มีคนลี้ภัยออกจากยูเครนแล้ว 4 ล้านคน

เจนีวา 30 มี.ค.- สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) แจ้งวันนี้ว่า มีคนลี้ภัยออกจากยูเครนแล้วราว 4 ล้านคน ตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นับเป็นวิกฤตผู้ลี้ภัยในยุโรปครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เว็บไซต์ยูเอ็นเอชซีอาร์อ้างตามข้อมูลรัฐบาลว่า มีผู้ลี้ภัยเดินทางเข้าไปในโปแลนด์มากกว่า 2 ล้าน 3 แสนคน โรมาเนียมากกว่า 608,000 คน มอลโดวามากกว่า 387,000 คน ฮังการีราว 364,000 คน และบางส่วนตัดสินใจกลับยูเครน เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เผยว่า ช่วงหลายวันมานี้มีผู้ลี้ภัยลดลง เพราะหลายคนรอดูสถานการณ์สงครามในยูเครน ส่วนจำนวนคนพลัดถิ่นภายในยูเครนคาดว่า มีประมาณ 6 ล้าน 5 แสนคน นายฟีลิปโป กรานดี ข้าหลวงใหญ่ยูเอ็นเอชซีอาร์ทวีตขณะเดินทางข้ามพรมแดนเข้าไปในยูเครนว่า มีผู้ลี้ภัยออกจากยูเครนแล้วราว 4 ล้านคนตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานเมื่อ 5 สัปดาห์ก่อน เขาจะเดินทางไปยังเมืองลวีฟ ทางตะวันตกของยูเครนเพื่อหารือหนทางเพิ่มการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบและพลัดถิ่นเพราะสงครามที่ไร้เหตุผลนี้.-สำนักข่าวไทย

ปตท.สผ.ชี้หากสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปีนี้แตะ $90-100

ปตท.สผ.หวั่นสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” ยืดเยื้อ อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยทั้งปีเฉลี่ย 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เร่งเจาะหลุมผลิตเพิ่มในแหล่งเอราวัณ เพื่อเพิ่มกำลังผลิตก๊าซฯ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันใน 24 เดือนข้างหน้า

ชาวยูเครนอพยพถึงชานเมืองกรุงเคียฟ

เร่งอพยพประชาชนกว่าพันคน ออกจากหมู่บ้านโบบริค ที่ถูกรัสเซียยึด ชาวบ้านเผยเขาต้องซ่อนตัวอยู่ในที่หลบภัยทั้งอาทิตย์ โดยไม่มีน้ำและไฟฟ้าใช้

สงครามเข้าสู่วันที่ 25 รัสเซียโหมโจมตีเมืองมาริอูโปลหนักหน่วง

รัสเซียยังโหมโจมตียูเครนในหลายแนวรบ โดยเฉพาะเมืองมาริอูโปล เมืองยุทธศาสตร์ทางตะวันออก และเมืองมิโคไลอีฟ ทางตอนใต้ และตรึงกำลังล้อมกรอบกรุงเคียฟ

ยูเครนว่าการยึดเมืองมารียูปอลเป็นอาชญากรรมสงคราม

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า การที่รัสเซียเข้ายึดเมืองมารียูปอล เมืองท่าสำคัญของยูเครน เป็นความน่ากลัวที่จะถูกจดจำเป็นเวลาหลายศตวรรษต่อจากนี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเมืองมารียูปอลกล่าวว่า ประชาชนหลายพันคนถูกกองทหารรัสเซียนำตัวออกไปจากเมืองไปยังดินแดนของรัสเซีย

“เซเลนสกี” จี้สวิตเซอร์แลนด์ร่วมต้านรัสเซีย

ประธานาธิบดีของยูเครน เรียกร้องรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ ปราบปรามกลุ่มชนชั้นนำชาวรัสเซีย และอายัดทรัพย์สินของกลุ่มคนที่มีส่วนพัวพันกับการทำสงครามในยูเครน

สถานทูตยูเครนโต้กลับ “นี่เป็นสงครามของปูติน”

หลังจากทูตรัสเซียประจำประเทศไทย แถลงว่า ปฏิบัติการในยูเครนไม่ใช่สงคราม พร้อมชี้ถึงเหตุผลและความจำเป็น วันนี้ สถานทูตยูเครนในไทย ได้เปิดแถลงชี้ว่า นี่เป็นสงครามการรุกรานของ “ปูติน”

ชาวยูเครนบางส่วนกลับบ้านแม้สงครามยังไม่ยุติ

ลวีฟ 17 มี.ค.- ชาวยูเครนบางส่วนตัดสินใจกลับประเทศทั้งที่สงครามยังไม่ยุติ เนื่องจากรู้สึกว่าไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างประเทศ แม้ว่ารู้สึกขอบคุณที่ประเทศในยุโรปให้การต้อนรับอย่างดี สตรีวัย 60 ปีคนหนึ่ง กล่าวระหว่างปาดน้ำตาให้หลานชายขณะโดยสารรถไฟมาถึงเมืองลวีฟ ทางตะวันตกของยูเครนว่า เธอและบุตรสาววัย 28 ปี หอบหิ้วหลานชาย 2 คน อพยพออกจากบ้านในคาร์คิฟ ทางตะวันออกของประเทศไปถึงโปแลนด์อย่างปลอดภัย และกลับมาที่เมืองลวีฟเมื่อวันพุธ ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 5 วัน เธอรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของโปแลนด์ และอาสาสมัครที่ดูแลอย่างดี แต่รู้สึกกลัวที่จะต้องเริ่มชีวิตใหม่ในต่างประเทศอย่างไร้ญาติขาดมิตร อีกทั้งยังมีอุปสรรคด้านภาษาเรื่องการรักษาหลานชายคนหนึ่งที่ป่วย ทำให้ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศ สหประชาชาติเผยว่า มีคนอพยพออกจากยูเครนแล้วราว 3 ล้าน ตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน แต่เอเอฟพีรายงานว่า ช่วงสัปดาห์นี้เห็นรถไฟ 3 ขบวนพาผู้โดยสารประมาณ 100-250 คนเดินทางจากเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของโปแลนด์มายังเมืองลวีฟของยูเครนเป็นระยะทาง 90 กิโลเมตร บางส่วนเป็นอาสาสมัครต่างชาติที่จะมาช่วยยูเครนรบกับรัสเซีย บางส่วนขนสิ่งของความช่วยเหลือมาให้ แต่ส่วนใหญ่เป็นเด็กและสตรีที่ถือหนังสือเดินทางยูเครน.-สำนักข่าวไทย

สงครามยูเครนอาจเปลี่ยนเศรษฐกิจ-การเมืองโลกครั้งใหญ่

วอชิงตัน 16 มี.ค.- กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ชี้ว่า สงครามในยูเครนจะกระทบต่อเศรษฐกิจโลกทั้งหมด และอาจทำให้เศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์โลกเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นฐาน ไอเอ็มเอฟโพสต์บทความในไอเอ็มเอฟบล็อกเมื่อวันอังคารว่า นอกเหนือจากความทุกข์ยากของผู้คนและการมีคลื่นผู้ลี้ภัยมากเป็นประวัติการณ์แล้ว สงครามนี้ยังทำให้ราคาอาหารและพลังงานแพงขึ้น ภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น มูลค่าของรายได้ลดลง การค้า ห่วงโซ่อุปทาน และการส่งเงินกลับประเทศของประเทศเพื่อนบ้านยูเครนถูกกระทบ ความมั่นใจของภาคธุรกิจลดลงทำให้นักลงทุนเกิดความไม่แน่ใจ ส่งผลกดดันต่อราคาสินทรัพย์ ภาวะการเงิน และอาจทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวลดลง สินค้าและบริการมีราคาสูงขึ้น ในระยะยาวแล้วสงครามยูเครนอาจทำให้พื้นฐานเศรษฐกิจโลกและระเบียบภูมิรัฐศาสตร์โลกเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หากมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้าพลังงาน ห่วงโซ่อุปทาน เครือข่ายการชำระเงิน และการถือครองสกุลเงินสำรอง ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั่วโลกว่า เศรษฐกิจรัสเซียและยูเครนจะถดถอยหนัก ยุโรปจะติดขัดเรื่องการนำเข้าก๊าซธรรมชาติและห่วงโซ่อุปทาน ยุโรปตะวันออกที่รับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนส่วนใหญ่จากทั้งหมด 3 ล้านคนจะแบกรับค่าจ่ายมากขึ้น ดินแดนคอเคซัสและเอเชียกลางที่มีการค้าและระบบชำระเงินเชื่อมโยงกับรัสเซียจะได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ตะวันออกกลางและแอฟริกาที่พึ่งพาภาวะการเงินภายนอกอาจมีเงินทุนไหลออกและมีภาระเพิ่มขึ้นสำหรับประเทศที่มีหนี้สูง ซีกโลกตะวันตกจะต้องซื้ออาหารและพลังงานแพงขึ้น ลาตินอเมริกา แคริบเบียนและสหรัฐจะมีเงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะสินค้าโภคภัณฑ์แพงขึ้น ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และประเทศเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกที่นำเข้าน้ำมันจะได้รับผลกระทบหนักที่สุดในเอเชีย.-สำนักข่าวไทย

เลขายูเอ็นเตือน “สงครามนิวเคลียร์” อาจเกิดขึ้นได้

สหประชาชาติ 15 มี.ค.- นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ชี้ว่า จะไม่มีผู้ชนะสงครามในยูเครน เพราะจะมีแต่คนแพ้ และอาจบานปลายกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ได้ เว็บไซต์รัสเซียทูเดย์หรืออาร์ที (RT) ซึ่งเป็นสื่อของทางการรัสเซียรายงานว่า นายกูเตอร์เรสแถลงนอกห้องประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเมื่อวันจันทร์ตามเวลานิวยอร์กว่า สงครามในยูเครนที่ทวีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือการจงใจจะเป็นภัยต่อมวลมนุษยชาติ โอกาสที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคิดมาก่อนได้กลับมาเป็นเรื่องที่สามารถเป็นไปได้จริงแล้ว นายกูเตอร์เรสเตือนเรื่องนี้ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียยกระดับกองกำลังด้านการป้องกันที่มีอาวุธเชิงยุทธศาสตร์หลากหลายประเภท ครอบคลุมทั้งอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธทั่วไป ขึ้นเป็นกองกำลังพิเศษเมื่อปลายเดือนก่อน เป็นการยกระดับที่นายกูเตอร์เรสมองว่า น่ากลัวอย่างน่าสยดสยอง เลขาธิการยูเอ็นกล่าวด้วยว่า สงครามนี้จะไม่มีผู้ชนะ จะมีแต่คนแพ้ และจะลุกลามไปยังเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนาที่จะได้รับผลกระทบเป็นพิเศษจากราคาอาหารแพงขึ้น เพราะรัสเซียและยูเครนผลิตน้ำมันดอกทานตะวันมากถึงครึ่งหนึ่งของโลก และปลูกข้าวสาลี 1 ใน 3 ของโลก อาร์ทีรายงานว่า บรรดาผู้รู้และนักการเมืองในยุโรปและสหรัฐกำลังกดดันให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตประกาศเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน เพื่อเปิดช่องให้ยุโรปและสหรัฐสามารถยิงเครื่องบินรัสเซียในน่านฟ้ายูเครน และนำชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์มาเผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผย จนถึงขณะนี้ผู้นำในนาโตและสหรัฐยังไม่ยอมเข้าไปข้องเกี่ยวกับสงครามนี้โดยตรง ตราบใดที่สมาชิกนาโตยังไม่ถูกโจมตี อาร์ทีกล่าวถึงการที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารกับยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ว่า ประธานาธิบดีปูตินยืนยันว่าเป็นการขจัดนาซีและปลดอาวุธประเทศเพื่อนบ้าน และสร้างความมั่นใจว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมนาโต โดยมีขึ้นหลังจากทั้งสองประเทศเผชิญหน้ากันมา 7 ปี จากเรื่องรัสเซียกล่าวหายูเครนว่า ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ที่พูดภาษารัสเซีย.-สำนักข่าวไทย

ที่ปรึกษาผู้นำยูเครนคาดสงครามอาจจบในเดือน พ.ค.

เคียฟ 15 มี.ค.- ที่ปรึกษาหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครนคาดว่า สงครามในยูเครนมีแนวโน้มจะจบสิ้นภายในต้นเดือนพฤษภาคม เมื่อรัสเซียหมดทรัพยากรที่จะใช้ในการโจมตียูเครน สื่อยูเครนหลายแห่งเผยแพร่คลิปของนายโอเล็กซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครนที่กล่าวว่า เวลาจบสงครามที่แน่ชัดขึ้นกับว่ารัสเซียพร้อมจะทุ่มทรัพยากรในการทำสงครามมากน้อยเพียงใด เขาคิดว่าควรจะมีข้อตกลงสันติภาพไม่เกินเดือนพฤษภาคม โดยอาจเป็นต้นเดือนพฤษภาคม สถานการณ์ขณะนี้กำลังอยู่กลางทางแยก อาจจะมีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพโดยเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์และมีการถอนทหาร หรืออาจจะมีความพยายามทำลายทุกอย่าง หรืออาจจะเกิดฉากทัศน์เลวร้ายที่สุดเมื่อรัสเซียส่งทหารชุดใหม่เข้ายูเครนหลังจากใช้เวลาฝึกนาน 1 เดือน อย่างไรก็ดี แม้มีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้ การปะทะประปรายจะยังคงเกิดขึ้นไปอีกราว 1 ปี ที่ปรึกษายูเครนคาดการณ์ดังกล่าวในขณะที่การเจรจาระหว่างยูเครน-รัสเซียรอบล่าสุดเมื่อวานนี้ยังไม่บรรลุผลใด ๆ นอกจากเรื่องเส้นทางมนุษยธรรมให้คนอพยพออกจากเมืองในยูเครนที่ถูกปิดล้อม.-สำนักข่าวไทย

วาติกันมองรัสเซียรุกรานยูเครนชี้ว่าโลกกำลังถอยหลัง

วาติกัน 13 มี.ค.- เลขาธิการรัฐวาติกันแสดงความกังวลต่อการที่รัสเซียรุกรานยูเครนว่า เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าโลกกำลังก้าวถอยหลังเข้าสู่อดีต แทนที่จะกล้าเดินหน้าเพื่ออนาคตที่แตกต่างไปจากเดิม พระอัครสังฆราชปิเอโตร ปาโรลีน เลขาธิการรัฐวาติกัน ผู้ได้รับการเคารพอย่างกว้างขวางมากเป็นอันดับสองรองจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสต์จักรโรมันคาทอลิกเรียกร้องให้รัสเซียเจรจากับยูเครน โดยระบุว่าผู้นำที่ทำสงครามคือผู้ที่เชื่อแต่ตรรกะเลวร้ายเรื่องการใช้อาวุธ และลืมสิ้นถึงความเป็นมนุษย์ พร้อมกับย้ำเรื่องสำนักวาติกันอาสาเป็นเจ้าภาพการเจรจา เพื่อก้าวไปสู่อนาคตของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ พระอัครสังฆราชปาโรลีนเปรียบสงครามว่าเหมือนมะเร็งร้ายที่เติบโต ลุกลาม และกัดกินตัวเอง เป็นการเสี่ยงภัยที่ไม่มีทางหวนกลับดังที่สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 เคยตรัสไว้ ทุกคนต้องตระหนักว่า ได้ตกไปอยู่ในระแสน้ำวนที่คาดการณ์ไม่ได้และส่งผลเลวร้ายกับทุกคนแล้ว แต่ขอบอกว่ายังไม่สายเกินไปที่จะสร้างสันติภาพ และถอยหลังมาหนึ่งก้าวเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน เลขาธิการรัฐวาติกันกล่าวเรื่องนี้ในขณะที่เว็บไซต์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนอ้างว่า มีทหารยูเครนพลีชีพแล้ว 1,300 นายนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกราน เจ้าหน้าที่ยูเครนเผยว่า มีการอพยพประชาชนตามเมืองต่าง ๆ มากกว่า 13,000 คนผ่านเส้นทางมนุษยธรรมเมื่อวันเสาร์ แต่ชาวเมืองมารีอูปอล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไม่สามารถออกมาได้แม้แต่คนเดียว เพราะถูกกองกำลังรัสเซียปิดล้อมท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น ไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยมีอาหารและน้ำเหลืออย่างจำกัด ยูเครนอ้างด้วยว่า กองกำลังรัสเซียยิงใส่ขบวนรถเด็กและสตรีที่กำลังอพยพออกจากหมู่บ้านใกล้กรุงเคียฟ ทำให้มีคนเสียชีวิต 7 คน.-สำนักข่าวไทย

1 27 28 29 30 31 37
...