ชัวร์ก่อนแชร์ : เมื่อความรุนแรงในครอบครัวขยายตัวสู่โลกไซเบอร์

“ครอบครัว” เป็นสถาบันพื้นฐานของสังคม ที่สมาชิกในครอบครัวใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความผูกพันทางสายเลือด กฎหมาย และจิตใจ นับเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ความอบอุ่น และความผูกพัน เป็นสถาบันพื้นฐานของสังคม แต่กลับเกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างน่าห่วง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่โลกก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้รูปแบบของความรุนแรงในครอบครัว ขยายขอบเขตออกไปสู่พื้นที่ออนไลน์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จากสถิติความรุนแรงในครอบครัว โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา พบผู้ถูกกระทำความรุนแรง จำนวน 4,833 ราย ซึ่งสาเหตุหลักมาจากยาเสพติด ความเครียดทางเศรษฐกิจ และปัญหาสุขภาพจิต

ทั้งนี้ สถิติความรุนแรงที่เกิดขั้นนั้น เป็นความรุนแรงภายในครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 71 จำนวน 3,421 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็ก 1,450 ราย โดยแบ่งเป็น
– ถูกทำร้ายร่างกาย จำนวน 1,029 ราย 
– ถูกล่วงละเมิดทางเพศ 270 ราย 
– ถูกกระทำอนาจาร 118 ราย 
– ถูกทอดทิ้ง 33 ราย


ความรุนแรงในครอบครัว คืออะไร​ ?
พระราชบัญญัติคุ้มครอบผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 มาตรา 3 ให้คำนิยามของ “ความรุนแรงในครอบครัว” เอาไว้ดังนี้

การกระทำใด ๆ โดยมุ่งประสงค์ในเกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ หรือกระทำโดยเจตนาในลักษณะที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ ของบุคคลในครอบครัว หรือบังคับหรือใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมให้บุคคลในครอบครัวต้องกระทำการ ไม่กระทำการ หรือยอมรับการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดโดยมิชอบ แต่ไม่รวมถึงการกระทำโดยประมาท


ทั้งนี้
– การกระทำ คือ ต้องเป็นการกระทำโดยรู้สำนึกถึงการกระทำด้วย
– โดยมุ่งประสงค์ คือ ต้องเป็นการกระทำโดยเจตนา เช่น เจตนาเอาไม้ตีศีรษะแต่หลบได้ แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ถือว่าเป็นความรุนแรงในครอบครัว (แต่ไม่รวมการกระทำโดยประมาท เช่น แม่อุ้มลูกแล้วเดินสะดุดขั้นบันไดล้ม)
– อันตรายต่อจิตใจ คือ ต้องมีผลกระทบต่อจิตใจแบบที่ต้องไปพบกับจิตแพทย์ ไม่ใช่แค่อารมณ์ความรู้สึก เศร้าโศกเสียใจ

ทำไมถึงเกิดความรุนแรงในครอบครัว ?
สาเหตุของการเกิดความรุนแรงในครอบครัวมาจากสภาวะทางอารมณ์ของแต่ละบุคคล ครอบครัวขาดความรัก ความอบอุ่น ขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน มีคนในครอบครัวดื่มสุราและใช้สารเสพติด รวมไปถึงการดูสื่อที่มีความรุนแรงหรือการต่อสู้ จะมีโอกาสให้เกิดความรุนแรงมากกว่าครอบครัวอื่น โดยความรุนแรง แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. ความรุนแรงทางด้านร่างกาย เช่น การทุบตีทำร้ายร่างกาย ตบ เตะ ต่อย การใช้อาวุธ เป็นต้น
2. ความรุนแรงทางด้านจิตใจ เช่น การใช้คำพูดหรือการกระทำที่เป็นการดูถูก ดูหมิ่น เหยียดหยาม ด่าว่าให้อับอาย บังคับ ข่มขู่ กักขัง หึงหวง ควบคุมไม่ให้แสดงความคิดเห็น ใช้อำนาจเหนือกว่า เป็นต้น
3. ความรุนแรงทางเพศ เช่น การถูกละเมิดทางเพศ อนาจาร การบังคับให้เปลื้องผ้า การบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น

เมื่อความรุนแรงในครอบครัว ไม่ได้จบอยู่แค่ใน “บ้าน”
Digital Abuse หรือ การคุกคามและละเมิดโดยใช้เทคโนโลยีหรือสื่อออนไลน์ ครอบคลุมพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต การโพสต์ข้อความประจาน การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว หรือแฉความลับในลักษณะที่เป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่น

หนึ่งในปัญหาที่พบได้ชัดเจนในปัจจุบัน คือ การล่วงละเมิดทางเพศผ่านสื่อดิจิทัล โดยเฉพาะกรณีที่เด็กและเยาวชนถูกล่อลวงให้เปิดเผยเรือนร่าง หรือถูกแอบถ่ายในลักษณะล่อแหลม หากภาพหรือคลิปเหล่านั้นถูกเผยแพร่ต่อ ก็อาจนำไปสู่การข่มขู่ แบล็กเมล หรือการล่วงละเมิดซ้ำซ้อนทั้งทางเพศและจิตใจ

ตัวอย่างที่เกิดขึ้นล่าสุด คือกรณีของครอบครัวหนึ่งในอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีสมาชิกในบ้านประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูกรวม 9 คน ร่วมกันผลิตและเผยแพร่คลิปอนาจารผ่านกลุ่มลับออนไลน์ โดยมีลูกสาวคนโตวัย 21 ปี เป็นผู้ริเริ่มและชักชวนพี่น้องเข้าร่วม

เหตุการณ์ลักษณะนี้เข้าข่าย Digital Abuse อย่างชัดเจน และสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้างความตระหนักรู้ รวมถึงการวางมาตรการป้องกันในระดับครอบครัวและสังคม


ครอบครัวฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ ? ไม่จริง !
แม้ว่าจะเป็นการกระทำความรุนแรงภายในครอบครัวของตัวเอง แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำความรุนแรง มีความผิดอยู่ดี

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 มาตรา 4 กำหนดไว้ว่า
ผู้ใดกระทำการอันเป็นความรุนแรงในครอบครัว ผู้นั้นกระทำผิดฐานกระทำความรุนแรงในครอบครัว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ให้ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ แต่ไม่ลบล้างความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่น หากการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ด้วย ให้ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความได้*

*ให้ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้
ผู้แจ้งสามารถถอนคำร้องทุกข์เมื่อใดก็ได้ แต่หากการกระทำผิดนั้นเป็นความผิดตามกฎหมายอื่น ผู้กระทำต้องรับผิดตามกฎหมายนั้นด้วย แม้ว่ากฎหมายจะบัญญัติให้ยอมความได้ก็จริง แต่คดีความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายทั่ว ๆ ไป แต่เป็นลักษณะนิสัย ความเคยชิน
ดังนั้น กฎหมายจึงบัญญัติว่า ในกรณีที่มีการถอนคำร้องทุกข์หรือถอนฟ้อง หรือยอมความ ต้องทำข้อตกลงในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ข้อตกลงเบื้องต้นก่อนการยอมความก่อนการถอนคำร้องทุกข์ หรือการถอนฟ้อง ถ้าทำสำเร็จก่อนจึงค่อยถอนแจ้งความได้

นอกจากนี้ ในกรณี Digital Abuse ที่มีการร่วมกันผลิตและเผยแพร่คลิปอนาจารผ่านกลุ่มลับออนไลน์ตามที่ได้ยกตัวอย่างไปนั้น ยังมีความผิดในคดีสื่อลามกอนาจารเด็กอีกด้วยตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2558 มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สัญญาณเตือนเมื่อเกิดเหตุความรุนแรงในครอบครัวที่คนภายนอกอาจมองเห็นและสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทัน
– ความรุนแรงระหว่างสามี-ภรรยา ความเครียดและความขัดแย้งกันภายในครอบครัว ก่อให้เกิดความรุนแรงระหว่างสามีภรรยาได้
– ความรุนแรงต่อเด็กทางด้านร่างกาย พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย หากเด็กถูกกระทำรุนแรงทางเพศ อาจพบการตั้งครรภ์ หรือหวาดกลัวผู้ชายในครอบครัว
– ความรุนแรงต่อเด็กทางด้านจิตใจ มีอาการเก็บตัว หวาดกลัว ไม่ไว้ใจใคร ขาดความเชื่อมั่น และพยายามเรียกร้องความสนใจ

หากประสบเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว ใครแจ้งได้บ้าง แล้วแจ้งได้ที่ไหนบ้าง ?
ผู้ที่สามารถแจ้งเหตุความรุนแรงได้ ได้แก่
– ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว
– ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ 
– ผู้ที่ทราบการกระทำความรุนแรงในครอบครัว
ทุกคนที่ต้องแจ้งเหตุเมื่อพบเห็นหรือทราบการกระทำความรุนแรงในครอบครัว เป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่ทุกคนต้องกระทำ

ช่องทางการแจ้งเหตุ เช่น
– ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 โทรฟรี 24 ชั่วโมง
– ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ESS Help Me ไลน์ @esshelpme
– ระบบเพื่อนครอบครัว Family Line @linefamily
– ระบบการคุ้มครองช่วยเหลือเด็ก สตรี และผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว  www.evcis.org
– ศูนย์ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว
ส่วนกลาง : กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว โทร. 0-2659-6728
– ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว
ภูมิภาค : สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 76 จังหวัด/บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพฯ และ 76 จังหวัด
– ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191
– ศูนย์พึ่งได้ OSCC ในโรงพยาบาล
– มูลนิธิ/NGO
มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี 0-2577-0500-1, 1134
มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก 0-2412-1196
มูลนิธิเพื่อนหญิง 0-2513-1001
สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ (บ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง) 0-2929-2222

กรณีผู้ถูกกระทำความรุนแรงประสงค์จะดำเนินคดี ให้แจ้งความประสงค์หรือร้องทุกข์ภายในเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่ถูกกระทำความรุนแรงหรือมีโอกาสที่จะร้องทุกข์ได้ 

เนื่องในวันครอบครัวสากล (International Day of Families) ซึ่งตรงกับวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี ตามที่องค์การสหประชาชาติกำหนดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัว โดยเชื่อว่า สังคมที่เข้มแข็งเริ่มต้นจากครอบครัวที่อบอุ่น

โอกาสนี้จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราควรหันกลับมาทบทวน และย้ำเตือนถึงด้านที่เปราะบางของครอบครัว โดยเฉพาะ ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เพื่อกระตุ้นให้เกิดความตระหนักรู้ ส่งเสริมความเคารพซึ่งกันและกัน และสร้างความสุขร่วมกันในบ้านอย่างยั่งยืน

14 พฤษภาคม 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
เขียนและรวบรวม โดย นัฐภรณ์ ผลพฤกษา

ดูคลิปชัวร์ก่อนแชร์เพิ่มเติม

อ้างอิง
ทุกวันเป็นวันครอบครัว 
https://sorporkor.dwf.go.th/attach/w103/f20210209143726_czSfy4wtBG.pdf
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550
https://sorporkor.dwf.go.th/attach/w103/f20210208175130_wjUzHEYM5b.pdf
คู่มือสื่อรัก สานสายใย ครอบครัวไร้รุนแรง
https://sorporkor.dwf.go.th/attach/w103/f20210209141434_96Fd5TkGS6.pdf
สถิติความรุนแรง ปีงบประมาณ พ.ศ 2567
https://1300thailand.m-society.go.th/statyearly
วันครอบครัวสากล (International Day of Families)
https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/285629
ความรุนแรงในครอบครัว และวิธีการแจ้งเหตุ
https://www.facebook.com/watch/?v=509297568164989
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2558
https://dep.kpo.go.th/law/raberb/pramaun%20law/aya%2024-2558.pdf

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]