วัคซีน

วอชิงตัน 31 พ.ค. – สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือ เอฟดีเอ (FDA) ได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รุ่นใหม่ของบริษัทโมเดอร์นา (Moderna) สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นการให้ความเห็นชอบวัคซีนครั้งแรกนับตั้งแต่เอฟดีเอประกาศใช้ข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม โมเดอร์นากล่าวในแถลงการณ์ด้วยว่า วัคซีนรุ่นใหม่นี้ได้รับการอนุมัติสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ถึง 64 ปี ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพอย่างน้อยหนึ่งอย่างขึ้นไป โมเดอร์นาระบุว่า คาดว่าจะสามารถนำวัคซีนดังกล่าวที่ใช้ชื่อว่า “เอ็มเน็กซ์สไปค์” (mNEXSPIKE) ออกมาใช้ได้ทันสำหรับฤดูการระบาดของไวรัสระบบทางเดินหายใจในปี 2025-2026 วัคซีนนี้สามารถเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นได้โดยไม่ต้องเก็บในช่องแช่แข็ง ทำให้มีอายุการใช้งานนานขึ้นและสามารถจัดจำหน่ายง่ายขึ้น โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่ปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานอาจเป็นอุปสรรคต่อการรณรงค์ฉีดวัคซีน.-813.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 31 พ.ค. – ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ ซีดีซี กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยังคงเป็นทางเลือกสำหรับเด็กที่มีสุขภาพดี หากผู้ปกครองและแพทย์เห็นชอบว่ามีความจำเป็น ซึ่งเป็นการตอบโต้คำประกาศของโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ว่าซีดีซีจะถอดวัคซีนดังกล่าวออกจากตารางแผนการสร้างภูมิคุ้มกัน ซีดีซี กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับเด็กสุขภาพดีที่มีอายุ 6 เดือนถึง 17 ปี ควรเป็นไปตาม “การตัดสินใจทางการแพทย์ร่วมกัน” ระหว่างผู้ปกครองของเด็กและผู้ให้บริการด้านสุขภาพของพวกเขา ก่อนหน้านี้ซีดีซีเคยแนะนำวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดปรับปรุงใหม่สำหรับทุกคนที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยอิงตามคำแนะนำของคณะผู้เชี่ยวชาญภายนอก แต่นายเคเนดี ซึ่งเป็นที่รู้จักจากจุดยืนที่สงสัยในวัคซีน กล่าวเมื่อวันอังคารว่า วัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กที่มีสุขภาพดีและสตรีมีครรภ์จะถูกถอดออกจากตารางการแนะนำการสร้างภูมิคุ้มกันของซีดีซี.-813.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 7 เม.ย.- สหรัฐพบผู้ป่วยหัดเยอรมันแล้วใน 22 รัฐ ในจำนวนนี้อย่างน้อย 5 รัฐมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะรัฐเท็กซัสที่มีเด็กเสียชีวิตแล้ว 2 คน และมีผู้ป่วยเกือบ 500 คน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดของสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) เปิดเผยว่า รัฐเท็กซัส นิวเม็กซิโก โอไฮโอ โอกลาโฮมา และแคนซัส พบผู้ป่วยติดเชื้อหัดเยอรมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนถึงขณะนี้พบผู้ป่วยรวมแล้วกว่า 600 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน การระบาดในรัฐเท็กซัสเริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม หน่วยงานสาธารณสุขของรัฐเปิดเผยว่า พบผู้ป่วยหัดเยอรมันเพิ่มเป็น 480 รายใน 19 ชุมชนจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มจาก 420 รายเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนใหญ่อยู่ทางตะวันตกและตอนกลางของรัฐ มีผู้ป่วย 2 รายที่ไม่ฉีดวัคซีนหัดเยอรมันเสียชีวิต โดยรายล่าสุดเป็นเด็กหญิงวัย 8 ขวบ เสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดีจากระบบหายใจล้มเหลว นายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า ล้มเหลวไม่สามารถรับมือการแพร่ระบาดของหัดเยอรมันในขณะนี้ นายเคนเนดี ซึ่งเป็นผู้ต่อต้านการใช้วัคซีนป้องกันโรคมาโดยตลอด ได้เดินทางลงพื้นที่รัฐเท็กซัสช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา […]

เท็กซัส 27 ก.พ.- โรคหัดกำลังแพร่ระบาดหนักในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ  ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตเป็นรายแรกในรอบ 10 ปี กระทรวงสาธารณสุขรัฐเท็กซัสออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเด็กที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัดมาก่อน โดยเสียชีวิตเมื่อกลางดึกคืนวันอังคาร หลังเข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการป่วยจากโรคหัด  นับเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคหัดเป็นรายแรกในรอบ 10 ปีของสหรัฐ และเกิดขึ้นในช่วงที่โรคหัดระบาดในรัฐเท็กซัสเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้ว โดยนับตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึงขณะนี้รัฐเท็กซัสพบผู้ป่วยแล้ว 124 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก และมีผู้ป่วยเพียง 5 คนที่ได้รับวัคซีนมาก่อน นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้ออีก 9 คน ในรัฐนิวเม็กซิโกซึ่งอยู่ใกล้กัน ทางการเตือนว่า เนื่องจากโรคหัดเป็นโรคที่ติดต่อง่ายจึงมีแนวโน้มที่จะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์  รัฐมนตรีสาธารณสุขผู้ซึ่งเป็นนักวิจารณ์วัคซีนป้องกันโรคได้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันเดียวกันว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัดในรัฐเท็กซัสแล้ว 2 คน ต่อมากระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของเขาได้แก้ไขตัวเลขเป็น 1 คน สหรัฐเคยประกาศว่าโรคหัดถูกกำจัดหมดไปแล้วเมื่อปี 2543 ซึ่งหมายความว่าไม่พบการแพร่กระจายของโรคต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี  แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐบาลกลางระบุว่า การแพร่ระบาดของโรคหัดในบางครั้งเกิดจากการที่ผู้ปกครองไม่ยอมให้บุตรหลานฉีดวัคซีนป้องกัน โดยเมื่อปี 2567 พบผู้ป่วยทั่วประเทศ 285 รายจากการระบาด 16 ครั้ง […]

วอชิงตัน 26 ก.พ.- ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) แจ้งว่า ยอดผู้ป่วยโรคหัดในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 93 คนแล้ว ซึ่งเพิ่มจาก 14 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน ซีดีซีแจ้งเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในเขตเทศมณฑลเกนส์ รัฐเท็กซัส ซึ่งกำลังเกิดการระบาด โดยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจาก 22 คนเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์เป็น 57 คน ขณะที่ทั่วรัฐเท็กซัสพบผู้ป่วยแล้ว 90 คน ทำให้เกิดความวิตกว่า จะเกิดการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของรัฐด้วย  นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยในหลายรัฐทั้งอะแลสกา แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย นิวเจอร์ซีย์ นิวเม็กซิโก โรดไอส์แลนด์ และนครนิวยอร์ก โดยพบว่าผู้ป่วยร้อยละ 95 ไม่เคยฉีดวัคซีนเอ็มเอ็มอาร์ (MMR) ที่ป้องกันหัด คางทูม และหัดเยอรมัน หรือไม่ทราบสถานะการฉีดวัคซีน ขณะที่ร้อยละ 4 ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม ไม่ครบ 2 เข็มตามคำแนะนำของแพทย์ […]