สว.ภิญญาพัชญ์ หนุน “คนะครึ่ง” เชื่อปลุกเศรษฐกิจชุมชน

กรุงเทพฯ 13 ก.ย.- สนับสนุนเต็มที่! “สว.ภิญญาพัชญ์ หนุน “คนะครึ่ง” เชื่อปลุกเศรษฐกิจชุมชนฟื้นคืนชีพได้ เสนอเข้าถึงท้องถิ่น-พื้นที่ห่างไกล ขยายโครงการทั่วประเทศ น.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงการที่รัฐบาลเตรียมเดินหน้าผลักดันโครงการคนละครึ่ง ว่า ตนเชื่อว่าจะเป็นมาตรการสำคัญในการช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของประชาชน และสนับสนุนรายได้ของร้านค้ารายย่อยและชุมชน โครงการคนละครึ่งจะช่วยให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร สามารถจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคได้สะดวกมากขึ้น ร้านค้ารายย่อยในตลาดท้องถิ่นก็สามารถรักษารายได้ ลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ และเพิ่มโอกาสในการทำมาค้าขายต่อไป “โครงการคนละครึ่งไม่ใช่เพียงมาตรการชั่วคราว แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศ” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว น.ส.ภิญญาพัชญ์ ระบุต่อว่า ตนเสนอว่ารัฐบาลควรขยายโครงการให้เข้าถึงพื้นที่ห่างไกลและท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนทุกพื้นที่ได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง ตนมั่นใจว่าการกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจไปสู่ท้องถิ่น จะช่วยให้แต่ละจังหวัดและเทศบาลสามารถบริหารจัดการสิทธิ์คนละครึ่งได้ตรงตามความต้องการของประชาชน และหากโครงการคนละครึ่งสามารถเชื่อมโยงกับสินค้าเกษตรกรชุมชน จะช่วยให้ประชาชนสามารถขายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนได้โดยตรง ลดการพึ่งพาคนกลาง และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน “นี่คือโอกาสสำคัญ ตอนนี้แหละค่ะ ที่รัฐบาลจะใช้เครื่องมือคนละครึ่งเป็นตัวช่วยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งอย่างแท้จริง” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว.-312-สำนักข่าวไทย

“สว.ภิญญาพัชญ์” จี้ รบ. สางปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตุ๋นเงิน

กทม. 19 ก.ค.- “สว.ภิญญาพัชญ์” ถามต้องปล่อยให้คนไทยโพสต์ใบแจ้งความ-อำลาโลกอีกกี่คน จี้ รบ. สางปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตุ๋นเงิน ยกคอมเมนต์เหยื่อ รอมา 3 ปี คดีไม่คืบ เตือนความยุติธรรมที่มาช้าคือความอยุติธรรม น.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่หลอกลวงคนไทย ว่า คนไทยของเราตกเป็นเหยื่อและถึงขั้นจบชีวิตตัวเองจำนวนมาก หลายคนเป็นคนที่มีชื่อเสียง ซึ่งพอเจอมิจฉาชีพหลอกเข้าก็เหมือนล้มทั้งยืน ไม่คิดจะอยู่บนโลก กรณีต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นภาพแทนของประชาชนที่ต้องสูญเสีย เงิน ความหวัง และศรัทธาในรัฐ ตนมองว่าเป็นปัญหาเชิงระบบ “เป็นความล่าช้า ความเฉยชา และความรู้สึกไร้ที่พึ่งของประชาชน สุดท้ายแล้วเหยื่ออยู่ไม่ถึงกระบวนการยุติธรรม เมื่อความล่าช้าคือคำพิพากษาชีวิต” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ไปส่องดูตามโซเชียล พบว่ามีคนแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้หลากหลาย เช่น เราโดนไป 96,000 พูดแต่ว่ารอคิว 3 ปีแล้ว , เลือกปฏิบัติ คนธรรมดาอย่างเรา ลงบันทึกประจำวัน ยังไม่อยากลงให้เลย ไล่ไปหาหลักฐานเองอีกต่างหาก , เจอมากับตัวเอง […]

...