ชัวร์ก่อนแชร์ : เมื่อความรุนแรงในครอบครัวขยายตัวสู่โลกไซเบอร์

“ครอบครัว” เป็นสถาบันพื้นฐานของสังคม ที่สมาชิกในครอบครัวใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความผูกพันทางสายเลือด กฎหมาย และจิตใจ นับเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ความอบอุ่น และความผูกพัน เป็นสถาบันพื้นฐานของสังคม แต่กลับเกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างน่าห่วง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่โลกก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้รูปแบบของความรุนแรงในครอบครัว ขยายขอบเขตออกไปสู่พื้นที่ออนไลน์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จากสถิติความรุนแรงในครอบครัว โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา พบผู้ถูกกระทำความรุนแรง จำนวน 4,833 ราย ซึ่งสาเหตุหลักมาจากยาเสพติด ความเครียดทางเศรษฐกิจ และปัญหาสุขภาพจิต

ทั้งนี้ สถิติความรุนแรงที่เกิดขั้นนั้น เป็นความรุนแรงภายในครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 71 จำนวน 3,421 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็ก 1,450 ราย โดยแบ่งเป็น
– ถูกทำร้ายร่างกาย จำนวน 1,029 ราย 
– ถูกล่วงละเมิดทางเพศ 270 ราย 
– ถูกกระทำอนาจาร 118 ราย 
– ถูกทอดทิ้ง 33 ราย


ความรุนแรงในครอบครัว คืออะไร​ ?
พระราชบัญญัติคุ้มครอบผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 มาตรา 3 ให้คำนิยามของ “ความรุนแรงในครอบครัว” เอาไว้ดังนี้

การกระทำใด ๆ โดยมุ่งประสงค์ในเกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ หรือกระทำโดยเจตนาในลักษณะที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ ของบุคคลในครอบครัว หรือบังคับหรือใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมให้บุคคลในครอบครัวต้องกระทำการ ไม่กระทำการ หรือยอมรับการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดโดยมิชอบ แต่ไม่รวมถึงการกระทำโดยประมาท


ทั้งนี้
– การกระทำ คือ ต้องเป็นการกระทำโดยรู้สำนึกถึงการกระทำด้วย
– โดยมุ่งประสงค์ คือ ต้องเป็นการกระทำโดยเจตนา เช่น เจตนาเอาไม้ตีศีรษะแต่หลบได้ แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ถือว่าเป็นความรุนแรงในครอบครัว (แต่ไม่รวมการกระทำโดยประมาท เช่น แม่อุ้มลูกแล้วเดินสะดุดขั้นบันไดล้ม)
– อันตรายต่อจิตใจ คือ ต้องมีผลกระทบต่อจิตใจแบบที่ต้องไปพบกับจิตแพทย์ ไม่ใช่แค่อารมณ์ความรู้สึก เศร้าโศกเสียใจ

ทำไมถึงเกิดความรุนแรงในครอบครัว ?
สาเหตุของการเกิดความรุนแรงในครอบครัวมาจากสภาวะทางอารมณ์ของแต่ละบุคคล ครอบครัวขาดความรัก ความอบอุ่น ขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน มีคนในครอบครัวดื่มสุราและใช้สารเสพติด รวมไปถึงการดูสื่อที่มีความรุนแรงหรือการต่อสู้ จะมีโอกาสให้เกิดความรุนแรงมากกว่าครอบครัวอื่น โดยความรุนแรง แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. ความรุนแรงทางด้านร่างกาย เช่น การทุบตีทำร้ายร่างกาย ตบ เตะ ต่อย การใช้อาวุธ เป็นต้น
2. ความรุนแรงทางด้านจิตใจ เช่น การใช้คำพูดหรือการกระทำที่เป็นการดูถูก ดูหมิ่น เหยียดหยาม ด่าว่าให้อับอาย บังคับ ข่มขู่ กักขัง หึงหวง ควบคุมไม่ให้แสดงความคิดเห็น ใช้อำนาจเหนือกว่า เป็นต้น
3. ความรุนแรงทางเพศ เช่น การถูกละเมิดทางเพศ อนาจาร การบังคับให้เปลื้องผ้า การบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น

เมื่อความรุนแรงในครอบครัว ไม่ได้จบอยู่แค่ใน “บ้าน”
Digital Abuse หรือ การคุกคามและละเมิดโดยใช้เทคโนโลยีหรือสื่อออนไลน์ ครอบคลุมพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต การโพสต์ข้อความประจาน การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว หรือแฉความลับในลักษณะที่เป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่น

หนึ่งในปัญหาที่พบได้ชัดเจนในปัจจุบัน คือ การล่วงละเมิดทางเพศผ่านสื่อดิจิทัล โดยเฉพาะกรณีที่เด็กและเยาวชนถูกล่อลวงให้เปิดเผยเรือนร่าง หรือถูกแอบถ่ายในลักษณะล่อแหลม หากภาพหรือคลิปเหล่านั้นถูกเผยแพร่ต่อ ก็อาจนำไปสู่การข่มขู่ แบล็กเมล หรือการล่วงละเมิดซ้ำซ้อนทั้งทางเพศและจิตใจ

ตัวอย่างที่เกิดขึ้นล่าสุด คือกรณีของครอบครัวหนึ่งในอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีสมาชิกในบ้านประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูกรวม 9 คน ร่วมกันผลิตและเผยแพร่คลิปอนาจารผ่านกลุ่มลับออนไลน์ โดยมีลูกสาวคนโตวัย 21 ปี เป็นผู้ริเริ่มและชักชวนพี่น้องเข้าร่วม

เหตุการณ์ลักษณะนี้เข้าข่าย Digital Abuse อย่างชัดเจน และสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้างความตระหนักรู้ รวมถึงการวางมาตรการป้องกันในระดับครอบครัวและสังคม


ครอบครัวฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ ? ไม่จริง !
แม้ว่าจะเป็นการกระทำความรุนแรงภายในครอบครัวของตัวเอง แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำความรุนแรง มีความผิดอยู่ดี

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 มาตรา 4 กำหนดไว้ว่า
ผู้ใดกระทำการอันเป็นความรุนแรงในครอบครัว ผู้นั้นกระทำผิดฐานกระทำความรุนแรงในครอบครัว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ให้ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ แต่ไม่ลบล้างความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่น หากการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ด้วย ให้ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความได้*

*ให้ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้
ผู้แจ้งสามารถถอนคำร้องทุกข์เมื่อใดก็ได้ แต่หากการกระทำผิดนั้นเป็นความผิดตามกฎหมายอื่น ผู้กระทำต้องรับผิดตามกฎหมายนั้นด้วย แม้ว่ากฎหมายจะบัญญัติให้ยอมความได้ก็จริง แต่คดีความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายทั่ว ๆ ไป แต่เป็นลักษณะนิสัย ความเคยชิน
ดังนั้น กฎหมายจึงบัญญัติว่า ในกรณีที่มีการถอนคำร้องทุกข์หรือถอนฟ้อง หรือยอมความ ต้องทำข้อตกลงในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ข้อตกลงเบื้องต้นก่อนการยอมความก่อนการถอนคำร้องทุกข์ หรือการถอนฟ้อง ถ้าทำสำเร็จก่อนจึงค่อยถอนแจ้งความได้

นอกจากนี้ ในกรณี Digital Abuse ที่มีการร่วมกันผลิตและเผยแพร่คลิปอนาจารผ่านกลุ่มลับออนไลน์ตามที่ได้ยกตัวอย่างไปนั้น ยังมีความผิดในคดีสื่อลามกอนาจารเด็กอีกด้วยตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2558 มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สัญญาณเตือนเมื่อเกิดเหตุความรุนแรงในครอบครัวที่คนภายนอกอาจมองเห็นและสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทัน
– ความรุนแรงระหว่างสามี-ภรรยา ความเครียดและความขัดแย้งกันภายในครอบครัว ก่อให้เกิดความรุนแรงระหว่างสามีภรรยาได้
– ความรุนแรงต่อเด็กทางด้านร่างกาย พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย หากเด็กถูกกระทำรุนแรงทางเพศ อาจพบการตั้งครรภ์ หรือหวาดกลัวผู้ชายในครอบครัว
– ความรุนแรงต่อเด็กทางด้านจิตใจ มีอาการเก็บตัว หวาดกลัว ไม่ไว้ใจใคร ขาดความเชื่อมั่น และพยายามเรียกร้องความสนใจ

หากประสบเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว ใครแจ้งได้บ้าง แล้วแจ้งได้ที่ไหนบ้าง ?
ผู้ที่สามารถแจ้งเหตุความรุนแรงได้ ได้แก่
– ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว
– ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ 
– ผู้ที่ทราบการกระทำความรุนแรงในครอบครัว
ทุกคนที่ต้องแจ้งเหตุเมื่อพบเห็นหรือทราบการกระทำความรุนแรงในครอบครัว เป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่ทุกคนต้องกระทำ

ช่องทางการแจ้งเหตุ เช่น
– ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 โทรฟรี 24 ชั่วโมง
– ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ESS Help Me ไลน์ @esshelpme
– ระบบเพื่อนครอบครัว Family Line @linefamily
– ระบบการคุ้มครองช่วยเหลือเด็ก สตรี และผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว  www.evcis.org
– ศูนย์ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว
ส่วนกลาง : กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว โทร. 0-2659-6728
– ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว
ภูมิภาค : สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 76 จังหวัด/บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพฯ และ 76 จังหวัด
– ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191
– ศูนย์พึ่งได้ OSCC ในโรงพยาบาล
– มูลนิธิ/NGO
มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี 0-2577-0500-1, 1134
มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก 0-2412-1196
มูลนิธิเพื่อนหญิง 0-2513-1001
สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ (บ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง) 0-2929-2222

กรณีผู้ถูกกระทำความรุนแรงประสงค์จะดำเนินคดี ให้แจ้งความประสงค์หรือร้องทุกข์ภายในเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่ถูกกระทำความรุนแรงหรือมีโอกาสที่จะร้องทุกข์ได้ 

เนื่องในวันครอบครัวสากล (International Day of Families) ซึ่งตรงกับวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี ตามที่องค์การสหประชาชาติกำหนดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัว โดยเชื่อว่า สังคมที่เข้มแข็งเริ่มต้นจากครอบครัวที่อบอุ่น

โอกาสนี้จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราควรหันกลับมาทบทวน และย้ำเตือนถึงด้านที่เปราะบางของครอบครัว โดยเฉพาะ ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เพื่อกระตุ้นให้เกิดความตระหนักรู้ ส่งเสริมความเคารพซึ่งกันและกัน และสร้างความสุขร่วมกันในบ้านอย่างยั่งยืน

14 พฤษภาคม 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
เขียนและรวบรวม โดย นัฐภรณ์ ผลพฤกษา

ดูคลิปชัวร์ก่อนแชร์เพิ่มเติม

อ้างอิง
ทุกวันเป็นวันครอบครัว 
https://sorporkor.dwf.go.th/attach/w103/f20210209143726_czSfy4wtBG.pdf
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550
https://sorporkor.dwf.go.th/attach/w103/f20210208175130_wjUzHEYM5b.pdf
คู่มือสื่อรัก สานสายใย ครอบครัวไร้รุนแรง
https://sorporkor.dwf.go.th/attach/w103/f20210209141434_96Fd5TkGS6.pdf
สถิติความรุนแรง ปีงบประมาณ พ.ศ 2567
https://1300thailand.m-society.go.th/statyearly
วันครอบครัวสากล (International Day of Families)
https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/285629
ความรุนแรงในครอบครัว และวิธีการแจ้งเหตุ
https://www.facebook.com/watch/?v=509297568164989
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2558
https://dep.kpo.go.th/law/raberb/pramaun%20law/aya%2024-2558.pdf

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]

วันที่ 3 ปะทะเดือดสะบ้าย้อย ยังเคลียร์พื้นที่ไม่ได้

สงขลา 13 ก.ย.-เข้าสู่วันที่ 3 เหตุปะทะเดือด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เช้านี้ยังยิงปะทะกันต่อเนื่อง ยังไม่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ จนชาวบ้านไม่กล้าออกจากบ้าน วันนี้เป็นวันที่ 3 หลังวานนี้ เกิดเสียงยิงปะทะดังสนั่นหวั่นไหว บนเนินเขา หมู่ 7 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และหลังจากเสียงปืนสงบ ได้มีการเข้าเคลียร์พื้นที่โดยเชิญผู้นำศาสนาเข้าไปในพื้นที่เพื่อตรวจสอบและเป็นสักขีพยาน หลังเจ้าหน้าที่ ยืนยันพบผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 1 ราย และเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีการปะทะต่อเนื่องประมาณ 2-3 ครั้ง ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปะทะขึ้นอีกกว่า 10 ครั้งแล้ว ดังมาจากใกล้จุดเกิดเหตุเมื่อวานนี้ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ ทราบเพียงว่าเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย และเจ้าหน้าที่ยังคงใช้ความระมัดระวัง โดยใช้โดรนบินลาดตระเวนตลอดตั้งแต่เช้าและขยับเคลื่อนกำลังเข้าทุกพื้นที่เพื่อกดดัน และจำกัดวงล้อมรอบเทือกเขา หาตัวผู้ก่อความไม่สงบ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และติดกับอำเภอนาทวี จ.สงขลา ซึ่งคนร้ายอาจจะหลบหนีได้ แหล่งข่าวความมั่นคงคาดยังมีคนร้ายหลบหนี อยู่ในเทือกเขาอีกประมาณ 1-2 คน ขณะที่บรรยากาศในหมู่ 7 บ้านห้วยเต่า วันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ชาวบ้านยังคงอยู่บ้านเรือนของตนเองเพื่อความปลอดภัย […]

“บิ๊กตู่” ส่งดอกไม้ พร้อมการ์ดอวยพรวันเกิด “อนุทิน”

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย. – “บิ๊กตู่-สมาคมไทยจีน” ส่งดอกไม้ พร้อมการ์ดอวยพรวันเกิด “อนุทิน” ครบรอบ 59 ปี ขณะที่แกนนำพรรคจ่อเบิร์ธเดย์เย็นนี้ บรรยากาศที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนมารอทำข่าว เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยมีบุคคลสำคัญและภาคธุรกิจ ส่งดอกไม้พร้อมการ์ดอวยพรมาแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่อง อาทิ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และสมาคมมิตรภาพไทย-จีน โดยในช่วงเช้าวันนี้นายอนุทิน ได้เดินทางไปทำภารกิจส่วนตัว พร้อมนางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภรรยา ที่จังหวัดระนอง ขณะที่ช่วงเย็นนั้น มีรายงานว่า พรรคภูมิใจไทยจะประชุมพรรคในเวลา 17.00 น. โดยจะมีแกนนำและสมาชิกพรรค ร่วมอวยพรวันเกิดให้แก่นายอนุทินด้วย ขณะที่ ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ (12 ก.ย.) นายอนุทิน ได้โพสต์ภาพรับพระราชทานแจกันดอกไม้ พร้อมเขียนข้อความ โดยระบุว่า กราบสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ […]

ไฟไหม้ตลาดพาหุรัด สาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรปลั๊กไฟต่อพ่วง

กทม. 13 ก.ย.-ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้ตลาดพาหุรัด จนท.อพยพผู้พักอาศัย ใช้เวลา 20 นาที ควบคุมเพลิงไว้ได้ สาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรปลั๊กไฟต่อพ่วง เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 13 ก.ย.68 ร.ต.ท.สิทธิชัย ขัดแก้ว รองสารวัตร(สอบสวน) สน.พระราชวัง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ใกล้เคียงโรงแรมไชน่าเวิลด์ ถนนพาหุรัด แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยภูเขาทอง ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 3 ชั้น ตลาดพาหุรัด ศูนย์ค้าผ้าและเครื่องประดับ พบมีกลุ่มควันจำนวนมาก บริเวณชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยเหลืออพยพผู้พักอาศัยติดค้างอยู่ออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย จากการตรวจสอบบริเวณชั้น 1 ภายในร้านประกอบกิจการจำหน่ายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ พบมีแสงเพลิงไหม้ จึงใช้น้ำฉีดทำการดับประมาณ 20 นาทีเพลิงสงบลง พื้นที่เสียหายประมาณ 24 ตารางเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง สถานที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย