วัคซีน

โตเกียว 8 ม.ค.- ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นแตะ 1,224 คนในวันนี้ เพิ่มขึ้น 15 เท่าจากสัปดาห์ก่อน ด้านทางการเล็งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้คณะที่จะไปร่วมโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่ง กรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในวันนี้ 1,224 คน เพิ่มขึ้นจาก 922 คนเมื่อวันก่อน และ 79 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน สะท้อนถึงสถานการณ์การระบาดที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว นับจากยืนยันพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนในชุมชนรายแรกเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน กรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อทะลุ 1,000 คน ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ขณะเดียวกันแหล่งข่าวเผยว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่คณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่จะไปร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่งของจีน ซึ่งจะเปิดฉากในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่บุคคลากรทางการแพทย์เมื่อเดือนธันวาคม ตามด้วยคนชราตามบ้านพักคนชรา ญี่ปุ่นมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้าน 7 แสน 4 หมื่นคน เสียชีวิตมากกว่า 18,300 […]

ซิดนีย์ 8 ม.ค.- ทนายความของโนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือหนึ่งของโลกยื่นเรื่องต่อศาลว่า ลูกความได้แจ้งประวัติติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เมื่อเดือนก่อนโดยไม่มีอาการ และได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากออสเตรเลียให้เข้าประเทศได้โดยได้รับการยกเว้นจากข้อกำหนดเรื่องการฉีดวัคซีน ทนายความระบุในคำร้องต่อศาลว่า ยอโควิชแจ้งผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 และไม่มีไข้ ในช่วง 14 วันหลังจากนั้น หรือมีอาการด้านระบบทางเดินหายใจของโรคโควิดในช่วง 72 ชั่วโมงหลังสุด ต่อมาสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทยออสเตรเลียได้มีหนังสือถึงยอโควิชเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ว่า เขาผ่านเกณฑ์การเดินทางเข้าออสเตรเลียได้โดยไม่ต้องกักตัว ยอโควิช ชาวเซอร์เบีย วัย 34 ปี ถูกกักตัวที่สถานกักตัวคนต่างด้าว นับตั้งแต่ถูกยกเลิกวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึงออสเตรเลียในวันที่ 6 มกราคม เขาไม่เคยเปิดเผยเรื่องประวัติการฉีดวัคซีน แต่ได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายบังคับฉีดวัคซีน ทนายความกำลังยื่นคำร้องต่อศาลรัฐบาลกลางออสเตรเลียคัดค้านการยกเลิกวีซ่า ด้วยหวังว่าจะทำให้เขาสามารถเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียโอเพนที่จะเปิดฉากในวันที่ 17 มกราคม เพื่อคว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 21.-สำนักข่าวไทย

ปารีส 6 ม.ค.- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายเข้มงวดการใช้บัตรผ่านโควิดในการรับบริการสาธารณะ ด้วยการให้ใช้แต่ใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้น หลังจากอภิปรายอย่างดุเดือดนานถึง 3 วัน สส.ฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายนี้ด้วยคะแนน 214 ต่อ 93 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียงก่อนเวลา 05:30 น.วันนี้ตามเวลาฝรั่งเศส และจะต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาที่จะพิจารณาในต้นสัปดาห์หน้า รัฐบาลต้องการให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 มกราคม แต่มีแนวโน้มจะล่าช้าเพราะการอภิปรายติดขัดในสภาผู้แทนราษฎร ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนในการเข้าร้านอาหาร สถานที่ทางวัฒนธรรม และรถโดยสารสาธารณะข้ามภูมิภาค โดยไม่สามารถใช้ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบเช่นในปัจจุบันได้อีกต่อไป ยกเว้นการเข้ารับบริการทางการแพทย์ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสถูกวิจารณ์อย่างหนัก จากการที่กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ยุทธศาสตร์เรื่องโควิดของเขาจะก่อกวนผู้ไม่ฉีดวัคซีน ด้วยการเพิ่มมาตรการจำกัดเข้มงวดเพื่อจูงใจให้ไปฉีดวัคซีน ฝรั่งเศสมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 10 ล้าน 9 แสน 2 หมื่นคน มากเป็นอันดับ 5 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 124,800 คน มีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 73.7.-สำนักข่าวไทย

ปานามา ซิตี 6 ม.ค.- ปานามากำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไม่เช่นนั้นต้องตรวจหาเชื้อทุกสัปดาห์ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขปานามาแถลงว่า ประธานาธิบดีเลาเรนติโน กอร์ติโซได้ลงนามในคำสั่งบังคับให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องฉีดวัคซีน 3 เข็ม หรือแสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบทุกวันจันทร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม เพราะหน่วยงานของรัฐบาลจะต้องทำงานต่อไปโดยไม่สามารถหยุดเพราะโรคโควิด-19 ปานามาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,372 คนในวันพุธ และได้ฉีดวัคซีนให้ประชากร 4 ล้าน 2 แสนคนไปแล้ว 6 ล้านโดส ประชากรกลุ่มเป้าหมายอายุ 12 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วร้อยละ 90 และฉีดวัคซีนเข็ม 2 แล้วร้อยละ 81 รัฐบาลได้ลดระยะห่างเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับคนอายุ 16 ปีขึ้นไป จาก 6 เดือนเหลือ 3 เดือน หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ปานามามียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 503,400 คน เสียชีวิตมากกว่า 7,400 คน.-สำนักข่าวไทย

ปารีส 4 ม.ค.- รัฐบาลฝรั่งเศสจะเดินหน้าใช้กฎหมายห้ามผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ใช้บริการสถานที่สาธารณะและรถสาธารณะ แม้ว่าการอภิปรายกฎหมายนี้ในรัฐสภาสะดุดลงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายเคลมองต์ โบน รัฐมนตรีกิจการยุโรปของฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ในวันนี้ว่า วันที่ 15 มกราคมยังคงเป็นเป้าหมายการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ปัจจุบันฝรั่งเศสบังคับใช้บัตรผ่านโควิดที่ต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบหรือใบรับรองการฉีดวัคซีนเมื่อจะใช้บริการร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ หรือรถไฟ แต่กฎหมายใหม่จะไม่เหลือทางเลือกให้แสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ ส่งผลให้ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนไม่สามารถใช้บริการสถานที่สาธารณะและรถสาธารณะได้อีกต่อไป กฎหมายนี้ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากกลุ่มต่อต้านวัคซีน กลุ่มขวาจัด และกลุ่มซ้ายจัด แต่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ครองเสียงข้างมากในสภา อย่างไรก็ดี การอภิปรายกฎหมายฉบับนี้ในสภาผู้แทนราษฎรต้องระงับไปหลังเที่ยงคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจาก สส.ส่วนใหญ่ลงมติให้ระงับการอภิปราย ขณะที่ สส.ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้อยู่ในที่ประชุมมากเพียงพอที่จะขัดขวางการลงมติได้ ประธาน สส.กลุ่มต่าง ๆ จะต้องกำหนดวันอภิปรายใหม่อีกครั้ง หากผ่านความเห็นชอบจาก สส. จะต้องให้ สว.เห็นชอบ จึงจะสามารถบังคับใช้ในวันที่ 15 มกราคมได้.-สำนักข่าวไทย

รัฐมนตรีอังกฤษที่ดูแลเรื่องวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เผยว่า ผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้าโรงพยาบาลส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการรุนแรงเหมือนการติดเชื้อที่ผ่านมา จึงยังไม่จำเป็นต้องเข้มงวดมาตรการจำกัดการระบาดในเวลานี้

การาจี 3 ม.ค.- ปากีสถานแจ้งวันนี้ว่า พบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 700 คนในวันเดียว เป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบ 2 เดือน ศูนย์บัญชาการปฏิบัติการแห่งชาติของปากีสถานซึ่งดูแลการรับมือโรคโควิด-19 ระบาดแจ้งว่า ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างน้อย 708 คน ทำให้อัตราการตรวจพบผลบวกจากการทดสอบทั้งหมดเพิ่มเป็นร้อยละ 1.55 สูงที่สุดนับจากวันที่ 24 ตุลาคม นายอาซัด อุมาร์ รัฐมนตรีที่กำกับดูแลการรับมือกับโควิดทวีตในทวิตเตอร์ว่า เห็นได้ชัดเจนว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นการเริ่มต้นของการระบาดระลอก 5 ที่คาดว่าจะกินเวลาหลายสัปดาห์ นอกจากนี้การวิเคราะห์ลำดับสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสยังทำให้พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนครการาจีที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ ปากีสถานพบผู้ติดโอไมครอนรายแรกในเมืองนี้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ข้อมูลจนถึงวันที่ 27 ธันวาคมพบแล้วทั้งหมด 75 คนทั่วประเทศ ชาวปากีสถานฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 70 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 32 ของประชากรทั้งประเทศมากกว่า 225 ล้านคน รัฐบาลอนุมัติให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่ผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไปตั้งแต่วันนี้ ส่วนเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปสามารถฉีดที่โรงเรียนได้ […]