รัสเซียรอ ‘แถลงการณ์สำคัญ’ จาก ‘ทรัมป์’

มอสโก 13 ก.ค. – นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำทำเนียนประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า ทำเนียบเครมลินของรัสเซียกำลังเฝ้ารอ “แถลงการณ์สำคัญ” ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศว่าจะแถลงเกี่ยวกับรัสเซียในวันจันทร์นี้ นายทรัมป์กล่าวกับโทรทัศน์ เอ็นบีซี นิวส์ เมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาจะออกแถลงการณ์สำคัญเกี่ยวกับรัสเซีย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเนื้อหาจะเกี่ยวกับอะไร ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ นายทรัมป์แสดงความไม่พอใจ ต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า นายทรัมป์กล่าวหาว่าปูติน “กำลังฆ่าคนจำนวนมาก” ในยูเครน การแสดงความไม่พอใจของนายทรัมป์เป็นสิ่งที่น่าจับตา เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการเจรจายุติสงครามได้ประสบปัญหา และความตึงเครียดก็เพิ่มขึ้น.-813.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีเหนือยืนยันหนุนรัสเซียในสงครามยูเครน

โซล 13 ก.ค. – นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้แจ้งต่อนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียว่า เกาหลีเหนือพร้อมที่จะ “สนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไข” ในทุกมาตรการที่รัสเซียใช้เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน สำนักข่าวกลาง หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า การประกาศดังกล่าวของนายคิมเกิดขึ้นระหว่างการหารือเชิงยุทธศาสตร์ระดับสูงระหว่างสองประเทศที่เมืองวอนซาน เมืองชายฝั่งตะวันออกของรัสเซีย โดยนายลาฟรอฟอยู่ระหว่างการเยือนเกาหลีเหนือเป็นเวลาสามวัน เคซีเอ็นเอรายงานว่า นายคิมบอกกับนายลาฟรอฟว่า มาตรการที่สองพันธมิตรดำเนินการเพื่อรับมือกับภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง จะมีส่วนอย่างมากในการสร้างสันติภาพและความมั่นคงทั่วโลก เคซีเอ็นเอระบุว่า นายคิมยังยืนยันว่า เกาหลีเหนือพร้อมที่จะสนับสนุนและส่งเสริมมาตรการทั้งหมดที่ผู้นำรัสเซียใช้อย่างไม่มีเงื่อนไข เพื่อจัดการกับสาเหตุหลักของวิกฤตยูเครน ก่อนหน้านี้ นายลาฟรอฟได้หารือกับ นางโช ซอน ฮุย รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือในเมืองวอนซานและทั้งสองได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันให้คำมั่นเรื่องการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกัน สื่อของรัสเซียรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า นายลาฟรอฟเรียกความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศว่าเป็น “ภราดรภาพในการต่อสู้ที่ไม่มีวันแพ้” ในการพบปะกับนายคิมและได้ขอบคุณสำหรับการส่งกำลังพลเกาหลีเหนือไปยังรัสเซีย ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือลึกซึ้งขึ้นอย่างมากในช่วงสองปีของสงครามในยูเครนที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยเกาหลีเหนือส่งทหารกว่า 10,000 นายและอาวุธไปสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีเหนือยังได้ให้คำมั่นว่าจะส่งวิศวกรทางทหารและช่างก่อสร้างประมาณ 6,000 คน ไปช่วยงานฟื้นฟูในภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซีย.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ว่าสหรัฐจะส่งอาวุธให้ยูเครนเพิ่มเติม

วอชิงตัน 8 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววันจันทร์ว่า สหรัฐจะส่งอาวุธให้ยูเครนเพิ่มเติม โดยเน้นอาวุธเพื่อการป้องกันตนเองเป็นหลัก เพื่อช่วยให้ยูเครนสามารถปกป้องตนเองจากการรุกคืบของรัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้น การตัดสินใจก่อนหน้านี้ของสหรัฐในการระงับการส่งอาวุธบางส่วนไปยังยูเครน ทำให้รัฐบาลเคียฟต้องออกมาเตือนว่าการกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการป้องกันตนเองจากการโจมตีทางอากาศและการรุกคืบภาคพื้นดินของรัสเซีย พร้อมทั้งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคเดโมแครต และสมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วนของสหรัฐ นายทรัมป์ กล่าวที่ทำเนียบขาววานนี้ว่า สหรัฐกำลังจะส่งอาวุธให้ยูเครนเพิ่มอีก ซึ่งสหรัฐจำเป็นต้องทำเช่นนั้น ยูเครนต้องสามารถปกป้องตนเองได้ เขากล่าวเสริมว่า ยูเครนถูกโจมตีอย่างหนักในตอนนี้ สหรัฐจะต้องจัดส่งอาวุธให้เพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธ เพื่อการป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า จะมีการส่งอาวุธเพิ่มเติมให้ยูเครน ตามคำสั่งของนายทรัมป์ เพื่อให้แน่ใจว่าชาวยูเครนสามารถปกป้องตนเองได้ ในขณะที่ความพยายามในการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนยังคงดำเนินอยู่ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายทรัมป์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่ายูเครนจะต้องการขีปนาวุธ “แพทริออต” (Patriot) เพื่อป้องกันตนเอง แต่เขาไม่ได้กล่าวถึงอย่างเจาะจงอีกในวันจันทร์ แถลงการณ์กระทรวงกลาโหมสหรัฐไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธที่จะส่งไปยังยูเครน.-813.-สำนักข่าวไทย

ชี้รัสเซียใช้สารเคมีโจมตียูเครนอย่างแพร่หลาย

กรุงเฮก, 4 ก.ค. – สำนักงานข่าวกรองของเนเธอร์แลนด์และเยอรมนีได้รวบรวมหลักฐานว่ารัสเซียมีการใช้ อาวุธเคมีต้องห้าม อย่างแพร่หลายในยูเครน รวมถึงการปล่อยสารที่ทำให้หายใจติดขัดลงมาจากโดรน เพื่อผลักดันทหารให้ออกจากสนามเพลาะแล้วยิงทิ้ง นายรูเบน เบรเคิลมานส์ รัฐมนตรีกลาโหมของเนเธอร์แลนด์ เรียกร้องให้มีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เขากล่าวว่า ข้อสรุปหลักคือ เนเธอร์แลนด์ยืนยันได้ว่ารัสเซียกำลังเพิ่มการใช้อาวุธเคมี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่เฝ้าจับตามานานหลายปีแล้ว การใช้อาวุธเคมีของรัสเซียในสงครามนี้กำลังเป็นเรื่องปกติ เป็นมาตรฐาน และแพร่หลายมากขึ้น บีเอ็นดี หน่วยข่าวกรองต่างประเทศของเยอรมนี ยืนยันผลการตรวจสอบ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า ได้รับหลักฐานร่วมกับหน่วยข่าวกรองของเนเธอร์แลนด์ นายปีเตอร์ รีซิงค์ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า ข้อสรุปดังกล่าวมาจากข่าวกรองอิสระของเนเธอร์แลนด์เอง ดังนั้นจึงเป็นการสังเกตการณ์ด้วยตนเองจากการสอบสวนของตนเองด้วย เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว สหรัฐเป็นประเทศแรกที่กล่าวหารัสเซียว่าใช้ คลอโรพิคริน (chloropicrin) ซึ่งเป็นสารประกอบทางเคมีที่เป็นพิษมากกว่าสารควบคุมเหตุการณ์จลาจล และถูกใช้ครั้งแรกโดยเยอรมนีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ยูเครนอ้างว่ามีเหตุการณ์ที่รัสเซียใช้อาวุธเคมีนับพันครั้ง ในขณะที่รัสเซียปฏิเสธการใช้อาวุธที่ผิดกฎหมาย และกล่าวหายูเครนว่าเป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมีต้องห้าม.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เผยไม่คืบหน้าหลังคุย ‘ปูติน’

วอชิงตัน 4 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยวานนี้ว่า การสนทนาทางโทรศัพท์กว่า 1 ชั่วโมง ระหว่างเขากับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่คืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน นายทรัมป์ กล่าวว่า เขาหารือกับนายปูติน ทั้งเรื่องอิหร่าน และยูเครน โดยเขาพยายามผลักดันให้ยุติสงครามยูเครนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่นายปูติน ย้ำว่า รัสเซียจะยังคงผลักดันเพื่อแก้ไขสาเหตุที่หยั่งรากลึกของความขัดแย้ง ทางด้านนายยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยนายปูติน กล่าวว่า นายปูตินและนายทรัมป์ ไม่ได้หารือเกี่ยวกับการระงับการส่งอาวุธบางส่วนของสหรัฐให้กับยูเครน เมื่อไม่นานมานี้ ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการโทรศัพท์ระหว่างผู้นำทั้งสอง เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า การโจมตีด้วยโดรนของรัสเซีย ดูเหมือนจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ในอาคารอพาร์ตเมนต์ในเขตชานเมืองทางเหนือของกรุงเคียฟ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทิศทางของความขัดแย้ง ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักทันทีหลังจากการสนทนา ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเดนมาร์กว่า เขาหวังว่าจะได้พูดคุยกับนายทรัมป์โดยเร็วที่สุดในวันศุกร์นี้ เกี่ยวกับการที่สหรัฐระงับการส่งอาวุธบางส่วนให้กับยูเครน ซึ่งถูกเปิดเผยครั้งแรกเมื่อต้นสัปดาห์นี้.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ปูติน’ ยืนยันสงครามในยูเครนไม่ได้ทำลายเศรษฐกิจรัสเซีย

มอสโก 21 มิ.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวในวันศุกร์ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่าสงครามในยูเครนกำลังทำลายเศรษฐกิจของรัสเซียอย่างรุนแรง โดยเขาอ้างถึง การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หนี้สินต่ำ และการกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจว่า เป็นสัญญาณของความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ ในระหว่างการประชุมเศรษฐกิจที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนายปูติน ได้ตอบคำกล่าวของผู้ดำเนินรายการประชุมที่ว่ามีรายงานที่น่าเชื่อถือชี้ว่าสงครามกำลังทำลายเศรษฐกิจรัสเซีย โดยนายปูตินได้อ้างคำพูดของ “มาร์ก ทเวน” นักเขียนชื่อดังที่กล่าวไว้ “ข่าวการตายของผมนั้นเกินจริงไปมาก” นายปูตินกล่าวว่า ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของรัสเซียที่ขยายตัวร้อยละ 43 นั้น ไม่เกี่ยวข้องกับภาคพลังงานหรือภาคกลาโหมแล้ว ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความพยายามของประเทศในการกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจให้พึ่งพิงภาคส่วนอื่น ๆ มากขึ้น ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนได้ประณามคำกล่าวของนายปูติน โดยระบุว่าสิ่งนี้คือหลักฐานที่แสดงถึง “การดูหมิ่น” ของรัสเซียต่อความพยายามสันติภาพของสหรัฐและกล่าวหาว่ารัสเซียยังคงมุ่งมั่นที่จะยึดครองดินแดนเพิ่มขึ้นและเข่นฆ่าชาวยูเครนมากขึ้น ปัจจุบัน รัสเซียควบคุมพื้นที่ประมาณ หนึ่งในห้าของยูเครน ซึ่งรวมถึงคาบสมุทรไครเมีย และพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาคอื่น ๆ ได้แก่ มากกว่าร้อยละ 99 ของภูมิภาคลูฮันสก์ กว่าร้อยละ 70ของภูมิภาคโดเนตสก์, ซาโปริชเชีย และเคอร์ซอน และพื้นที่บางส่วนของภูมิภาคคาร์คิฟ, ซูมี และดนีโปรเปตรอฟสก์.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ บอก ‘ปูติน’ จะตอบโต้การโจมตีของยูเครน

วอชิงตัน 5 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวว่ารัสเซียจะตอบโต้ยูเครน กรณีการส่งโดรนโจมตีฐานทัพอากาศในรัสเซีย จนทำให้เครื่องบินรบหลายลำของรัสเซียถูกทำลายเสียหาย นายทรัมป์เผยวานนี้ว่า เขาได้หารือทางโทรศัทพ์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงเกี่ยวกับกรณียูเครนส่งโดรนโจมตีรัสเซียเมื่อไม่กี่วันมานี้ และพัฒนาการที่เกี่ยวกับอิหร่าน ซึ่งระหว่างการสนทนากัน นายปูตินบอกกับเขาว่า รัสเซียจะตอบโตยูเครนกรณีส่งโดรนโจมตี นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ที่เป็นแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขาว่า การพูดคุยกับนายปูตินเป็นการสนทนาที่ดี แต่ไม่ใช่การสนทนาที่จะนำไปสู่สันติภาพทันที นายทรัมป์กล่าวว่า เขาได้บอกกับนายปูตินว่า อิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ ซึ่งในประเด็นนี้ เขาเชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นพ้องต้องกัน และนายปูตินแนะนำว่า เขาสามารถช่วยในการเจรจานิวเคลียร์กับอิหร่านได้ ด้าน ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยด้านนโยบายต่างประเทศทำเนียบเครมลิน แถลงวานนี้ว่า นายปูตินได้หารือเรื่องความขัดแย้งในยูเครน ระหว่างโทรศัพท์พูดคุยกับทรัมป์ ซึ่งการสนทนามุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์ที่ยูเครนโจมตีพลเรือนรัสเซีย และการเจรจาสันติภาพรอบสองระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะเดียวกัน ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ แสดงให้เห็นเครื่องบินหลายลำที่ถูกทำลายบนลานจอดเครื่องบินของฐานทัพอากาศรัสเซีย 2 แห่ง หลังจากถูกกองทัพยูเครนโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ยูเครนส่งโดรน 117 ลำ โจมตีเป้าหมายสนามบินของกองทัพในภูมิภาคมูร์มันสก์, […]

Ukraine's SBU says it hit Crimea bridge under water with explosives

ยูเครนอ้างใช้ระเบิด 1.1 ตันระเบิดสะพานรัสเซีย

เคียฟ 4 มิ.ย.- ยูเครนอ้างว่า ใช้ระเบิดขนาด 1,100 กิโลกรัม หรือ 1.1 ตัน โจมตีสะพานเชื่อมต่อคาบสมุทรไครเมียกับรัสเซียเมื่อวานนี้ เป็นการโจมตีสะพานแห่งนี้เป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน สำนักงานบริการความมั่นคงแห่งยูเครนหรือเอสบียู (SBU) ซึ่งเป็นสำนักงานข่าวกรองภายในหลักของรัฐบาลยูเครนเปิดเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า เจ้าหน้าที่เอสบียูได้วางระเบิดโจมตีเสาสะพานไครเมีย หรือที่เรียกว่าสะพานเคิร์ชส่วนที่อยู่ใต้น้ำเมื่อวานนี้ ทำให้เสาสะพานได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยใช้ระเบิดน้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม และวางแผนปฏิบัติการนานหลายเดือน เอสบียูระบุด้วยว่า จะเดินหน้าโจมตีต่อไปอีก หลังจากที่ได้โจมตีสะพานแห่งนี้มาแล้วในปี 2565 และปี 2566 ผู้นำหน่วยข่าวกรองยูเครนระบุว่า สะพานไครเมียถือเป็นเป้าหมายในการโจมตีที่ชอบธรรมเพราะเป็นเส้นทางขนส่งกำลังบำรุงของรัสเซียและยังเป็นสัญลักษณ์ของการการที่รัสเซียผนวกดินแดนแหลมไครเมีย สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นหลังการผนวกไครเมียเมื่อปี 2557 และเปิดใช้งานเมื่อปี 2561 ใช้งบประมาณก่อสร้างราว 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 120,600 ล้านบาท) ทางการรัสเซียที่ดูแลการจราจรบนสะพานไครเมียแจ้งระงับการจราจรระหว่างเวลา 04.00-07.00 น.วันอังคารตามเวลาท้องถิ่นโดยไม่ได้ให้เหตุผล จากนั้นแจ้งว่าได้เปิดการจราจรตามปกติอีกครั้ง.-816(814).-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : “ปฏิบัติการใยแมงมุม” ยูเครนโจมตีแบบลึกล้ำถึงไซบีเรีย

2 มิ.ย. – ในวันนี้แม้ว่าจะมีการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน เป็นรอบที่ 2 แต่ทั้งสองฝ่ายยังโจมตีกันอย่างหนัก โดยเฉพาะยูเครนที่ออกปฏิบัติการใยแมงมุม จะเป็นอย่างไรติดตามจากรายงาน 9 ทันโลก ของฝ่ายข่าวต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

Ukraine stages major drone attack on Russian aircrafts

ยูเครนเปิดข้อมูลปฏิบัติการโดรนโจมตีรัสเซีย

เคียฟ 2 มิ.ย.- ยูเครนเปิดเผยรายละเอียด “ปฏิบัติการใยแมงมุม” โจมตีรัสเซียระยะไกลด้วยโดรนทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียที่สนามบิน 4 แห่ง พร้อมกับอ้างว่า ทำให้รัสเซียสูญเสียมหาศาลหลายแสนล้านบาท เจ้าหน้าที่บริการความมั่นคงแห่งยูเครนหรือเอสบียู (SBU) ซึ่งเป็นสำนักงานข่าวกรองภายในหลักของรัฐบาลยูเครนเปิดเผยว่า ปฏิบัติการโจมตีจากระยะไกลเมื่อวันอาทิตย์สามารถทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียได้ 41 ลำ ที่สนามบิน 4 แห่งของฐานทัพรัสเซียในแคว้นอีร์คุตสค์ ภูมิภาคไซบีเรีย และแคว้นมูร์มันสค์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย โดยให้รถบรรทุกเดินทางไปซุ่มยังใกล้สนามบินเป้าหมาย ก่อนปฏิบัติการโจมตีเมื่อถึงเวลาเหมาะสมด้วยโดรนพิฆาต 117 ลำ ที่ซุกซ่อนไว้ในลังไม้มีหลังคาที่สามารถสั่งเปิดได้จากระยะไกล ปฏิบัติการนี้มีชื่อว่า “ปฏิบัติการใยแมงมุม” (Spider’s Web) และควบคุมตรวจสอบโดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์  เซเลนสกี ของยูเครน ผู้นำยูเครนเซเลนสกีแถลงชื่นชมปฏิบัติการโจมตีฐานทัพของรัสเซียว่า ยอดเยี่ยม และเป็นปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายทางการทหารเท่านั้น อีกทั้งได้สร้างความสูญเสียที่จับต้องได้ให้กับฝ่ายรัสเซีย เป็นผลจากการดำเนินการเองโดยอิสระของยูเครน โดยใช้เวลาซุ่มวางแผนนานกว่า 1 ปีครึ่ง และเป็นปฏิบัติการพิสัยไกลที่สุดของยูเครน รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า แคว้นอีร์คุตสค์อยู่ห่างจากแนวรบกว่า 4,300 กิโลเมตร   ด้านเอสบียูเปิดเผยผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า การโจมตีสนามบิน 4 แห่งของฐานทัพหลายแห่งในรัสเซีย สามารถทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซีย ได้ร้อยละ 34 […]

Train derailed after bridge collapses in Russia's Bryansk region

สะพาน 2 แห่งในรัสเซียด้านติดยูเครนถูกระเบิด

มอสโก 1 มิ.ย.- รัสเซียกำลังสอบสวนเหตุสะพาน 2 แห่งใน 2 แคว้นที่อยู่ติดกับยูเครนระเบิดพังเสียหาย มีคนเสียชีวิตแล้ว 7 คน และได้รับบาดเจ็บ 69 คน โดยระบุชัดเจนว่า เป็นการวางระเบิด เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.50 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เป็นสะพานทางหลวงเหนือรางรถไฟในแคว้นบรีอันสค์ระเบิดในขณะที่กำลังมีรถไฟโดยสารแล่นอยู่ข้างใต้ คลิปและภาพที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นผู้โดยสารพยายามปีนออกจากซากรถไฟที่ถูกซากสะพานทับเสียหาย รถไฟขบวนนี้กำลังนำผู้โดยสาร 388 คนมุ่งหน้าเข้ากรุงมอสโก เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 คน และได้รับบาดเจ็บ 69 คน สื่อทางการรัสเซียรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า คนขับรถไฟเสียชีวิตด้วย จากนั้นในอีก 4 ชั่วโมงต่อมาเกิดเหตุที่แคว้นคุสค์ สะพานทางหลวงระเบิดในขณะที่รถไฟขนส่งสินค้ากำลังแล่นข้ามสะพาน คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียซึ่งทำหน้าที่สอบสวนอาชญากรรมร้ายแรงระบุชัดเจนว่า ทั้ง 2 สะพานถูกระเบิด ขณะที่นักการเมืองรัสเซียพากันกล่าวโทษว่า เป็นฝีมือของหน่วยพิเศษยูเครนที่เจตนาก่อวินาศกรรมหวังทำลายการเจรจาสันติภาพ แคว้นของรัสเซียที่มีพรมแดนติดกับยูเครนตกเป็นเป้าโจมตีของยูเครนหลายครั้ง นับตั้งแต่รัสเซียยกทัพบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ยูเครนยังไม่แสดงท่าทีใด ๆ ต่อเหตุการณ์นี้ ซึ่งเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากสหรัฐต้องการให้รัสเซียและยูเครนเจรจาโดยตรงที่ทูร์เคียหรือตุรกี เพื่อหารือหนทางยุติสงครามที่สหรัฐอ้างว่าทำให้ผู้คนบาดเจ็บและล้มตายรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้าน 2 แสนคน.-814.-สำนักข่าวไทย

“ทรัมป์” ไม่พอใจ “ปูติน” ถล่มยูเครนครั้งใหญ่

มอร์ริสทาวน์ 26 พ.ค.- ผู้นำสหรัฐแสดงความไม่พอใจผู้นำรัสเซีย หลังจากรัสเซียโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดต่อยูเครน พร้อมกับหยิบยกความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มมาตรการลงโทษต่อรัสเซีย นายโดนัลด์  ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ท่าอากาศยานเมืองมอร์ริสทาวน์ รัฐนิวเจอร์ซีย์เมื่อวันอาทิตย์ขณะเตรียมตัวเดินทางกลับทำเนียบขาวว่า เขารู้สึกแปลกใจ และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียที่ยังเดินหน้าโจมตียูเครนและเข่นฆ่าผู้คน ทั้งที่สหรัฐกำลังพยายามหาทางให้หยุดยิงในยูเครน และเขาเพิ่งสนทนาทางโทรศัพท์กับปูตินเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เขารู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งในสิ่งที่นายปูตินกำลังทำอยู่ ต่อข้อถามว่าจะพิจารณาเรื่องเพิ่มมาตรการลงโทษรัสเซียหรือไม่ นายทรัมป์กล่าวว่า แน่นอน เนื่องจากนายปูตินฆ่าคนจำนวนมาก ต่อมาผู้นำสหรัฐได้โพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ของเขาว่า เขามีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับนายปูตินมาโดยตลอด แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นกับนายปูติน ทำให้นายปูตินเป็นบ้าไปแล้ว ขณะเดียวกันนายทรัมป์ยังได้วิจารณ์นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนด้วยว่า การพูดจาของนายเซเลนสกีไม่ได้ทำให้ประเทศชาติดีขึ้นเลย ทุกอย่างที่ออกจากปากของเซเลนสกีล้วนแต่ทำให้เกิดปัญหา เขาไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้ และเห็นว่าเซเลนสกีควรหยุดพูดได้แล้ว การแสดงความเห็นของทรัมป์มีขึ้นหลังจากรัสเซียระดมโจมตีทางอากาศต่อยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อกลางดึกวันเสาร์ มีทั้งการส่งโดรนโจมตี 298 ลำ และขีปนาวุธ 69 ลูก เป็นการโจมตีเป้าหมายทั้งในกรุงเคียฟและเมืองอื่น ๆ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คนและบาดเจ็บ 60 คน  สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินจำนวนมาก เป็นการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ติดต่อกันตั้งแต่วันศุกร์.-816(814).-สำนักข่าวไทย

1 2 3 163
...