บริษัทจีนทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ทะเลกลางทะเลทราย
บริษัทจีนสร้างฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ทะเลกลางทะเลทรายในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ มีอัตราการรอดชีวิตสูงเกือบ 100%
บริษัทจีนสร้างฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ทะเลกลางทะเลทรายในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ มีอัตราการรอดชีวิตสูงเกือบ 100%
ฉงชิ่ง, 18 มิ.ย. (ซินหัว) — หากไม่ใช่เพราะสายลมได้พัดพาเอาเม็ดทรายนับไม่ถ้วนถาโถมใส่ตัวเขา หวังจื่อเสียงคงแทบลืมไปเลยว่าตนเองกำลังเพาะปลูกอยู่ในทะเลทรายทากลามากัน ที่มีขนาดกว้างใหญ่ที่สุดในแผ่นดินจีน ทั้งยังเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่แห้งแล้งที่สุดของโลก นวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า “เปลี่ยนทรายกลายเป็นดิน” ได้พลิกเปลี่ยนทรายในทะเลทรายให้กลายเป็นที่ดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกได้ด้วยราคาต้นทุนที่จับต้องได้ สภาพแวดล้อมที่โหดร้ายในทะเลทรายทากลามากัน (Taklimakan)ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน ไม่เคยเอื้อต่อการเพาะปลูก แต่ไหนแต่ไรมาชาวบ้านจึงต้องพึ่งพาเสบียงอาหารจากมณฑลอื่น ทว่าหวังจื่อเสียงและเพื่อนร่วมงานจากมหาวิทยาลัยฉงชิ่งเจียวทงในนครฉงชิ่ง ได้แก้โจทย์นี้ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า “เปลี่ยนทรายกลายเป็นดิน” (desert soilization) และพวกเขาก็ได้พลิกเปลี่ยนทรายในทะเลทรายให้กลายเป็นที่ดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกได้ด้วยราคาต้นทุนที่จับต้องได้ หวังและคณะทำการจดสิทธิบัตรกระบวนการข้างต้น อันเป็นการผสมแป้งที่ทำจากเซลลูโลสพืชเข้ากับทรายแล้วนำไปใช้กับพื้นผิวทะเลทราย ซึ่งทำให้พื้นผิวทรายมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำ อากาศ และปุ๋ยได้เหมือนกับดิน แป้งพิเศษนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นในปี 2013 โดยศาสตราจารย์อี้จื้อเจียนและคณะหลังทำการวิจัยอยู่นานหลายปี โดยศาสตราจารย์อี้เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านกลศาสตร์ของอนุภาค ของมหาวิทยาลัยฉงชิ่งเจียวทง เมื่อปี 2016 ทะเลทรายอูหลานปู้เหอในมองโกเลียใน ได้ทำการฟื้นฟูผืนทรายที่มีขนาดราวสองเท่าของสนามฟุตบอลด้วยวิธีการใหม่นี้ และพลิกผืนทรายสู่ผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ได้สำเร็จ ทำให้ข้าว ข้าวโพด มะเขือเทศ แตงโม และดอกทานตะวัน ต่างงอกงามขึ้นเหนือผืนทราย นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าการเพาะปลูกในผืนทรายแปลงทดลองนั้นใช้น้ำน้อยกว่าแต่กลับให้ผลผลิตสูงกว่าแปลงที่ไม่ได้ใช้เทคนิคดังกล่าว ต่อมาจึงมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปทดสอบในหลายๆ พื้นที่ ผ่านการทดลองเพาะปลูกขนานใหญ่ โดยค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูผืนทรายด้วยเทคนิคนี้อยู่ระหว่าง 29,850-44,776 หยวน (ราว 1.44 – 2.17 แสนบาท) […]
วอชิงตัน 1 ก.ย. – นางมิเชลล์ บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุในรายงานเมื่อวันพุธว่า การกักขังชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมอื่น ๆ อย่างไร้เหตุผลและเลือกปฏิบัติในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีนอาจเข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ นางบาเชเลต์เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจเยือนจีนเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนเมื่อเดือนพฤษภาคม ก่อนครบวาระ 4 ปีที่ดำรงตำแหน่งข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเพียงไม่นาน รายงานดังกล่าวระบุว่า เขตซินเจียงมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงในรูปแบบของการนำยุทธศาสตร์ต่อต้านการก่อการร้ายและแนวคิดสุดโต่งของรัฐบาลจีนมาใช้ การกักขังชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมอื่น ๆ อย่างไร้เหตุผลและเลือกปฏิบัติในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีนอาจเข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยนางบาเชเลต์ ซึ่งมักตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความไม่เด็ดขาดต่อจีน ได้แนะนำให้รัฐบาลจีนปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังทั้งหมดที่อยู่ในศูนย์ฝึกอบรม เรือนจำ หรือค่ายกักกันในทันที รายงานดังกล่าวระบุว่า มีข้อบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ์ผ่านข้อบังคับนโยบายครอบครัวที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2560 แต่ยากที่จะสรุปผลเกี่ยวกับการบังคับใช้นโยบายเหล่านี้ที่เชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิเจริญพันธุ์ เนื่องจากขาดข้อมูลจากรัฐบาลจีน ก่อนหน้านี้ ผู้แทนถาวรจีนประจำสำนักงานยูเอ็นในนครนิวยอร์กของสหรัฐ เผยก่อนที่รายงานดังกล่าวจะได้รับการเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนได้แสดงท่าทีคัดค้านการเปิดเผยรายงานนี้หลายครั้งแล้ว และนางบาเชเลต์ก็ไม่ควรแทรกแซงกิจการภายในของจีน ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างจดหมายที่ได้รับการยืนยันจากนักการทูตหลายคนในเดือนสิงหาคมว่า จีนได้ขอให้นางบาเชเลต์ยกเลิกการเปิดเผยรายงานฉบับนี้ ด้านนางบาเชเลต์ยืนยันเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เธอได้รับจดหมายที่ลงนามโดย 40 ประเทศหรือดินแดนต่าง ๆ แต่สำนักงานของเธอไม่ได้สนใจต่อแรงกดดันดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย
สหรัฐห้ามนำเข้าสินค้าจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน อ้างปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ โดยเฉพาะการบังคับใช้แรงงาน
ปักกิ่ง 31 พ.ค. – จีนเรียกร้องให้ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ตรวจสอบเหตุกราดยิงที่ร้านชำในย่านบัฟฟาโลของรัฐนิวยอร์กและเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมในเมืองอูวัลเดของรัฐเทกซัส ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความพยายามในการเบี่ยงเบนข้อกล่าวหาเรื่้องที่จีนละเมิดสิทธิมนุษยชนของชนกลุ่มน้อยมุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกของจีน หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของทางการจีนตีพิมพ์บทบรรณาธิการในวันนี้ว่า ระบบของสหรัฐไม่สามารถทำให้เกิดความเท่าเทียม ขาดความเอาใจใส่ แรงกระตุ้น และความกล้าหาญในการแก้ปัญหาความรุนแรงในประเทศโดยสิ้นเชิง ทั้งยังระบุว่า ปัญหาภายในประเทศของสหรัฐทำให้สหรัฐแสดงอาการก้าวร้าวไปยังนอกประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ บทบรรณาธิการของโกลบอลไทมส์มีขึ้นหลังจากที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติควรตรวจสอบและรายงานเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ที่สหรัฐกำลังเผชิญอยู่บ้าง ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้เผยแพร่บทความชื่อ ‘ปัญหาเหยียดเชื้อชาติเป็นยาพิษที่ไหลเวียนอยู่ในการเมืองสหรัฐ’ (Racism a poison running through American body politic) ที่อ้างถึงเหตุมือปืนผิวขาวก่อเหตุกราดยิงชาวผิวดำเสียชีวิตที่ร้านชำในย่านบัฟฟาโล ซึ่งเป็นย่านคนผิวดำในรัฐนิวยอร์กเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ส่วนสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนและหนังสือพิมพ์ไชนา เดลี ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็เผยแพร่บทความในลักษณะเดียวกัน ด้านนางมิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้อธิบายอย่างละเอียดในงานแถลงสิ้นสุดการเดินทางเยือนจีนเกี่ยวกับคำถามเรื่องปัญหาเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงในสหรัฐ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าการกระทำใด ๆ ของรัฐบาลจีนเพื่อแก้ปัญหาการก่อการร้ายและกลุ่มที่มีแนวคิดสุดโต่งจะต้องไม่เข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่นายเอเดรียน เซนส์ นักวิชาการจากมูลนิธิรำลึกเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากลัทธิคอมมิวนิสต์ (Victims of Communism Memorial Foundation) เผยกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กของสหรัฐว่า […]
ปักกิ่ง 23 พ.ค. – นางมิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ จะเริ่มต้นภารกิจเยือนจีนในวันนี้เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นคนแรกที่เดินทางเยือนจีนในรอบเกือบ 20 ปี แหล่งข่าวไม่เผยนามด้านการทูตของจีนระบุว่า นางบาเชเลต์ ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีชิลี มีกำหนดเข้าร่วมประชุมแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์กับคณะทูตราว 70 คนในวันนี้ จากนั้น เธอจะเดินทางไปยังนครอุรุมชีและเมืองคัชการ์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ รวมถึงนครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ขณะที่สำนักงานของนางบาเชเลต์ระบุว่า นางบาเชเลต์จะพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนหลายคน องค์กรภาคสังคม ตัวแทนธุรกิจ และนักวิชาการ ทั้งนี้ การเดินทางเยือนจีนของนางบาเชเลต์มีขึ้นในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนถูกกล่าวหาว่า คุมขังชาวมุสลิมอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่น ๆ ไว้ที่ค่ายปรับทัศนคติในเขตซินเจียงมาเป็นเวลานานหลายปี จีนให้เหตุผลว่าเป็นการปราบปรามด้านความมั่นคง ขณะที่สหรัฐระบุว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นเรื่องโกหกครั้งใหญ่ ในขณะเดียวกัน นายเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเดินทางเยือนจีนของนางบาเชเลต์ว่า สหรัฐไม่ได้คาดหวังว่าจีนจะอนุญาตให้นางบาเชเลต์สามารถประเมินสภาพแวดล้อมด้านสิทธิมนุษยชนในเขตซินเจียงโดยสมบูรณ์และไร้การควบคุมจากรัฐบาลจีน. -สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 4 ม.ค. – เทสลา อิงค์ บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังของสหรัฐ ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในประเทศ หลังเปิดโชว์รูมรถยนต์แห่งใหม่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีนที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนและบังคับใช้แรงงานชนกลุ่มน้อยมุสลิมซินเจียงในภูมิภาคดังกล่าว บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เทสลา ซึ่งมีอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชื่อดังชาวอเมริกันเป็นเจ้าของ ได้เปิดตัวโชว์รูมรถยนต์แห่งใหม่ที่นครอุรุมชีของเขตซินเจียงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม การตัดสินใจดังกล่าวทำให้เทสลาตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดในสื่อโซเชียลมีเดียของชาติตะวันตกที่มองว่าเทสลาอ้าแขนรับจีน ในขณะที่ชาติตะวันตกกล่าวหาว่าจีนบังคับใช้แรงงานทาสและใช้แนวทางที่เข้าข่ายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในภูมิภาคดังกล่าว นายมาร์โก รูบิโอ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกฎหมายเมื่อเดือนธันวาคมที่กำหนดให้บริษัทในสหรัฐต้องพิสูจน์ว่าสินค้าที่นำเข้าจากเขตซินเจียงไม่ได้ผลิตขึ้นจากการบังคับใช้แรงงานโดยผิดกฎหมาย ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า บริษัทไร้สัญชาติกำลังช่วยพรรคคอมมิวนิสต์จีนปกปิดปัญหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการใช้แรงงานทาสในเขตซินเจียง ขณะที่นายสกอตต์ พอล ประธานกลุ่มพันธมิตรอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐ ระบุว่า บริษัทที่ดำเนินธุรกิจในเขตซินเจียงล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และมองว่าการเปิดโชว์รูมรถยนต์ของเทสลาเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งานเวย์ปั๋ว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังของจีนแบบเดียวกันกับทวิตเตอร์ ต่างแสดงความยินดีกันอย่างกว้างขวางที่เทสลาเปิดโชว์รูมรถยนต์ในเขตซินเจียง ชาวเน็ตจีนคนหนึ่งโพสต์ว่า ขอบคุณเทสลาที่เปิดสาขาใหม่ในเขตซินเจียง ขณะที่อีกคนระบุว่า เทสลาสนับสนุนการพัฒนาและการก่อสร้างในเขตซินเจียง ไม่เหมือนกับบางบริษัทที่ต่อต้านธุรกิจในซินเจียง. -สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 24 ธ.ค. – ทำเนียบขาวของสหรัฐเผยเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาบังคับใช้แรงงานในภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์ตำหนิอย่างรุนแรงจากจีน ทำเนียบขาว ระบุว่า กฎหมายป้องกันการบังคับใช้แรงงานชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์เป็นส่วนหนึ่งในแผนตอบโต้รัฐบาลจีนในการปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์ ซึ่งสหรัฐมองว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กฎหมายดังกล่าวมีใจความสำคัญอยู่ที่การตั้งข้อสันนิษฐานที่หักล้างได้ โดยระบุว่า สินค้าทั้งหมดจากเขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งจีนใช้เป็นที่ตั้งค่ายปรับทัศนคติสำหรับชนกลุ่มน้อยอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่น ๆ เกิดขึ้นจากการบังคับใช้แรงงาน สหรัฐจะสั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากเขตปกครองตนเองซินเจียงจนกว่าจะได้รับหลักฐานว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้สินค้าบางชนิด เช่น ฝ้าย มะเขือเทศ และโพลีซิลิคอนที่ใช้ในการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ จัดอยู่ในบัญชีที่มีความสำคัญลำดับต้น ๆ ของสินค้าห้ามนำเข้า ในขณะเดียวกัน โฆษกสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ระบุในแถลงการณ์ว่า กฎหมายดังกล่าวเพิกเฉยต่อความจริงและใส่ร้ายจีนว่ากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียง การกระทำของสหรัฐถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างรุนแรง จีนขอประณามและไม่ยอมรับการใช้กฎหมายดังกล่าวของสหรัฐ ทั้งยังระบุว่า จีนจะหาทางรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว แต่ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย
ปักกิ่ง 23 ธ.ค. – อินเทล บริษัทผลิตชิปคอมพิวเตอร์ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ขอโทษลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และประชาชนจีน หลังระบุข้อความในจดหมายถึงผู้จัดหาสินค้าและบริการของบริษัท หรือซัพพลายเออร์ ให้เลิกใช้ผลิตภัณฑ์หรือแรงงานจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งทำให้อินเทลต้องเผชิญกับกระแสโจมตีอย่างหนักในจีน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างข้อความในจดหมายประจำปีของอินเทลที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์และได้รับการแปลหลายภาษาว่า อินเทลต้องมั่นใจว่าห่วงโซ่อุปทานของบริษัทจะไม่มีแหล่งที่มาของสินค้า แรงงาน หรือบริการที่เชื่อมโยงกับเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการที่กำหนดโดยรัฐบาลหลายประเทศ อย่างไรก็ดี จดหมายดังกล่าวได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในจีนทั้งในสื่อของทางการจีนและสื่อโซเชียลมีเดียที่เรียกร้องให้แบนสินค้าของอินเทล ในเวลาต่อมา อินเทลได้ระบุในแถลงการณ์ผ่านบัญชีวีแชตและเวย์ปั๋วของบริษัทในวันนี้ว่า ความมุ่งมั่นในการหลีกเลี่ยงห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อมโยงกับเขตซินเจียงเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของสหรัฐมากกว่าที่จะเป็นการแสดงจุดยืนของบริษัท อินเทลขอโทษต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และประชาชนจีน บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือและเร่งการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ร่วมกับจีน อย่างไรก็ดี แคร์รี หวัง หรือ หวัง จุนไค นักร้องและนักแสดงชื่อดังชาวจีน ออกมาเผยว่า เขาได้ยกเลิกสัญญาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของอินเทลแล้ว โดยระบุในแถลงการณ์ว่า เขาให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือสิ่งอื่นใด ขณะที่ผู้ใช้งานเวย์ปั๋วจำนวนมากต่างโจมตีคำขอโทษของอินเทลว่า เป็นความพยายามปกป้องผลประโยชน์ทางธุรกิจในจีนเท่านั้น ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น และกลุ่มสิทธิคาดการณ์ว่า มีประชาชนกว่า 1 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่น ๆ ถูกทางการจีนคุมขังไว้ในค่ายปรับทัศนคติที่ซินเจียงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่จีนปฏิเสธเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง โดยอ้างว่านโยบายดังกล่าวช่วยแก้ปัญหากลุ่มลัทธิหัวรุนแรง. […]
ปักกิ่ง 20 ธ.ค. – นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน ระบุวันนี้ว่า จีนไม่กลัวการเผชิญหน้ากับสหรัฐ แต่พร้อมยินดีให้ความร่วมมือหากทั้งสองประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกัน นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน เผยผ่านเว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศจีนว่า ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนเกิดขึ้นจากการตัดสินใจผิดพลาดในเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐ จีนไม่กลัวการเผชิญหน้ากับสหรัฐ หากจำเป็นต้องทำเช่นนั้น และจีนจะสู้ให้ถึงที่สุด ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า การแข่งขันไม่ใช่เรื่องอันตราย แต่ควรเป็นไปในเชิงบวก สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนอยู่ในระดับตกต่ำ เนื่องจากปัญหาขัดแย้งต่าง ๆ เช่น ที่มาของโรคโควิด-19 สงครามการค้า ปัญหาสิทธิมนุษยชน และประเด็นเกี่ยวกับไต้หวัน ทั้งนี้ในการประชุมสุดยอดแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้กดดันประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนในจีน ส่วนประธานาธิบดีสีเตือนว่า จีนจะโต้ตอบต่อการกระทำที่ยั่วยุเกี่ยวกับไต้หวัน ล่าสุดสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายยกเลิกสินค้านำเข้าจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการบังคับใช้แรงงานชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตดังกล่าว ขณะที่จีนระบุว่า ข้อกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตซินเจียงอุยกูร์นั้นไม่เป็นความจริง. -สำนักข่าวไทย
โตเกียว 10 พ.ย. – องค์ดาไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณของทิเบต กล่าวตำหนิบรรดาแกนนำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในวันนี้ว่าไม่เข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างในจีน และชาวฮั่น ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีประชากรมากที่สุดในจีน ก็ใช้อำนาจควบคุมประเทศมากจนเกินไป องค์ดาไล ลามะ วัย 86 ปี ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ที่จัดขึ้นในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น และได้ตอบคำถามที่ว่าประชาคมนานาชาติควรพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรการการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จีนเป็นเจ้าภาพในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าหรือไม่ เนื่องจากจีนใช้นโยบายปราบปรามชนกลุ่มน้อย ซึ่งรวมถึงชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของจีน องค์ดาไล ลามะ กล่าวจากที่พำนักในเมืองธรรมศาลาในอินเดียว่า ท่านรู้จักบรรดาแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์จีนหลายคนนับตั้งแต่สมัยประธานเหมา เจ๋อตง ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน แนวคิดของแกนนำเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งก็สุดโต่งและใช้การควบคุมที่เข้มงวดจนเกินไป ท่านคิดว่าสิ่งต่าง ๆ ในประเทศจะเปลี่ยนไปเมื่อจีนได้ผู้นำประเทศที่เป็นคนรุ่นใหม่ องค์ดาไล ลามะ ยังกล่าวว่า ทิเบตและซินเจียงมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง แกนนำพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ไม่เปิดกว้างจึงไม่เข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่าง ท่านตั้งข้อสังเกตว่า ประชาชนจีนไม่ได้มีแต่ชาวฮั่นเพียงกลุ่มเดียว แต่ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ที่แตกต่างกัน และชาวฮั่นก็ใช้อำนาจควบคุมมากจนเกินไป ทั้งนี้ องค์ดาไล ลามะ ได้ลี้ภัยจากทิเบตไปอยู่ในอินเดียเมื่อปี 2502 หลังไม่ประสบความสำเร็จในการต่อต้านการปกครองของจีน ขณะที่รัฐบาลจีนมองว่าท่านเป็นผู้นำการแบ่งแยกดินแดน.-สำนักข่าวไทย
สื่อทางการจีนรายงานว่า มีคนงานเหมือง 21 คนติดในเหมืองถ่านหินในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ หลังเกิดน้ำท่วมตัดกระแสไฟฟ้าภายในเหมืองใต้ดินและทำให้ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้