อนามัยโลกเตือนรับมือโควิด-สงครามยูเครน-ฝีดาษลิง
องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบาก เช่น การระบาดของโรคโควิด-19 สงครามยูเครน และโรคฝีดาษลิง
องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบาก เช่น การระบาดของโรคโควิด-19 สงครามยูเครน และโรคฝีดาษลิง
WHO แถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้ทรพิษหรือฝีดาษลิงกว่า 80 คน อย่างน้อยใน 12 ประเทศ โดยไข้ทรพิษลิง เป็นไวรัสใกล้เคียงไข้ทรพิษในคน อาการทั่วไปไม่รุนแรง และไม่ได้แพร่ระบาดจากคนสู่คนได้โดยง่าย
เจนีวา 18 พ.ค. – องค์การอนามัยโลกแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 ในเกาหลีเหนือที่อาจทำให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดตกอยู่ในความเสี่ยง และพร้อมให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือ รวมถึงวัคซีนโควิด ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เผยเมื่อวันอังคารตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ว่า องค์การอนามัยโลกรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิดในเกาหลีเหนือเป็นพิเศษ เพราะชาวเกาหลีเหนือยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งทำให้ผู้ที่มีโรคประจำตัวเสี่ยงต่ออาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตหลังติดเชื้อโควิด องค์การอนามัยโลกขอให้เกาหลีเหนือเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดในครั้งนี้โดยเร็วที่สุด ทั้งยังระบุว่า องค์การอนามัยโลกพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนือในด้านต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนด้านเทคนิคและเวชภัณฑ์ ชุดตรวจหาเชื้อโควิด ยารักษาโรค และวัคซีนโควิด เพื่อควบคุมการระบาดในครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน นพ. ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่อาจเกิดขึ้นได้ในพื้นที่ที่ไม่เคยพบการระบาดมาก่อน องค์การอนามัยโลกจึงรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างยิ่ง เนื่องจากมีหลายประเทศยังไม่ยอมรับการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีอยู่ในขณะนี้ ด้าน พญ. มาเรีย แวน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า แนวคิดที่ว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้ผู้ป่วยโควิดมีอาการป่วยเล็กน้อยเป็นความเชื่อที่ผิดและเป็นอันตราย เพราะจะทำให้ประชาชนการ์ดตก ทั้งยังระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนยังคงทำให้ผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนมีอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัยและผู้ที่มีโรคประจำตัว จนถึงขณะนี้เกาหลีเหนือยังคงไม่แสดงท่าทีตอบรับความช่วยเหลือจากองค์การอนามัยโลก สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนือพบผู้ป่วยมีไข้เกือบ 1.5 […]
นิวยอร์ก 12 พ.ค. – สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทะลุ 1 ล้านคนแล้ว นับตั้งแต่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายแรกเมื่อสองปีก่อน ข้อมูลที่สำนักข่าวรอยเตอร์สบันทึกไว้พบว่า สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดทะลุ 1 ล้านคนแล้ว นับตั้งแต่องค์การอนามัยโลกประกาศให้โรคโควิดเป็นโรคระบาดทั่วโลกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพียง 36 คน แต่ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น การระบาดของโรคโควิดในสหรัฐก็ลุกลามอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่า เนื่องจากพบการระบาดรุนแรงในหลายเมืองที่มีประชากรหนาแน่น เช่น นครนิวยอร์ก ก่อนที่จะแพร่กระจายไปทั่วประเทศ ก่อนหน้านี้ สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดแซงหน้าตัวเลขทหารสหรัฐที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 และสูงกว่าตัวเลขทหารสหรัฐที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิดกว่า 405,000 คนในเดือนมกราคม 2564 ขณะนี้ ทั่วโลกมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิดกว่า 6.7 ล้านคน แต่องค์การอนามัยโลกระบุว่า ตัวเลขที่แท้จริงของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดทั้งทางตรงและทางอ้อมอาจมีสูงถึง 15 ล้านคนทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย
เจนีวา 11 พ.ค. – ดร. ทีโดส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ยุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเป็นศูนย์ของจีนไม่ยั่งยืน เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมและแนวโน้มการระบาดของเชื้อโควิดในอนาคต ดร. ทีโดรส กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคารตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ว่า องค์การอนามัยโลกมองว่ายุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ไม่ยั่งยืน เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมและแนวโน้มการระบาดของเชื้อโควิดในอนาคต องค์การอนามัยโลกได้หารือเรื่องนี้กับผู้เชี่ยวชาญของจีนและชี้ให้เห็นว่ายุทธศาสตร์ที่จีนใช้อยู่นั้นไม่ยั่งยืน เขาคิดว่าการเปลี่ยนแนวทางควบคุมโรคโควิดในจีนเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากปัจจุบันมีข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อโควิดและเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มขึ้นในการรับมือกับการระบาด ในขณะเดียวกัน นพ. ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก เผยในงานเดียวกันว่า องค์การอนามัยโลกเน้นย้ำมาโดยตลอดว่าจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมโรคโควิดอย่างสมดุลเพื่อลดผลกระทบต่อสังคม เช่น ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ยุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ในจีนกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักวิทยาศาสตร์และประชาชน เนื่องจากทางการจีนได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดในหลายเมืองจนทำให้ประชาชนหลายล้านคนไม่พอใจอย่างมาก ในขณะที่หลายประเทศที่เคยใช้ยุทธศาสตร์เดียวกับจีนต่างหันไปใช้แนวทางใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อโควิดกันหมดแล้ว ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 220,700 คน และผู้เสียชีวิตเกือบ 5,200 คน. -สำนักข่าวไทย
ผอ.องค์การอนามัยโลก และคณะ เดินทางเยือนกรุงเคียฟของยูเครน หารือความต้องการด้านการรักษาสุขภาพในยูเครน และช่องทางที่ WHO จะสามารถช่วยเหลือได้
องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใช้ยาเม็ดต้านเชื้อโควิดของไฟเซอร์ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘แพกซ์โลวิด’ (Paxlovid) ในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อโควิดอาการไม่รุนแรงที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเข้ารักษาตัวโรงพยาบาล
เจนีวา 11 มี.ค.-องค์การอนามัยโลก แนะนำให้ยูเครนทำลายเชื้อโรคอันตรายสูงในห้องปฏิบัติการทดลองทั่วประเทศเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เชื้อโรคหล่านี้จะแพร่กระจายออกมาจากห้องทดลองและทำให้เกิดโรคระบาดในประชาชน ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนอย่างรุนแรงจนทำให้อาคารหลายแห่งเสียหายหนัก องค์การอนามัยโลกระบุว่า อนามัยโลกขอแนะนำให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ของยูเครนทำลายเชื้อโรคอันตรายสูงที่เก็บอยู่ในห้องปฏิบัติการทดลองทั่วประเทศสำหรับทำการวิจัยเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของเชื้อโรคเหล่านี้ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับวันที่ประกาศแนะนำแนวทางดังกล่าว และไม่ได้ระบุถึงประเภทของเชื้อโรคหรือสารอันตรายที่อยู่ในห้องทดลองของยูเครน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางชีวภาพหลายรายรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการบุกโจมตีหลายเมืองในยูเครนของรัสเซียที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่เชื้อโรคจะแพร่กระจายออกมาจากห้องปฏิบัติการทดลองในอาคารที่ได้รับความเสียหายหนัก ทั้งนี้ ยูเครนมีห้องปฏิบัติการทดลองด้านสาธารณสุขเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ เพื่อศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการลดภัยคุกคามจากโรคร้ายที่ส่งผลกระทบต่อสัตว์และมนุษย์ ซึ่งรวมถึงโรคโควิด-19 โดยที่ห้องปฏิบัติการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ สหภาพยุโรป หรืออียู และองค์การอนามัยโลก ประเด็นเรื่องห้องปฏิบัติการชีวภาพในยูเครนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากนับตั้งแต่รัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียเน้นย้ำเมื่อวันพุธโดยอ้างว่า สหรัฐได้มาสร้างห้องปฏิบัติการอาวุธชีวภาพไว้ในยูเครน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รัฐบาลสหรัฐและยูเครนปฏิเสธมาโดยตลอด.-สำนักข่าวไทย
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงห่างไกลจากจุดสิ้นสุด
สธ.ประเมินสมรรถนะรับมือโควิด-19 ตามแนวทาง WHO พบอยู่ระดับ “ดีมาก” พร้อมปรับสู่การเป็นโรคประจำถิ่น
โคเปนเฮเกน 15 ก.พ.- องค์การอนามัยโลกเตือนว่า เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนกำลังมุ่งหน้าไปแพร่ระบาดในยุโรปตะวันออก ขอให้ทางการเร่งปรับปรุงเรื่องการฉีดวัคซีนและมาตรการป้องกันต่าง ๆ นายฮันส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลกแถลงว่า ช่วง 2 สัปดาห์มานี้มีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่ายุโรปตะวันออกอย่างอาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน เบลารุส จอร์เจีย รัสเซีย และยูเครน ขณะที่บางประเทศอย่างโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็กส่งสัญญาณว่า จะผ่อนคลายมาตรการที่ใช้จำกัดการระบาดในเดือนมีนาคม หากยอดผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง องค์การอนามัยโลกเห็นว่า จำเป็นต้องใช้มาตรการ เช่น การตรวจหาเชื้อแบบรวดเร็วและการสวมหน้ากากอนามัยต่อไป เพราะทั่วทั้งยุโรปพบผู้ติดเชื้อรวมกันมากกว่า 165 ล้านคนแล้วจนถึงขณะนี้ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 25,000 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน นายคลูเกอระบุว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเริ่มเข้ามาแพร่ระบาดในยุโรปตะวันออก ขณะที่สายพันธุ์เดลตาก็ยังคงแพร่อย่างกว้างขวางในภูมิภาคนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และไม่ใช่เวลาที่จะยกเลิกมาตรการที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถลดการแพร่ระบาดได้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ เร่งหาสาเหตุที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ เพราะพบว่าคนวัย 60 ปีขึ้นไปในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา บัลแกเรีย คีร์กิซสถาน ยูเครน และอุซเบกิสถาน ฉีดวัคซีนแล้วไม่ถึงร้อยละ 40.-สำนักข่าวไทย
นายกฯ ชื่นชมบุคลากรทางการแพทย์ไทย 2 ท่าน ได้รับรางวัลจากองค์การอนามัยโลก พร้อมขอบคุณความทุ่มเทสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ สาธารณสุขไทยเป็นที่ยอมรับระดับโลก