็นไปเพื่อสกัดการรุกรานของรัสเซีย ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซียโพสต์เฟซบุ๊กปฏิเสธถ้อยแถลงของอังกฤษว่า เป็นข้อมูลบิดเบือน ขอให้กระทรวงต่างประเทศอังกฤษยุติการกระทำยั่วยุ ยุติการเผยแพร่สิ่งไร้สาระ และตั้งใจศึกษาประวัติศาสตร์สมัยมองโกลรุกรานรัสเซียดีกว่า พร้อมกับกล่าวหาอังกฤษและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนตกเหนือหรือนาโตว่า ทำให้สถานการณ์ในยูเครนตึงเครียดมากยิ่งขึ้น อังกฤษอ้างเรื่องนี้หนึ่งวันหลังจากนักการทูตสหรัฐและรัสเซียไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาแก้ไขวิกฤตยูเครน ทั้งสองฝ่ายตกลงจะเดินหน้าเจรจาต่อไป ชาติตะวันตกกังวลเรื่องที่รัสเซียระดมกำลังพลใกล้ชายแดนยูเครนตั้งแต่ปลายปีก่อน รัสเซียยืนยันว่า เป็นการเพียงการป้องกันประเทศ ไม่ใช่การรุกราน และเรียกร้องให้นาโตยุติการแผ่อิทธิพลไปทางตะวันออก รวมทั้งรับปากว่าจะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษเตือน “ปูติน-สี จิ้นผิง” ว่าจะยืนหยัดต้านเผด็จการ

ซิดนีย์ 21 ม.ค. – อังกฤษเตือนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิ้ง ของจีน ว่า อังกฤษและชาติพันธมิตรจะยืนหยัดร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และต่อต้านระบอบเผด็จการที่กำลังแผ่ขยายอำนาจมากที่สุดในช่วงนี้นับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามเย็น นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวในการประชุมระดับรัฐมนตรีของออสเตรเลียกับอังกฤษ (AUKMIN) ที่จัดขึ้นทุกปีในวันนี้ที่นครซิดนีย์ของออสเตรเลียว่า อังกฤษและชาติพันธมิตรในโลกเสรีต้องตอบโต้ภัยคุกคามระดับโลกร่วมกัน เสริมสร้างระบอบประชาธิปไตยในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และต่อต้านผู้รุกรานรายใหญ่ที่ใช้นโยบายพึ่งพาทางเศรษฐกิจเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งยังเตือนประธานาธิบดีปูตินให้สั่งยุติและถอยพลทหารออกจากยูเครนก่อนที่เขาจะทำผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ นางทรัสส์ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมพร้อมด้วยนายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ยังระบุว่า ผู้รุกรานรายใหญ่ของโลกกำลังแผ่ขยายอำนาจเผด็จการไปทั่วโลก จนเป็นเหตุให้ประเทศต่าง ๆ เช่น เบลารุส เกาหลีเหนือ และเมียนมา กลายเป็นชาติพันธมิตรที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐบาลรัสเซียและจีน อังกฤษจะต้องร่วมมือกับชาติพันธมิตร เช่น ออสเตรเลีย อิสราเอล อินเดีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เพื่อต่อต้านผู้รุกรานเหล่านี้โดยเฉพาะในภูมิภาคแปซิฟิก เธอยังกล่าวด้วยว่า การที่จีนใช้มาตรการบีบบังคับทางเศรษฐกิจต่อออสเตรเลียเป็นสัญญาณเตือนอังกฤษให้รู้ว่ารัฐบาลจีนกำลังใช้อำนาจทางเศรษฐกิจเพื่อควบคุมประเทศอื่น ๆ ในขณะเดียวกัน นายปีเตอร์ ดัทตัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียยังไม่มีแผนที่จะให้มีการสร้างฐานทัพอังกฤษในออสเตรเลียในขณะที่กองทัพเรืออังกฤษเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคแปซิฟิก โดยที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจัดหาเงินทุนสนับสนุนระบบโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคดังกล่าวเพื่อคานอำนาจที่เพิ่มมากขึ้นของจีน นอกจากนี้ […]

อัตราเงินเฟ้ออังกฤษแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี

อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งแตะระดับ 5.4% ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำสถิติสูงสุดในรอบ 30 ปี ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำปัญหาวิกฤติค่าครองชีพที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ครัวเรือน และสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

สส.รัฐบาลอังกฤษกดดันนายกฯ เรื่องจัดเลี้ยงช่วงล็อกดาวน์

ลอนดอน 16 ม.ค.- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรครัฐบาลอังกฤษเดินหน้ากดดันนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันให้แสดงความรับผิดชอบ กรณีมีข่าวจัดงานเลี้ยงในทำเนียบนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง ทั้งที่ประเทศอยู่ในช่วงจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สส.แอนดรูว์ บริดเจน เขตนอร์ทเวสต์เลสเตอร์เผยว่า ได้ส่งหนังสือถึงคณะกรรมการ 1922 ที่จัดการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานพรรคอนุรักษ์นิยม ขอให้ประกาศว่าไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน นับเป็น สส.พรรคอนุรักษ์นิยมคนที่ 5 ที่ส่งหนังสือดังกล่าว พรรคจะต้องเปิดการลงมติไม่ไว้วางใจหากได้รับหนังสือจาก สส.54 คน จากที่มีอยู่ทั้งหมด 360 คนในปัจจุบัน ด้าน สส.ทิม ลัฟตัน อดีตประธานคณะกรรมการกิจการภายในของสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กว่า นายจอห์นสันไม่เหมาะที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป เพราะทำให้เกิดความสับสน กลับกลอก และหลบเลี่ยง ทั้งที่ประชาชนชาวอังกฤษสมควรที่จะได้รับความชัดเจน ซื่อสัตย์ และความสำนึกผิดจากเขา ขณะที่ สส.โทเบียส เอลล์วูด ประธานคณะกรรมการกลาโหมของสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์บรรษัทกระจายและแพร่ภาพอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ว่า นายจอห์นสันต้องแสดงความเป็นผู้นำ ไม่เช่นนั้นต้องหลีกทางไป รัฐบาลอังกฤษขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งด่วนตัดสิน จนกว่านางซูซาน เกรย์ ข้าราชการอาวุโสจะเสร็จสิ้นการสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องทำเนียบนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานรัฐบาลฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์หลายครั้งระหว่างปี 2563-2564 สส.พรรคอนุรักษ์นิยมบางคนเผยว่า ประชาชนระดมส่งอีเมลแสดงความไม่พอใจ […]

1 37 38 39 40 41 165
...