
แจงดราม่า ใช้จังหวัดชายแดนใต้เป็นเขตปกครองพิเศษ
คณะทำงานแถลงดรามา กรณีจะใช้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองพิเศษ เหมือนซินเจียงอุยกูร์
คณะทำงานแถลงดรามา กรณีจะใช้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองพิเศษ เหมือนซินเจียงอุยกูร์
“ภูมิธรรม-ทวี” เดินทางถึงจีนแล้ว ภารกิจแน่นเอี๊ยดตลอดวัน เดินสายพบ “อุยกูร์” ถกผู้นำท้องถิ่น
“ภูมิธรรม-ทวี” ออกเดินทางไปจีน นำคณะสื่อดูความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ ขอพบชุดแรกปี 58 ด้วย
อุรุมชี 2 มี.ค.- สื่อทางการจีนรายงานข่าวทางการเดินหน้าโครงการควบคุมพื้นที่ไม่ให้เสื่อมโทรมและแปรสภาพกลายเป็นทะเลทรายในเขตปกครองตนเอง 2 แห่ง คือ มองโกเลียใน ที่อยู่ทางตอนเหนือ และซินเจียงอุยกูร์ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซีซีทีวีพลัส (CCTV+) ซึ่งเป็นสำนักข่าวคลิปวิดีโอในสังกัดของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนหรือซีซีทีวี (CCTV) รายงานว่า โครงการควบคุมพื้นที่ไม่ให้แปรสภาพเป็นทะเลทรายในมองโกเลียในเปิดตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อสกัดกั้นการขยายตัวของทะเลทรายปาตันจี๋หลิน (Badain Jaran Desert) ทะเลทรายเถิงเก๋อหลี่ (Tengger Desert) และทะเลทรายอูหลานปู้เหอ (Ulan Buh Desert) ตั้งเป้าจะสร้างแนวป้องกันทรายส่วนสุดท้ายระยะทาง 430 กิโลเมตรให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หลังจากสร้างไปแล้ว 1,425 กิโลเมตร เป็นแนวป้องกันที่ประกอบด้วยการใช้แผงโซลาร์เซลล์ควบคุมทราย การปลูกต้นไม้ และการฟื้นฟูพืชพรรณ ส่วนที่ซินเจียงอุยกูร์ ทางการเดินหน้าปลูกต้นกุหลาบเพื่อหยุดยั้งการขยายตัวของทะเลทรายทากลิมากัน (Taklimakan Desert) กุหลาบมีระบบรากที่แข็งแรง แผ่ขยายและเติบโตได้เร็ว สามารถเติบโตเป็นกำแพงดอกไม้สูง 2-3 เมตรได้ภายในเวลา 2-3 ปี ช่วยลดอันตรายจากพายุทรายและลดการทำให้ดินเสื่อมโทรมจนแปรสภาพเป็นทะเลทราย.-814.-สำนักข่าวไทย
7 ธ.ค. – รายการ “มองจีนหลากมุม” พาคุณผู้ชมไปรู้จักซินเจียงอุยกูร์ ในมิติที่แตกต่างไปจากเรื่องที่ได้ยินได้ฟัง เชิญติดตามจาก รศ.ดร.หลี่ เหรินเหลียง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร NIDA ดำเนินรายการโดย วัชรินทร์ เศรษฐกุดั่น . -811 สำนักข่าวไทย .ร่วมผลิตรายการโดย : สำนักข่าวไทย MCOT HD และ CMG
บริษัทจีนสร้างฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ทะเลกลางทะเลทรายในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ มีอัตราการรอดชีวิตสูงเกือบ 100%
ฉงชิ่ง, 18 มิ.ย. (ซินหัว) — หากไม่ใช่เพราะสายลมได้พัดพาเอาเม็ดทรายนับไม่ถ้วนถาโถมใส่ตัวเขา หวังจื่อเสียงคงแทบลืมไปเลยว่าตนเองกำลังเพาะปลูกอยู่ในทะเลทรายทากลามากัน ที่มีขนาดกว้างใหญ่ที่สุดในแผ่นดินจีน ทั้งยังเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่แห้งแล้งที่สุดของโลก นวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า “เปลี่ยนทรายกลายเป็นดิน” ได้พลิกเปลี่ยนทรายในทะเลทรายให้กลายเป็นที่ดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกได้ด้วยราคาต้นทุนที่จับต้องได้ สภาพแวดล้อมที่โหดร้ายในทะเลทรายทากลามากัน (Taklimakan)ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน ไม่เคยเอื้อต่อการเพาะปลูก แต่ไหนแต่ไรมาชาวบ้านจึงต้องพึ่งพาเสบียงอาหารจากมณฑลอื่น ทว่าหวังจื่อเสียงและเพื่อนร่วมงานจากมหาวิทยาลัยฉงชิ่งเจียวทงในนครฉงชิ่ง ได้แก้โจทย์นี้ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า “เปลี่ยนทรายกลายเป็นดิน” (desert soilization) และพวกเขาก็ได้พลิกเปลี่ยนทรายในทะเลทรายให้กลายเป็นที่ดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกได้ด้วยราคาต้นทุนที่จับต้องได้ หวังและคณะทำการจดสิทธิบัตรกระบวนการข้างต้น อันเป็นการผสมแป้งที่ทำจากเซลลูโลสพืชเข้ากับทรายแล้วนำไปใช้กับพื้นผิวทะเลทราย ซึ่งทำให้พื้นผิวทรายมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำ อากาศ และปุ๋ยได้เหมือนกับดิน แป้งพิเศษนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นในปี 2013 โดยศาสตราจารย์อี้จื้อเจียนและคณะหลังทำการวิจัยอยู่นานหลายปี โดยศาสตราจารย์อี้เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านกลศาสตร์ของอนุภาค ของมหาวิทยาลัยฉงชิ่งเจียวทง เมื่อปี 2016 ทะเลทรายอูหลานปู้เหอในมองโกเลียใน ได้ทำการฟื้นฟูผืนทรายที่มีขนาดราวสองเท่าของสนามฟุตบอลด้วยวิธีการใหม่นี้ และพลิกผืนทรายสู่ผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ได้สำเร็จ ทำให้ข้าว ข้าวโพด มะเขือเทศ แตงโม และดอกทานตะวัน ต่างงอกงามขึ้นเหนือผืนทราย นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าการเพาะปลูกในผืนทรายแปลงทดลองนั้นใช้น้ำน้อยกว่าแต่กลับให้ผลผลิตสูงกว่าแปลงที่ไม่ได้ใช้เทคนิคดังกล่าว ต่อมาจึงมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปทดสอบในหลายๆ พื้นที่ ผ่านการทดลองเพาะปลูกขนานใหญ่ โดยค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูผืนทรายด้วยเทคนิคนี้อยู่ระหว่าง 29,850-44,776 หยวน (ราว 1.44 – 2.17 แสนบาท) […]
วอชิงตัน 1 ก.ย. – นางมิเชลล์ บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุในรายงานเมื่อวันพุธว่า การกักขังชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมอื่น ๆ อย่างไร้เหตุผลและเลือกปฏิบัติในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีนอาจเข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ นางบาเชเลต์เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจเยือนจีนเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนเมื่อเดือนพฤษภาคม ก่อนครบวาระ 4 ปีที่ดำรงตำแหน่งข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเพียงไม่นาน รายงานดังกล่าวระบุว่า เขตซินเจียงมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงในรูปแบบของการนำยุทธศาสตร์ต่อต้านการก่อการร้ายและแนวคิดสุดโต่งของรัฐบาลจีนมาใช้ การกักขังชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมอื่น ๆ อย่างไร้เหตุผลและเลือกปฏิบัติในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีนอาจเข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยนางบาเชเลต์ ซึ่งมักตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความไม่เด็ดขาดต่อจีน ได้แนะนำให้รัฐบาลจีนปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังทั้งหมดที่อยู่ในศูนย์ฝึกอบรม เรือนจำ หรือค่ายกักกันในทันที รายงานดังกล่าวระบุว่า มีข้อบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ์ผ่านข้อบังคับนโยบายครอบครัวที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2560 แต่ยากที่จะสรุปผลเกี่ยวกับการบังคับใช้นโยบายเหล่านี้ที่เชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิเจริญพันธุ์ เนื่องจากขาดข้อมูลจากรัฐบาลจีน ก่อนหน้านี้ ผู้แทนถาวรจีนประจำสำนักงานยูเอ็นในนครนิวยอร์กของสหรัฐ เผยก่อนที่รายงานดังกล่าวจะได้รับการเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนได้แสดงท่าทีคัดค้านการเปิดเผยรายงานนี้หลายครั้งแล้ว และนางบาเชเลต์ก็ไม่ควรแทรกแซงกิจการภายในของจีน ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างจดหมายที่ได้รับการยืนยันจากนักการทูตหลายคนในเดือนสิงหาคมว่า จีนได้ขอให้นางบาเชเลต์ยกเลิกการเปิดเผยรายงานฉบับนี้ ด้านนางบาเชเลต์ยืนยันเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เธอได้รับจดหมายที่ลงนามโดย 40 ประเทศหรือดินแดนต่าง ๆ แต่สำนักงานของเธอไม่ได้สนใจต่อแรงกดดันดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย
สหรัฐห้ามนำเข้าสินค้าจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน อ้างปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ โดยเฉพาะการบังคับใช้แรงงาน
ปักกิ่ง 31 พ.ค. – จีนเรียกร้องให้ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ตรวจสอบเหตุกราดยิงที่ร้านชำในย่านบัฟฟาโลของรัฐนิวยอร์กและเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมในเมืองอูวัลเดของรัฐเทกซัส ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความพยายามในการเบี่ยงเบนข้อกล่าวหาเรื่้องที่จีนละเมิดสิทธิมนุษยชนของชนกลุ่มน้อยมุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกของจีน หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของทางการจีนตีพิมพ์บทบรรณาธิการในวันนี้ว่า ระบบของสหรัฐไม่สามารถทำให้เกิดความเท่าเทียม ขาดความเอาใจใส่ แรงกระตุ้น และความกล้าหาญในการแก้ปัญหาความรุนแรงในประเทศโดยสิ้นเชิง ทั้งยังระบุว่า ปัญหาภายในประเทศของสหรัฐทำให้สหรัฐแสดงอาการก้าวร้าวไปยังนอกประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ บทบรรณาธิการของโกลบอลไทมส์มีขึ้นหลังจากที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติควรตรวจสอบและรายงานเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ที่สหรัฐกำลังเผชิญอยู่บ้าง ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้เผยแพร่บทความชื่อ ‘ปัญหาเหยียดเชื้อชาติเป็นยาพิษที่ไหลเวียนอยู่ในการเมืองสหรัฐ’ (Racism a poison running through American body politic) ที่อ้างถึงเหตุมือปืนผิวขาวก่อเหตุกราดยิงชาวผิวดำเสียชีวิตที่ร้านชำในย่านบัฟฟาโล ซึ่งเป็นย่านคนผิวดำในรัฐนิวยอร์กเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ส่วนสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนและหนังสือพิมพ์ไชนา เดลี ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็เผยแพร่บทความในลักษณะเดียวกัน ด้านนางมิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้อธิบายอย่างละเอียดในงานแถลงสิ้นสุดการเดินทางเยือนจีนเกี่ยวกับคำถามเรื่องปัญหาเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงในสหรัฐ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าการกระทำใด ๆ ของรัฐบาลจีนเพื่อแก้ปัญหาการก่อการร้ายและกลุ่มที่มีแนวคิดสุดโต่งจะต้องไม่เข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่นายเอเดรียน เซนส์ นักวิชาการจากมูลนิธิรำลึกเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากลัทธิคอมมิวนิสต์ (Victims of Communism Memorial Foundation) เผยกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กของสหรัฐว่า […]
ปักกิ่ง 23 พ.ค. – นางมิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ จะเริ่มต้นภารกิจเยือนจีนในวันนี้เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นคนแรกที่เดินทางเยือนจีนในรอบเกือบ 20 ปี แหล่งข่าวไม่เผยนามด้านการทูตของจีนระบุว่า นางบาเชเลต์ ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีชิลี มีกำหนดเข้าร่วมประชุมแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์กับคณะทูตราว 70 คนในวันนี้ จากนั้น เธอจะเดินทางไปยังนครอุรุมชีและเมืองคัชการ์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ รวมถึงนครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ขณะที่สำนักงานของนางบาเชเลต์ระบุว่า นางบาเชเลต์จะพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนหลายคน องค์กรภาคสังคม ตัวแทนธุรกิจ และนักวิชาการ ทั้งนี้ การเดินทางเยือนจีนของนางบาเชเลต์มีขึ้นในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนถูกกล่าวหาว่า คุมขังชาวมุสลิมอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่น ๆ ไว้ที่ค่ายปรับทัศนคติในเขตซินเจียงมาเป็นเวลานานหลายปี จีนให้เหตุผลว่าเป็นการปราบปรามด้านความมั่นคง ขณะที่สหรัฐระบุว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นเรื่องโกหกครั้งใหญ่ ในขณะเดียวกัน นายเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเดินทางเยือนจีนของนางบาเชเลต์ว่า สหรัฐไม่ได้คาดหวังว่าจีนจะอนุญาตให้นางบาเชเลต์สามารถประเมินสภาพแวดล้อมด้านสิทธิมนุษยชนในเขตซินเจียงโดยสมบูรณ์และไร้การควบคุมจากรัฐบาลจีน. -สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 4 ม.ค. – เทสลา อิงค์ บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังของสหรัฐ ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในประเทศ หลังเปิดโชว์รูมรถยนต์แห่งใหม่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีนที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนและบังคับใช้แรงงานชนกลุ่มน้อยมุสลิมซินเจียงในภูมิภาคดังกล่าว บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เทสลา ซึ่งมีอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชื่อดังชาวอเมริกันเป็นเจ้าของ ได้เปิดตัวโชว์รูมรถยนต์แห่งใหม่ที่นครอุรุมชีของเขตซินเจียงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม การตัดสินใจดังกล่าวทำให้เทสลาตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดในสื่อโซเชียลมีเดียของชาติตะวันตกที่มองว่าเทสลาอ้าแขนรับจีน ในขณะที่ชาติตะวันตกกล่าวหาว่าจีนบังคับใช้แรงงานทาสและใช้แนวทางที่เข้าข่ายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในภูมิภาคดังกล่าว นายมาร์โก รูบิโอ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกฎหมายเมื่อเดือนธันวาคมที่กำหนดให้บริษัทในสหรัฐต้องพิสูจน์ว่าสินค้าที่นำเข้าจากเขตซินเจียงไม่ได้ผลิตขึ้นจากการบังคับใช้แรงงานโดยผิดกฎหมาย ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า บริษัทไร้สัญชาติกำลังช่วยพรรคคอมมิวนิสต์จีนปกปิดปัญหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการใช้แรงงานทาสในเขตซินเจียง ขณะที่นายสกอตต์ พอล ประธานกลุ่มพันธมิตรอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐ ระบุว่า บริษัทที่ดำเนินธุรกิจในเขตซินเจียงล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และมองว่าการเปิดโชว์รูมรถยนต์ของเทสลาเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งานเวย์ปั๋ว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังของจีนแบบเดียวกันกับทวิตเตอร์ ต่างแสดงความยินดีกันอย่างกว้างขวางที่เทสลาเปิดโชว์รูมรถยนต์ในเขตซินเจียง ชาวเน็ตจีนคนหนึ่งโพสต์ว่า ขอบคุณเทสลาที่เปิดสาขาใหม่ในเขตซินเจียง ขณะที่อีกคนระบุว่า เทสลาสนับสนุนการพัฒนาและการก่อสร้างในเขตซินเจียง ไม่เหมือนกับบางบริษัทที่ต่อต้านธุรกิจในซินเจียง. -สำนักข่าวไทย