ญี่ปุ่นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงินกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์
คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงินกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์
โตเกียว 6 ธ.ค.- ผลสำรวจที่เผยแพร่วันนี้พบว่า รัฐบาลนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะของญี่ปุ่นมีคะแนนนิยมเหลือร้อยละ 50.3 ลดลงอย่างมากจากร้อยละ 63 ในการสำรวจเดือนก่อน ผลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดนิวส์พบว่า นอกจากคะแนนนิยมลดลงมากแล้ว รัฐบาลซูงะมีคะแนนไม่นิยมเพิ่มขึ้นมากเช่นกันเป็นร้อยละ 32.8 จากร้อยละ 19.2 ในการสำรวจเดือนก่อน ผู้ตอบร้อยละ 48.1 มองว่า รัฐบาลควรระงับโครงการ Go To Travel อุดหนุนการท่องเที่ยวในประเทศ เพราะอาจทำให้การแพร่เชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รุนแรงยิ่งขึ้น ผู้ตอบกว่าร้อยละ 60 ขอให้รัฐบาลทบทวนแผนการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูร้อนโตเกียว 2020 ที่เลื่อนจากปีก่อนมาเป็นกลางปีหน้า ในจำนวนนี้ร้อยละ 32.2 เสนอให้เลื่อนการจัดออกไปอีกครั้ง และร้อยละ 29 เห็นว่าควรยกเลิกไปเลย ผลสำรวจพบด้วยว่า ผู้ตอบร้อยละ 77.4 ไม่พอใจเรื่องอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะถูกกล่าวหาว่า คนสนิทของเขานำเงินกองทุนทางการเมืองมาจัดงานเลี้ยงมื้อค่ำหรูให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งของนายอาเบะอย่างผิดกฎหมายในช่วงที่นายอาเบะดำรงตำแหน่ง เป็นข้อกล่าวหาที่พัวพันไปถึงนายกรัฐมนตรีซูงะด้วย เพราะเป็นหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีให้อาเบะตั้งแต่ปี 2555 จนกระทั่งอาเบะลาออกจากตำแหน่งเพราะปัญหาสุขภาพในเดือนกันยายนปีนี้.-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 6 ธ.ค.- สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องฟื้นนโยบายจำกัดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนโตเกียว 2020 ที่จะจัดขึ้นหลังจากนั้น หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงานโดยไม่อ้างแหล่งข่าวในวันนี้ว่า รัฐบาลนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ มีแนวโน้มจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเอเชียเดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มเล็ก ๆ จากต้นทางที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีแล้ว เช่น จีน ไต้หวัน นักท่องเที่ยวจะต้องมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นลบ แจ้งรายละเอียดตารางการเดินทางก่อนเข้าญี่ปุ่น และเมื่อเข้ามาแล้วต้องมีคนนำทางที่ได้รับการว่าจ้าง ต้องแยกโรงแรมที่พักและจุดหมายท่องเที่ยวจากแขกทั่วไปในญี่ปุ่น ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันติดตามตัวและรายงานสุขภาพทุกวัน รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดโครงการอุดหนุนการท่องเที่ยวในประเทศเมื่อเดือนกรกฎาคมหวังฟื้นการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักจากโรคโควิด-19 แต่ต้องระงับไปบางส่วน หลังจากยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในกรุงโตเกียวและนครโอซากา รวมทั้งผู้ป่วยอาการหนักทั่วประเทศก็เพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังหาทางควบคุมการระบาดระลอกสาม ปัจจุบันญี่ปุ่นอนุมัติให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาทำธุรกิจเท่านั้น และต้องกักตัว 14 วัน ส่วนเป็นการเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนโตเกียว 2020 ถูกเลื่อนจากกรกฎาคมปีก่อนเป็นวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคมปีหน้า.-สำนักข่าวไทย
อัยการกรุงโตเกียว เลือกฟ้องคดีแบบรวบรัดกับเจ้าหน้าที่ 2 คน ในสำนักงานของอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นในข้อหาละเมิดกฎหมายการระดมทุนทางการเมือง
รายงานระบุว่า ญี่ปุ่นตั้งเป้าห้ามขายรถยนต์ใช้น้ำมันรุ่นใหม่ ภายในกลางคริสตทศวรรษหลังปี 2030
โตเกียว 2 ธ.ค. – ญี่ปุ่นผ่านร่างกฎหมายฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้ประชาชนทุกคนฟรี วุฒิสภา หรือสภาสูงของญี่ปุ่นผ่านร่างกฎหมายที่กำหนดให้รัฐบาลออกค่าใช้จ่ายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชน 126 ล้านคน ขณะที่ทางการญี่ปุ่นได้ทำข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐจำนวน 60 ล้านโดส วัคซีน 25 ล้านโดสของโมเดอร์นา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ และวัคซีน 120 ล้านโดสของแอสตราเซนเนกา บริษัทผู้ผลิตวัคซีนสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวมีขึ้น 2 สัปดาห์หลังจากที่นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นชี้ว่า ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะเตือนภัยการระบาดของโรคโควิด-19 ขั้นสูงสุด และคณะแพทย์ญี่ปุ่นเตือนว่า โรงพยาบาลอาจรองรับผู้ป่วยติดเชื้อไม่ไหว ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นพบการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนเล็กเท่านั้น โดยมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 150,000 คน และผู้เสียชีวิต 2,100 คน อีกทั้งยังไม่เคยประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นกลับเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 3 ที่ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันพุ่งสูงขึ้นทั่วประเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย
หนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า ญี่ปุ่นตั้งเป้าจะให้ชาวต่างชาติจำนวนมากเดินทางมาร่วมมหกรรมโอลิมปิกโตเกียว 2020 ในปีหน้า โดยไม่บังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หรือกักตัวดูอาการ
ครม.เดินหน้าความร่วมมือแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่นสนับสนุน เกือบ 2 พันลบ. เพื่อความร่วมมือทางการแพทย์ พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในชนบท
โตเกียว 1 ธ.ค. – ทางการกรุงโตเกียวนำสัญลักษณ์กีฬาโอลิมปิกขนาดยักษ์กลับมาติดตั้งที่บริเวณอ่าวในเมืองโอไดบะอีกครั้ง โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นความสนใจของการจัดแข่งขันโอลิมปิกโตเกียว 2020 ผลการทดลองวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นในการจัดโอลิมปิกโตเกียวตามกำหนดใหม่ในวันที่ 23 กรกฎาคมปีหน้า ซึ่งถูกเลื่อนจากกำหนดเดิม เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ก่อนหน้านี้ สัญลักษณ์กีฬาโอลิมปิกรูปวงกลม 5 ห่วงคล้องกัน 2 ชั้นที่มีน้ำหนักราว 69 ตันเคยได้รับการติดตั้งบริเวณริมอ่าวในเมืองโอไดบะของญี่ปุ่นมาแล้วในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่กรุงโตเกียวเริ่มนับถอยหลังสู่การเปิดงานโอลิมปิกโตเกียว 2020 แต่สัญลักษณ์ดังกล่าวถูกนำไปซ่อมแซมในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ดี ทางการกรุงโตเกียวได้นำสัญลักษณ์กีฬาโอลิมปิกที่ทาสีใหม่มาติดตั้งไว้ที่เดิมแล้ว และเตรียมติดไฟเพื่อให้สัญลักษณ์สว่างไสวยามค่ำคืน ทั้งนี้ ทางการจะติดตั้งสัญลักษณ์ดังกล่าวไปจนกระทั่งสิ้นสุดการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียว และนำสัญลักษณ์พาราลิมปิกมาติดตั้งแทนในช่วงกลางเดือนสิงหาคมของปีหน้า เจ้าหน้าที่ของทางการกรุงโตเกียวกล่าวว่า ทางการต้องทำงานอย่างหนักมาก เพื่อให้สามารถจัดการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และว่า การติดตั้งสัญลักษณ์โอลิมปิกดังกล่าวจะช่วยให้ชาวญี่ปุ่นรู้สึกตื่นเต้นกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโตเกียวที่ใกล้เข้ามาแล้ว อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความคิดเห็นของชาวญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคมระบุว่า มีเพียง 1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ต้องการให้มีการจัดการแข่งขันโอลิมปิกในปีหน้า ขณะที่ส่วนใหญ่สนับสนุนให้เลื่อนจัดการแข่งขันหรือยกเลิก. -สำนักข่าวไทย
ญี่ปุ่นอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ตกค้างอยู่ในประเทศ เนื่องจากโรคโควิด-19 สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้
โตเกียว 30 พ.ย.- สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า เจ้าชายอากิชิโนะ มกุฎราชกุมารญี่ปุ่นทรง “เห็นชอบ” งานเสกสมรสของเจ้าหญิงมาโกะ พระธิดาองค์โตแล้ว หลังเลื่อนมาจากปี 2561 สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า มกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 55 พรรษา ตรัสว่า เห็นชอบงานเสกสมรสของพระธิดา พระชันษา 29 ปี กับนายเค โคมูโระ เพื่อนมหาวิทยาลัยวัยเดียวกัน และเพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและร่วมยินดีกับงานครั้งนี้ ทรงเห็นว่าจำเป็นต้องจัดการเรื่องการเงินก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องที่เจ้าหญิงจะถูกถอดฐานันดรศักดิ์เพราะแต่งงานกับสามัญชน พระองค์ตรัสว่า รัฐธรรมนูญระบุว่าการแต่งงานควรเป็นความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย พระองค์ในฐานะบิดาจึงควรเคารพความปรารถนานี้ เดิมงานเสกสมรสจะมีขึ้นในปี 2561 หลังจากเจ้าหญิงและเพื่อนชายประกาศข่าวการหมั้นได้หนึ่งปี แต่งานถูกเลื่อนออกไป มีข่าวลือว่ามารดาของฝ่ายชายมีปัญหาการเงิน สำนักพระราชวังญี่ปุ่นปฏิเสธในเวลาต่อมาว่า ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้งานเลื่อน เกียวโดรายงานว่า ขณะนี้นายโคมูโรกำลังศึกษาต่อด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยฟอร์แดมในนิวยอร์ก เขาปฏิเสธเมื่อปีก่อนว่าครอบครัวไม่มีปัญหาทางการเงิน เพราะจัดการเรื่องมารดายืมเงินจากอดีตคู่หมั้นของเขาเรียบร้อยแล้ว แต่อดีตคู่หมั้นบอกสื่อว่า เรื่องยังไม่เรียบร้อย ยังไม่ชัดเจนว่าเจ้าหญิงมาโกะและเพื่อนชายจะจัดพิธีเสกสมรสเมื่อใด.-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 30 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นมีคะแนนความนิยมลดลงร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 58 เนื่องจากชาวญี่ปุ่นไม่พอใจมาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของรัฐบาล หนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นรายงานว่า นายซูงะมีคะแนนความนิยมลดลงเพราะลังเลที่จะระงับโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศในขณะที่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อโอกาสในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยหน้าเมื่อสิ้นสุดวาระในฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า ผลสำรวจกับผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 993 คน มีร้อยละ 48 ที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากการสำรวจเดือนตุลาคม และมีร้อยละ 44 ที่เห็นว่ารัฐบาลรับมือกับการระบาดได้ดีแล้ว ขณะที่ร้อยละ 61 เห็นด้วยที่รัฐบาลตัดสินใจระงับโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศบางส่วน และร้อยละ 25 เห็นว่า รัฐบาลต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดมากกว่านี้ แม้ญี่ปุ่นจะเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 ในระดับที่ไม่รุนแรงเท่าหลายประเทศในทวีปยุโรปและสหรัฐ แต่ก็พบตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นจนทำสถิติผู้ป่วยรายวันสูงสุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค (NHK) ของญี่ปุ่นรายงานว่า ญี่ปุ่นทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงสุด 2,684 คนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานับตั้งแต่พบการระบาดในประเทศ และมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นกว่า 2,100 คน. -สำนักข่าวไทย