ชัวร์ก่อนแชร์ : เมื่อความรุนแรงในครอบครัวขยายตัวสู่โลกไซเบอร์

“ครอบครัว” เป็นสถาบันพื้นฐานของสังคม ที่สมาชิกในครอบครัวใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความผูกพันทางสายเลือด กฎหมาย และจิตใจ นับเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ความอบอุ่น และความผูกพัน เป็นสถาบันพื้นฐานของสังคม แต่กลับเกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างน่าห่วง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่โลกก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้รูปแบบของความรุนแรงในครอบครัว ขยายขอบเขตออกไปสู่พื้นที่ออนไลน์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จากสถิติความรุนแรงในครอบครัว โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา พบผู้ถูกกระทำความรุนแรง จำนวน 4,833 ราย ซึ่งสาเหตุหลักมาจากยาเสพติด ความเครียดทางเศรษฐกิจ และปัญหาสุขภาพจิต

ทั้งนี้ สถิติความรุนแรงที่เกิดขั้นนั้น เป็นความรุนแรงภายในครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 71 จำนวน 3,421 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็ก 1,450 ราย โดยแบ่งเป็น
– ถูกทำร้ายร่างกาย จำนวน 1,029 ราย 
– ถูกล่วงละเมิดทางเพศ 270 ราย 
– ถูกกระทำอนาจาร 118 ราย 
– ถูกทอดทิ้ง 33 ราย


ความรุนแรงในครอบครัว คืออะไร​ ?
พระราชบัญญัติคุ้มครอบผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 มาตรา 3 ให้คำนิยามของ “ความรุนแรงในครอบครัว” เอาไว้ดังนี้

การกระทำใด ๆ โดยมุ่งประสงค์ในเกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ หรือกระทำโดยเจตนาในลักษณะที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ ของบุคคลในครอบครัว หรือบังคับหรือใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมให้บุคคลในครอบครัวต้องกระทำการ ไม่กระทำการ หรือยอมรับการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดโดยมิชอบ แต่ไม่รวมถึงการกระทำโดยประมาท


ทั้งนี้
– การกระทำ คือ ต้องเป็นการกระทำโดยรู้สำนึกถึงการกระทำด้วย
– โดยมุ่งประสงค์ คือ ต้องเป็นการกระทำโดยเจตนา เช่น เจตนาเอาไม้ตีศีรษะแต่หลบได้ แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ถือว่าเป็นความรุนแรงในครอบครัว (แต่ไม่รวมการกระทำโดยประมาท เช่น แม่อุ้มลูกแล้วเดินสะดุดขั้นบันไดล้ม)
– อันตรายต่อจิตใจ คือ ต้องมีผลกระทบต่อจิตใจแบบที่ต้องไปพบกับจิตแพทย์ ไม่ใช่แค่อารมณ์ความรู้สึก เศร้าโศกเสียใจ

ทำไมถึงเกิดความรุนแรงในครอบครัว ?
สาเหตุของการเกิดความรุนแรงในครอบครัวมาจากสภาวะทางอารมณ์ของแต่ละบุคคล ครอบครัวขาดความรัก ความอบอุ่น ขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน มีคนในครอบครัวดื่มสุราและใช้สารเสพติด รวมไปถึงการดูสื่อที่มีความรุนแรงหรือการต่อสู้ จะมีโอกาสให้เกิดความรุนแรงมากกว่าครอบครัวอื่น โดยความรุนแรง แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. ความรุนแรงทางด้านร่างกาย เช่น การทุบตีทำร้ายร่างกาย ตบ เตะ ต่อย การใช้อาวุธ เป็นต้น
2. ความรุนแรงทางด้านจิตใจ เช่น การใช้คำพูดหรือการกระทำที่เป็นการดูถูก ดูหมิ่น เหยียดหยาม ด่าว่าให้อับอาย บังคับ ข่มขู่ กักขัง หึงหวง ควบคุมไม่ให้แสดงความคิดเห็น ใช้อำนาจเหนือกว่า เป็นต้น
3. ความรุนแรงทางเพศ เช่น การถูกละเมิดทางเพศ อนาจาร การบังคับให้เปลื้องผ้า การบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น

เมื่อความรุนแรงในครอบครัว ไม่ได้จบอยู่แค่ใน “บ้าน”
Digital Abuse หรือ การคุกคามและละเมิดโดยใช้เทคโนโลยีหรือสื่อออนไลน์ ครอบคลุมพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต การโพสต์ข้อความประจาน การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว หรือแฉความลับในลักษณะที่เป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่น

หนึ่งในปัญหาที่พบได้ชัดเจนในปัจจุบัน คือ การล่วงละเมิดทางเพศผ่านสื่อดิจิทัล โดยเฉพาะกรณีที่เด็กและเยาวชนถูกล่อลวงให้เปิดเผยเรือนร่าง หรือถูกแอบถ่ายในลักษณะล่อแหลม หากภาพหรือคลิปเหล่านั้นถูกเผยแพร่ต่อ ก็อาจนำไปสู่การข่มขู่ แบล็กเมล หรือการล่วงละเมิดซ้ำซ้อนทั้งทางเพศและจิตใจ

ตัวอย่างที่เกิดขึ้นล่าสุด คือกรณีของครอบครัวหนึ่งในอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีสมาชิกในบ้านประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูกรวม 9 คน ร่วมกันผลิตและเผยแพร่คลิปอนาจารผ่านกลุ่มลับออนไลน์ โดยมีลูกสาวคนโตวัย 21 ปี เป็นผู้ริเริ่มและชักชวนพี่น้องเข้าร่วม

เหตุการณ์ลักษณะนี้เข้าข่าย Digital Abuse อย่างชัดเจน และสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้างความตระหนักรู้ รวมถึงการวางมาตรการป้องกันในระดับครอบครัวและสังคม


ครอบครัวฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ ? ไม่จริง !
แม้ว่าจะเป็นการกระทำความรุนแรงภายในครอบครัวของตัวเอง แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำความรุนแรง มีความผิดอยู่ดี

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 มาตรา 4 กำหนดไว้ว่า
ผู้ใดกระทำการอันเป็นความรุนแรงในครอบครัว ผู้นั้นกระทำผิดฐานกระทำความรุนแรงในครอบครัว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ให้ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ แต่ไม่ลบล้างความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่น หากการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ด้วย ให้ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความได้*

*ให้ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้
ผู้แจ้งสามารถถอนคำร้องทุกข์เมื่อใดก็ได้ แต่หากการกระทำผิดนั้นเป็นความผิดตามกฎหมายอื่น ผู้กระทำต้องรับผิดตามกฎหมายนั้นด้วย แม้ว่ากฎหมายจะบัญญัติให้ยอมความได้ก็จริง แต่คดีความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายทั่ว ๆ ไป แต่เป็นลักษณะนิสัย ความเคยชิน
ดังนั้น กฎหมายจึงบัญญัติว่า ในกรณีที่มีการถอนคำร้องทุกข์หรือถอนฟ้อง หรือยอมความ ต้องทำข้อตกลงในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ข้อตกลงเบื้องต้นก่อนการยอมความก่อนการถอนคำร้องทุกข์ หรือการถอนฟ้อง ถ้าทำสำเร็จก่อนจึงค่อยถอนแจ้งความได้

นอกจากนี้ ในกรณี Digital Abuse ที่มีการร่วมกันผลิตและเผยแพร่คลิปอนาจารผ่านกลุ่มลับออนไลน์ตามที่ได้ยกตัวอย่างไปนั้น ยังมีความผิดในคดีสื่อลามกอนาจารเด็กอีกด้วยตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2558 มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สัญญาณเตือนเมื่อเกิดเหตุความรุนแรงในครอบครัวที่คนภายนอกอาจมองเห็นและสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทัน
– ความรุนแรงระหว่างสามี-ภรรยา ความเครียดและความขัดแย้งกันภายในครอบครัว ก่อให้เกิดความรุนแรงระหว่างสามีภรรยาได้
– ความรุนแรงต่อเด็กทางด้านร่างกาย พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย หากเด็กถูกกระทำรุนแรงทางเพศ อาจพบการตั้งครรภ์ หรือหวาดกลัวผู้ชายในครอบครัว
– ความรุนแรงต่อเด็กทางด้านจิตใจ มีอาการเก็บตัว หวาดกลัว ไม่ไว้ใจใคร ขาดความเชื่อมั่น และพยายามเรียกร้องความสนใจ

หากประสบเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว ใครแจ้งได้บ้าง แล้วแจ้งได้ที่ไหนบ้าง ?
ผู้ที่สามารถแจ้งเหตุความรุนแรงได้ ได้แก่
– ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว
– ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ 
– ผู้ที่ทราบการกระทำความรุนแรงในครอบครัว
ทุกคนที่ต้องแจ้งเหตุเมื่อพบเห็นหรือทราบการกระทำความรุนแรงในครอบครัว เป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่ทุกคนต้องกระทำ

ช่องทางการแจ้งเหตุ เช่น
– ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 โทรฟรี 24 ชั่วโมง
– ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ESS Help Me ไลน์ @esshelpme
– ระบบเพื่อนครอบครัว Family Line @linefamily
– ระบบการคุ้มครองช่วยเหลือเด็ก สตรี และผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว  www.evcis.org
– ศูนย์ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว
ส่วนกลาง : กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว โทร. 0-2659-6728
– ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว
ภูมิภาค : สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 76 จังหวัด/บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพฯ และ 76 จังหวัด
– ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191
– ศูนย์พึ่งได้ OSCC ในโรงพยาบาล
– มูลนิธิ/NGO
มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี 0-2577-0500-1, 1134
มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก 0-2412-1196
มูลนิธิเพื่อนหญิง 0-2513-1001
สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ (บ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง) 0-2929-2222

กรณีผู้ถูกกระทำความรุนแรงประสงค์จะดำเนินคดี ให้แจ้งความประสงค์หรือร้องทุกข์ภายในเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่ถูกกระทำความรุนแรงหรือมีโอกาสที่จะร้องทุกข์ได้ 

เนื่องในวันครอบครัวสากล (International Day of Families) ซึ่งตรงกับวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี ตามที่องค์การสหประชาชาติกำหนดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัว โดยเชื่อว่า สังคมที่เข้มแข็งเริ่มต้นจากครอบครัวที่อบอุ่น

โอกาสนี้จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราควรหันกลับมาทบทวน และย้ำเตือนถึงด้านที่เปราะบางของครอบครัว โดยเฉพาะ ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เพื่อกระตุ้นให้เกิดความตระหนักรู้ ส่งเสริมความเคารพซึ่งกันและกัน และสร้างความสุขร่วมกันในบ้านอย่างยั่งยืน

14 พฤษภาคม 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
เขียนและรวบรวม โดย นัฐภรณ์ ผลพฤกษา

ดูคลิปชัวร์ก่อนแชร์เพิ่มเติม

อ้างอิง
ทุกวันเป็นวันครอบครัว 
https://sorporkor.dwf.go.th/attach/w103/f20210209143726_czSfy4wtBG.pdf
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550
https://sorporkor.dwf.go.th/attach/w103/f20210208175130_wjUzHEYM5b.pdf
คู่มือสื่อรัก สานสายใย ครอบครัวไร้รุนแรง
https://sorporkor.dwf.go.th/attach/w103/f20210209141434_96Fd5TkGS6.pdf
สถิติความรุนแรง ปีงบประมาณ พ.ศ 2567
https://1300thailand.m-society.go.th/statyearly
วันครอบครัวสากล (International Day of Families)
https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/285629
ความรุนแรงในครอบครัว และวิธีการแจ้งเหตุ
https://www.facebook.com/watch/?v=509297568164989
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2558
https://dep.kpo.go.th/law/raberb/pramaun%20law/aya%2024-2558.pdf

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย