![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2022/04/New-Project-2022-04-07T101054.462-685x360.jpg)
กาชาดสากลช่วยผู้ลี้ภัยออกจากเมืองมาริอูโปล
ทีมกาชาดสากล นำรถรับผู้ลี้ภัยกว่า 1,000 คน ที่หลบหนีออกมาจากเมืองมาริอูโปล ของยูเครน ไปยังเมืองซาปอริซเซีย
ทีมกาชาดสากล นำรถรับผู้ลี้ภัยกว่า 1,000 คน ที่หลบหนีออกมาจากเมืองมาริอูโปล ของยูเครน ไปยังเมืองซาปอริซเซีย
วอชิงตัน 7 เม.ย. – สหรัฐประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อบุคคลใกล้ชิดประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงบุตรสาว 2 คน คือ แคเทอรินา วลาดิมิรอฟนา ทิโคโนวา และมาเรีย วลาดิมิรอฟนา โวรอนต์โซวา โดยที่สหรัฐระบุว่าทั้งสองคนทำงานสนับสนุนรัฐบาลรัสเซียและถือครองทรัพย์สินของผู้นำรัสเซีย สหรัฐประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อ แคเทอรินา วลาดิมิรอฟนา ทิโคโนวา และมาเรีย วลาดิมิรอฟนา โวรอนต์โซวา บุตรสาวของประธานาธิบดีปูติน ด้วยการสั่งอายัดทรัพย์สินและผลประโยชน์ในทรัพย์สินของทั้งสองคนในสหรัฐ แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า ทิโคโนวาทำงานเป็นผู้บริหารด้านเทคโนโลยีที่สนับสนุนรัฐบาลรัสเซียและอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ส่วนโวรอนต์โซวาทำงานเป็นผู้นำโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐจากรัฐบาลรัสเซียเพื่อนำไปใช้ในการวิจัยด้านพันธุศาสตร์ โดยมีผู้นำรัสเซียเป็นผู้ควบคุมโครงการดังกล่าวโดยตรง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐเผยถึงสาเหตุที่สหรัฐตัดสินใจคว่ำบาตรบุตรสาว 2 คนของประธานาธิบดีปูตินว่า สหรัฐเชื่อว่าบุตรสาวของผู้นำรัสเซียเป็นผู้ถือครองและควบคุมทรัพย์สินบางส่วนของผู้เป็นบิดา และมีเหตุผลที่ทำให้เชื่อว่า ประธานาธิบดีปูติน บุคคลใกล้ชิด และมหาเศรษฐีชาวรัสเซียหลายคน ได้ปิดบังและซุกซ่อนทรัพย์สินไว้ที่สมาชิกในครอบครัว ซึ่งเก็บทรัพย์สินเหล่านี้ไว้ในระบบการเงินของสหรัฐและในอีกหลายประเทศทั่วโลก สหรัฐยังได้เผยรายละเอียดมาตรการคว่ำบาตรอื่น ๆ ต่อรัสเซีย เช่น การใช้มาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อห้ามการลงทุนใหม่ในรัสเซีย การคว่ำบาตรทางการเงินอย่างรุนแรงต่ออัลฟา แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย การคว่ำบาตรรัฐวิสาหกิจรายใหญ่ของรัสเซีย และการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลรัสเซียและสมาชิกในครอบครัว ซึ่งรวมถึงสมาชิกในครอบครัวของนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ทั้งนี้ […]
นายอเล็กซานเดอร์ กรัชโก รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียกล่าววันนี้ว่า รัสเซียยังคงต้องการรักษารความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศตะวันตกไว้ต่อไป แม้ว่า จะมีการขับเจ้าหน้าที่การทูตรัสเซียออกจากหลายประแทศในยุโรป
อินเทล คอร์ป บริษัทผู้ผลิตชิปของสหรัฐ กล่าวในวันอังคารว่า ทางบริษัทฯ ได้ระงับการดำเนินธุรกิจในรัสเซีย หลังจากที่หลายบริษัทธุรกิจตบเท้าออกจากรัสเซีย เมื่อรัสเซียใช้กำลังบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
รัสเซียกล่าวหายูเครนจงใจทำลายการเจรจาสันติภาพ ย้ำข้อเสนอของยูเครนที่ให้รัสเซียถอนทหารออกจากยูเครนก่อนจะมีการทำประชามติข้อตกลงนั้น รัสเซียไม่มีวันยอมรับ
เจนีวา 5 เม.ย.- นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟของยูเครนเรียกร้องให้นักการเมืองในยุโรปตัดความสัมพันธ์ทางการค้าทั้งหมดกับรัสเซียโดยระบุว่า เงินทั้งหมดที่จ่ายให้รัสเซียเป็น “เงินเปื้อนเลือด” ที่จะยิ่งทำให้เกิด “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวยูเครน นายวิตาลี คลิชโก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟกล่าวในการประชุมนายกเทศมนตรีที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ผ่านระบบวิดีโอทางไกลในวันนี้ว่า ทุกยูโรทุกเซนต์ที่รับมาหรือจ่ายให้แก่รัสเซียล้วนเปื้อนเลือด เป็นเงินเปื้อนเลือดประเทศยูเครนและประชาชนชาวยูเครน ทุกคนโลเลไม่ได้อีกแล้ว สงครามขณะนี้มีแต่ขาวหรือดำ มีแต่ต้องเลือกว่าสนับสนุนสันติภาพและยูเครน หรือสนับสนุนผู้รุกรานอย่างรัสเซีย เขาพูดถึงเรื่องที่เห็นศพผู้คน ซึ่งมีหญิงชรารวมอยู่ด้วย ระหว่างเดินทางไปเมืองบูจาและเมืองใกล้เคียงกรุงเคียฟในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เห็นรถติดธงสีขาวและตัวอักษรว่า “มีเด็ก” ถูกยิงถล่มและมีรอยเลือดในรถ และว่าเจ้าหน้าที่ยูเครนกำลังสำรวจว่ามีศพชาวรัสเซียในพื้นที่หรือไม่ นายคลิชโกเผยว่า สถานการณ์ในกรุงเคียฟดีขึ้นแล้ว ประชาชนทยอยกลับมา แต่สถานการณ์ทางฝั่งตะวันออกกำลังวิกฤต นายกเทศมนตรีเมืองมารีอูปอลที่ถูกปิดล้อมมาหลายสัปดาห์บอกกับเขาว่า มีประชาชนถูกสังหารแล้วราว 5,000 คน นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นอดีตนักมวยรุ่นเฮฟวีเวทย้ำข้อเรียกร้องให้ยุโรปเพิ่มการจัดส่งอาวุธที่สามารถปกป้องตัวเองมาให้แก่ยูเครนเพื่อประโยชน์ของยุโรปเอง เพราะสงครามนี้กระทบกับทุกคนในยุโรป.-สำนักข่าวไทย
โคเปนเฮเกน 5 เม.ย. – เดนมาร์กเผยวันนี้ว่า จะขับนักการทูตของรัสเซีย 15 คนออกนอกประเทศ ขณะที่อิตาลีได้สั่งขับนักการทูตรัสเซีย 30 คนพ้นประเทศแล้วเช่นกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับประเทศสมาชิกอื่น ๆ ของสหภาพยุโรป หรืออียู หลังมีรายงานข่าวพบหลุมศพหมู่และศพพลเรือนหลายร้อยคนที่เมืองบูจา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ นายเยปเป โคฟอด รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเดนมาร์ก ระบุในงานแถลงข่าววันนี้ว่า เดนมาร์กจะขับนักการทูตรัสเซีย 15 คนออกนอกประเทศ เพื่อตอบโต้การกระทำอันโหดร้ายทารุณและการก่ออาชญากรรมสงครามของรัสเซียจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองบูจา และเพื่อส่งสารที่ชัดเจนไปยังรัสเซียว่า เดนมาร์กไม่ยอมรับการจารกรรมในดินแดนเดนมาร์ก หลังจากสำนักงานข่าวกรองและความมั่นคงของเดนมาร์กออกรายงานเมื่อต้นปีนี้ว่า สถานทูตรัสเซียจ้างเจ้าหน้าที่ข่าวกรองหลายรายทำการจารกรรมในเดนมาร์ก อย่างไรก็ดี กระทรวงต่างประเทศเดนมาร์กระบุเพิ่มเติมว่า เดนมาร์กไม่ได้ต้องการตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย และคำสั่งดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเอกอัครราชทูตรัสเซียและสถานทูตรัสเซียประจำเดนมาร์ก ในขณะเดียวกัน นายลุยจิ ดิ ไมโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิตาลี ได้ประกาศขับนักการทูตรัสเซีย 30 คนออกนอกประเทศ เนื่องจากเหตุผลเกี่ยวกับข้อวิตกกังวลด้านความมั่นคง ทั้งนี้ การประกาศขับนักการทูตรัสเซียพ้นประเทศของเดนมาร์กและอิตาลีเป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศสมาชิกอื่น ๆ ของอียู เช่น ฝรั่งเศสและเยอรมนี ที่ประกาศขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศเมื่อวันจันทร์ อย่างไรก็ดี สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสตี ของรัสเซีย รายงานว่า รัฐบาลรัสเซียจะตอบโต้การใช้คำสั่งในลักษณะเดียวกันกับประเทศของประเทศสมาชิกอียูในเร็ว […]
ลวีฟ 5 เม.ย.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนยอมรับวันนี้ว่า ยูเครนไม่มีทางเลือก นอกจากต้องเจรจากับรัสเซียเพื่อยุติการสู้รบ แต่เขาและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียอาจไม่ได้เจรจากันเป็นการส่วนตัว ประธานาธิบดีเซเลนสกีให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ระดับประเทศของยูเครนในวันนี้ว่า ทุกคนรวมทั้งตัวเขาเองมองว่าความเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาเป็นเรื่องท้าทาย เป็นความท้าทายภายในความคิดของตัวเอง และเมื่อตัดสินใจได้แล้วก็ต้องทำ เขาเชื่อว่ายูเครนไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว แม้เหตุการณ์ที่เมืองบูจาเป็นเรื่องที่ไม่สามารถให้อภัยได้ แต่ยูเครนและรัสเซียควรสานต่อการเจรจา ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยากเย็น และรัสเซียควรตระหนักถึงเรื่องที่ทหารรัสเซียถูกกล่าวหาว่าได้กระทำลงไป ต่อข้อถามเรื่องเขาจะเจรจาโดยตรงกับผู้นำรัสเซียหรือไม่ ผู้นำยูเครนตอบเพียงสั้น ๆ ว่า เป็นไปได้ว่าจะไม่เกิดขึ้น ด้านสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซียรายงานอ้างรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียว่า กำลังเดินหน้าเจรจากับยูเครนผ่านทางระบบวิดีโอทางไกล.-สำนักข่าวไทย
ปารีส 5 เม.ย. – หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยต่อแผนการและเป้าหมายต่อไปของรัสเซียในการทำสงครามยูเครน หลังจากที่มีท่าทีจะทิ้งเป้าหมายเบื้องต้นเรื่องการยึดกรุงเคียฟและขับไล่รัฐบาลยูเครน แต่ยังคงรุกโจมตีพื้นที่ทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครนอย่างหนัก เอเอฟพีตั้งข้อสังเกตถึงเป้าหมาย 5 ประการที่รัสเซียตั้งไว้ในระยะต่อไป ซึ่งอาจทำให้สงครามกับยูเครนยืดเยื้อและมีความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สินมากยิ่งขึ้น หลังจากดำเนินมาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือนครึ่งแล้ว เป้าหมายประการแรกคือ การคว้าชัยชนะเชิงสัญลักษณ์ นายอเล็กซานเดอร์ กรินเบิร์ก นักวิเคราะห์ของสถาบันความมั่นคงและยุทธศาสตร์แห่งนครเยรูซาเลม (JISS) มองว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับวันที่และประวัติศาสตร์ในเชิงสัญลักษณ์ ดังนั้น ผู้นำรัสเซียจึงต้องการภาพแห่งชัยชนะก่อนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม หรือวันแห่งชัยชนะ ซึ่งเป็นวันสำคัญประจำปีของรัสเซียจากชัยชนะสงครามต่อต้านกองทัพนาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป้าหมายประการที่สองคือ การยึดเมืองมารีอูปอลมาจากยูเครนให้ได้ เนื่องจากตอนนี้กองทัพรัสเซียได้ถอนกำลังออกจากกรุงเคียฟและแคว้นทางตอนเหนือ แต่ยังคงตรึงกำลังปิดล้อมเมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางใต้ของยูเครน เป็นเวลานานหลายสัปดาห์จนถูกนานาชาติตำหนิ อย่างไรก็ดี การยึดเมืองมารีอูปอลถือเป็นย่างก้าวสำคัญที่จะเอื้อให้รัสเซียมีอำนาจควบคุมพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียมาตั้งแต่ปี 2557 เป้าหมายประการที่สามคือ การเดินหน้ายึดดินแดนเพิ่ม แม้รัสเซียได้ลงนามรับรองการแยกตัวเป็นอิสระของแคว้นโดเนสตก์และแคว้นลูฮันสก์ในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ทั้งสองแคว้นก็ยังไม่สามารถควบคุมอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จ รัฐบาลรัสเซียจึงได้เน้นย้ำให้ผู้ปกครองแคว้นโดเนสตก์และแคว้นลูฮันสก์ควรมีอำนาจควบคุมและปกครองดินแดนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายหลักของการทำสงครามในครั้งนี้ด้วย เป้าหมายประการที่สี่คือ การยื้อเวลาทำสงคราม การบุกโจมตียูเครนเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า รัสเซียต้องสูญเสียทั้งกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ไปเป็นจำนวนมากเพราะถูกกองกำลังยูเครนต้านทาน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผิดคาดจากที่รัสเซียคิดไว้ อย่างไรก็ดี นายไมเคิล […]
กาชาดสากลร้องขอรัสเซียและยูเครน ช่วยเปิดทางให้ขบวนสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปให้ถึงประชาชนที่ตกอยู่ในวงล้อมของการสู้รบในแนวหน้า
ลิมา 5 เม.ย.- ประธานาธิบดีเปโดร กัสติญโญ ของเปรูสั่งห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวในกรุงลิมาในวันนี้ หวังยับยั้งไม่ให้คนออกมาชุมนุมประท้วงราคาน้ำมันและปุ๋ยแพงทั่วประเทศ ประธานาธิบดีกัสติญโญแถลงทางโทรทัศน์ทั่วประเทศช่วงก่อนเที่ยงคืนวันจันทร์ตามเวลาเปรูว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีคำสั่งห้ามประชาชนเดินทางตั้งแต่เวลา 02:00-23:59 น.วันอังคารตามเวลาเปรู เพื่อปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน รัฐบาลเปรูเผยว่า การประท้วงกลายเป็นเหตุรุนแรง มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน การประท้วงในหลายพื้นที่ของเปรูเพื่อแสดงความไม่พอใจราคาเชื้อเพลิงและปุ๋ยแพง อันเป็นผลจากการที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียที่รุกรานยูเครน ได้ยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันที่ผู้ประท้วงได้เผาด่านเก็บเงินค่าผ่านทางและปะทะกับตำรวจใกล้เมืองอิกา ทางใต้ของประเทศ ส่วนเมื่อสัปดาห์ก่อนเกษตรกรและคนขับรถบรรทุกได้ปิดกั้นทางหลวงบางเส้นทาง ทำให้ราคาอาหารปรับขึ้นอย่างฉับพลัน รัฐบาลเสนอยกเว้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเป็นส่วนใหญ่เพื่อดึงราคาให้ลดลง และจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกร้อยละ 10 เป็นเดือนละ 1,205 นวยโบซอล (ราว 11,038 บาท) นอกจากนี้ยังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสำหรับภาคการเกษตรเพราะราคาปุ๋ยแพงขึ้นด้วย เปรูเผชิญภาวะเงินเฟ้อตั้งแต่ยังไม่มีสงครามยูเครนเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก อัตราเงินเฟ้อเดือนมีนาคมสูงถึงร้อยละ 26 สาเหตุหลักเพราะราคาเชื้อเพลิงและอาหารแพงขึ้น ประธานาธิบดีกัสติญโญ อดีตครูและแกนนำสหภาพแรงงานฝ่ายซ้าย วัย 52 ปี ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 130 เมื่อปี 2564 โดยได้รับเสียงสนับสนุนล้นหลามจากคนยากจนในชนบท อย่างไรก็ดี คะแนนนิยมของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงร้อยละ 25 เฉลี่ยทั่วประเทศ […]
วอชิงตัน 5 เม.ย. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เรียกร้องให้ไต่สวนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม หลังมีการเผยแพร่หลักฐานที่ชี้ว่ากองทัพรัสเซียได้สังหารพลเรือนหลายร้อยรายในเมืองบูจา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ ประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินเป็นคนที่มีจิตใจโหดเหี้ยม และเชื่อว่าผู้นำรัสเซียเป็นอาชญากรสงคราม ทุกคนคงจำได้ว่าเขาเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่เรียกประธานาธิบดีปูตินว่าเป็นอาชญากรสงครามมาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ก็ได้เห็นกันแล้วว่าเหตุการณ์ในเมืองบูจาเป็นอย่างไร ผู้นำรัสเซียเป็นอาชญากรสงครามตามที่เขาเคยกล่าวไว้จริง ๆ แต่จำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อให้เกิดการพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามขึ้น ประธานาธิบดีไบเดนยังกล่าวว่า การพบหลุมศพหมู่และศพพลเรือนจำนวนมากที่เมืองบูจาเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจ และประธานาธิบดีปูตินต้องเป็นผู้ชดใช้ความผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เขาตั้งใจที่จะหาทางใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซียอีกด้วย ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของประธานาธิบดีไบเดนมีขึ้นหลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมชุดใหม่ของแม็กซาร์ บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ ที่แสดงให้เห็นภาพศพกลางถนนในเมืองบูชาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่กองทัพรัสเซียเข้าควบคุมพื้นที่ของเมืองดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย