ยูเครน

เคียฟ 10 พ.ค.- ผู้นำ 4 ชาติในยุโรปเดินทางถึงยูเครนพร้อมกันในวันนี้ เพื่อแสดงความเป็นเอกภาพ หนึ่งวันหลังจากรัสเซียต้อนรับผู้นำชาติพันธมิตรหลายชาติที่เดินทางไปยังกรุงมอสโก เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 80 ปีวันแห่งชัยชนะ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงของฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีฟรีดริค แมร์ซของเยอรมนี และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทุสค์ของโปแลนด์ เดินทางโดยรถไฟไปกรุงเคียฟของยูเครนร่วมกันเป็นครั้งแรก และเดินทางถึงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหารือกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์  เซเลนสกีของยูเครน เป็นการแสดงถึงความเป็นเอกภาพ หลังเมื่อวานนี้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้ให้การต้อนรับเหล่าผู้นำชาติพันธมิตร ร่วมชมขบวนพาเหรดพิธีสวนสนามฉลองวาระครบ 80ปี วันแห่งชัยชนะของสหภาพโซเวียตเหนือกองทัพนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้นำชาติยุโรปทั้ง 4 คนออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า ขอเรียกร้องเช่นเดียวกับสหรัฐ ให้รัสเซียเห็นพ้องเรื่องหยุดยิงอย่างเต็มที่และไร้เงื่อนไขเป็นเวลา 30 วัน เพื่อสร้างพื้นที่ให้แก่การเจรจาเรื่องสันติภาพที่เป็นธรรมและยั่งยืน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่กลับมาคืนดีกับยูเครนหลังจากปะทะคารมกันที่ทำเนียบขาว และเพิ่งลงนามข้อตกลงแร่ธาตุกับยูเครนเมื่อวันที่ 30 เมษายน ได้ขู่จะเพิ่มการใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียที่ยังเตะถ่วงเรื่องหยุดยิง แต่ก็พร้อมจะถอนตัวจากการสร้างสันติภาพหากไม่มีความคืบหน้า ล่าสุดเขาเรียกร้องเมื่อวันพฤหัสบดีเรื่องการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน ผู้นำยูเครนกล่าวว่า พร้อมจะหยุดยิงทันที ขณะที่รัสเซียเปิดเผยว่า สนับสนุนเรื่องนี้แต่ต้องมีการหารือในรายละเอียดในประเด็นที่เห็นแตกต่างกัน.-814.-สำนักข่าวไทย

มอสโก 10 พ.ค.- รัสเซียเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพเกาหลีเหนือที่มีส่วนร่วมในการสู้รบของรัสเซียในยูเครน และมาร่วมในขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะเมื่อวานนี้ ดมิทรี เปสคอฟ  โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียตอบข้อถามสื่อเมื่อวานนี้ว่า ประธานาธิบดีได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นผู้บังคับการที่อำนวยความสะดวกให้แก่ทหารเกาหลีเหนือในการเข้าร่วมปฏิบัติการปลดแอกภูมิภาคคุสค์ ทางตะวันตกของรัสเซีย ผู้บังคับการเหล่านี้ได้เดินทางมาร่วมขบวนพาเหรดพิธีสวนสนามที่กรุงมอสโก เนื่องในวาระครบ 80ปี ของวันแห่งชัยชนะเหนือกองทัพนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้นำรัสเซียได้จับมือและกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเองกับนายทหารระดับสูงของเกาหลีเหนือหลายนายในพิธีที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ และมีผู้นำโลกหลายคนเดินทางไปเข้าร่วมด้วย รวมทั้งประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน  โฆษกรัสเซียยังได้กล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกียและประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูชิชของเซอร์เบีย ที่เดินทางมาร่วมพิธีฉลองวันแห่งชัยชนะของรัสเซีย แม้ถูกกดดันจากสหภาพยุโรปหรืออียู ด้านสำนักข่าวกลางเกาหลีเหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหลือและบุตรสาวได้ไปร่วมพิธีฉลองวันแห่งชัยชนะของรัสเซียที่สถานทูตรัสเซียในกรุงเปียงยาง ทั้งที่ปกติแทบไม่เคยเดินทางไป นายคิมกล่าวว่า เกาหลีเหนือจะเสริมสร้างและพัฒนาธรรมเนียมที่มีมายาวนานเรื่องความสัมพันธ์ของเกาหลีเหนือกับรัสเซีย พื้นฐานอุดมการณ์ที่สูงส่ง และความเป็นพันธมิตรที่ไม่มีวันถูกทำลาย.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศในวันนี้ว่า การหยุดยิงเป็นเวลาสามวันในสงครามกับยูเครนมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อเที่ยงคืน ก่อนหน้าวันครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะในสงครามของผู้รักชาติของสหภาพโซเวียต

กองทัพรัสเซียส่งโดรนเข้าไปโจมตีหลายจุดในยูเครน หลังยูเครนส่งโดรนจำนวนมากเข้าไปโจมตีหลายเมืองในรัสเซีย

ยูเครนส่งโดรนโจมตีรัสเซียต่อเนื่องเป็นคืนที่สอง ขณะที่รัสเซียกำลังจะมีงานสวนสนามประจำปีในอีก 3 วันข้างหน้า ซึ่งจะมีผู้นำจากหลายประเทศมาร่วมงานด้วย

สหรัฐและยูเครน ทำข้อตกลงสินแร่และตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากการทำสงครามกับรัสเซีย

สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้เปิดเผยโดยอ้างรายงานของหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ที่ระบุว่า ทหารเกาหลีเหนือประมาณ 600 ราย ถูกสังหารในระหว่างการรบร่วมกับรัสเซียในการต่อสู้กับยูเครน

โซล 28 เม.ย.- เกาหลีใต้ประณามเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง หลังจากเกาหลีเหนือยอมรับต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกว่าส่งทหารไปรัสเซียเพื่อช่วยรบในยูเครน กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า การที่เกาหลีเหนือยอมรับต่อสาธารณะว่าส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบในยูเครนเท่ากับว่าเป็นการยอมรับว่ากระทำผิดจริง เพราะการกระทำของเกาหลีเหนือเป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติและข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ   ขณะที่กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้แถลงประณามว่า การส่งเยาวชนไปร่วมรบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อค้ำจุนรัฐบาลเกาหลีเหนือนั้น เป็นการการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและจริยธรรม  พร้อมทั้งเรียกร้องให้เกาหลีเหนือถอนทหารออกจากสงครามยูเครนโดยทันที ไม่เช่นนั้นเกาหลีใต้จะร่วมมือกับประชาคมโลกตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างแข็งกร้าว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปียงยาง 28 เม.ย.- เกาหลีเหนือยอมรับเป็นครั้งแรกว่า ได้ส่งทหารไปรัสเซียเพื่อร่วมรบในสงครามยูเครน และกล่าวยกย่องทหารเหล่านี้ว่าเป็นวีรบุรุษ สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานในวันนี้ยืนยันเป็นครั้งแรกว่า เกาหลีเหนือได้ส่งทหารไปร่วมรบในสงครามยูเครนจริงตามคำสั่งของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุด และทหารเหล่านี้มีส่วนช่วยรัสเซียในการยึดคืนดินแดนของรัสเซียที่เคยตกอยู่ในการยึดครองของยูเครน  คณะกรรมาธิการทหารกลางของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือระบุว่า ชัยชนะในการปลดปล่อยแคว้นคุสค์ของรัสเซียแสดงให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ระดับสูงสุดของความสัมพันธ์ทางทหารอันแข็งแกร่งระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย คณะกรรมาธิการดังกล่าวเปิดเผยด้วยว่า ภายใต้คำสั่งของนายคิมทหารเกาหลีเหนือจะต้องต่อสู้ในสงครามยูเครนด้วยความมุ่งมั่นเหมือนกับต่อสู้เพื่อประเทศของตนเอง โดยนายคิมกล่าวยกย่องว่าผู้ที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมล้วนเป็นวีรบุรุษและเป็นตัวแทนแห่งเกียรติยศของประเทศ  และเกาหลีเหนือถือว่าเป็นเกียรติที่ได้เป็นพันธมิตรกับประเทศที่มีอำนาจอย่างรัสเซีย การยืนยันของทางการเกาหลีเหนือในวันนี้มีขึ้นหลังจากรัสเซียได้ยืนยันเป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ว่า มีทหารจากเกาหลีเหนือมาร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารรัสเซียอยู่ในแคว้นคุสค์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศต่างไม่เคยยอมรับหรือปฏิเสธเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด ด้านยูเครนเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือส่งทหารร่วมรบทั้งสิ้นราว 14,000 คน ในจำนวนนี้มี 3,000 คนที่ถูกส่งไปเสริมเพื่อทดแทนกำลังพลที่เสียชีวิตจากการสู้รบ ยูเครนระบุว่า จากการที่ทหารเกาหลีเหนือขาดประสบการณ์ในการทำสงครามด้วยโครนและการใช้ยานยนต์หุ้มเกราะจึงทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมาก  แต่ทหารเหล่านี้ก็สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

นายทหารระดับสูงของรัสเซียยืนยันเป็นครั้งแรกว่า ทหารเกาหลีเหนือเข้าร่วมรบช่วยรัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน

มอสโก 26 เม.ย.- เกิดเหตุระเบิดซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์หรือคาร์บอมบ์ ที่ด้านนอกอาคารชุดพักอาศัยแห่งหนึ่ง ใกล้กับกรุงมอสโกของรัสเซีย เป็นเหตุให้นายทหารระดับสูงนายหนึ่งถูกระเบิดสังหารขณะเดินผ่าน นับเป็นนายทหารรัสเซียรายล่าสุดที่ถูกลอบสังหารตั้งแต่เกิดสงครามยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานสอบสวนหลักของรัฐบาลกลางแถลงว่า เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่เมืองบาลาชิคาในแคว้นมอสโก โดยอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงมอสโก ผู้เสียชีวิต คือ พล.ท.ยาโรสลาฟ มอสกาลิค รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการหลักแห่งคณะเสนาธิการกองทัพรัสเซีย ข้อมูลที่มีอยู่ระบุว่า ระเบิดเกิดขึ้นจากการจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง แต่ไม่ได้ระบุว่าอาจจะเป็นฝีมือของฝ่ายใด บาซา (Baza) สื่อรัสเซียที่มีแหล่งข่าวในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายรายงานว่า ระเบิดซุกซ่อนอยู่ในรถที่จอดอยู่ และถูกจุดชนวนในระยะไกล ในช่วงที่นายทหารนายนี้ซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกนั้นเดินผ่าน ด้านเว็บไซต์หนังสือพิมพ์อิซเวสเทียเผยแพร่คลิปวิดีโอบุคคลหนึ่งกำลังเดินใกล้รถที่จอดอยู่เป็นแนว บริเวณด้านนอกอพาร์ตเมนต์ จากนั้นเกิดระเบิดที่ทำให้ชิ้นส่วนของรถยนต์คันหนึ่งลอยสูงขึ้นไปในอากาศ โดยรายงานว่า มีคนเสียชีวิต 2 คน เอกสารของกระทรวงกลาโหมและรายงานข่าวในรัสเซียระบุว่า พล.ท.มอสกาลิค วัย 58 ปี เคยเข้าร่วมการเจรจาระดับสูงหลายครั้ง รวมถึงการเจรจาในเดือนตุลาคม 2558 กับเยอรมนี  ฝรั่งเศส และยูเครนเรื่องข้อตกลงมินสก์ที่ร่างขึ้นหวังยุติสงครามปี 2557 ระหว่างยูเครนกับกลุ่มแยกดินแดนในยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซีย ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม 2567 พล.ท.อีกอร์ คีรีลลอฟ หัวหน้ากำลังพลด้านการป้องกันทางเคมี ชีวภาพ และนิวเคลียร์ของกองทัพรัสเซียถูกหน่วยข่าวกรองภายในของรัฐบาลยูเครนลอบสังหารด้วยระเบิดที่ซุกซ่อนอยู่ในรถสกูตเตอร์ไฟฟ้า […]