ชัวร์ก่อนแชร์: DNA ตกค้างจากวัคซีน mRNA แทรกแซงพันธุกรรมมนุษย์ จริงหรือ?

26 มกราคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทาง X(Twitter) ในสหรัฐอเมริกา เมื่อ ดร.โจเซฟ ลาดาโป ผู้ดำรงตำแหน่ง Surgeon General ของรัฐฟลอริดา อ้างว่าในวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA มีดีเอ็นเอตกค้าง (residual DNA) ซึ่งจะเข้าไปแทรกแซงรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ จึงเห็นสมควรให้องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ประกาศยุติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA โดยทันที


บทสรุป :

  1. ดีเอ็นเอตกค้าง (residual DNA) มีในวัคซีนและยาหลายชนิด และไม่มีในปริมาณที่เป็นอันตราย
  2. ดีเอ็นเอตกค้างจากวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ไม่สามารถเข้าสู่นิวเคลียสของเซลล์เพื่อแทรกแซงรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ได้

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

จดหมายจาก โจเซฟ ลาดาโป ถึง FDA


เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2023 ดร.โจเซฟ ลาดาโป Surgeon General ของรัฐฟลอริดา ได้ส่งจดหมายไปยังองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA เนื่องจากมีงานวิจัยฉบับ Preprint ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 ที่พบว่า มีดีเอ็นเอตกค้าง (residual DNA) อยู่ในวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA

โจเซฟ ลาดาโป ชี้แจงว่า อนุภาคลิพิดซึ่งทำหน้าที่ลำเลียง mRNA เข้าสู่เซลล์ของผู้รับวัคซีน อาจจะทำหน้าที่นำพาเอาดีเอ็นเอตกค้างเข้าสู่เซลล์ของผู้รับวัคซีนเช่นเดียวกัน

โจเซฟ ลาดาโป แสดงความกังวลว่าดีเอ็นเอตกค้างจากวัคซีน อาจเข้าไปในนิวเคลียสของเซลล์ แล้วทำการแทรกแซงพันธุกรรม (DNA integration) จนเปลี่ยนให้เซลล์ปกติกลายเป็นเซลล์มะเร็ง รวมถึงการแทรกแซงเซลล์ระบบสืบพันธุ์ เช่น สเปิร์มและเซลล์ไข่ ซึ่งจะส่งผ่านไปยังลูกหลานของผู้รับวัคซีนอีกทอดหนึ่ง

นอกจากนี้ โจเซฟ ลาดาโป ยังอ้างคำแนะนำของ FDA เมื่อปี 2007 ที่เตือนถึงการแทรกแซงพันธุกรรมจากการใช้วัคซีนชนิด DNA มาก่อนหน้านี้

จดหมายจาก FDA ถึง โจเซฟ ลาดาโป

ในวันที่ 14 ธันวาคม ดร.ปีเตอร์ มาร์กส์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและประเมินทางชีวภาพของ FDA ได้เขียนจดหมายตอบกลับไปยัง ดร.โจเซฟ ลาดาโป เพื่อชี้แจงว่า คำแนะนำเกี่ยวกับการเฝ้าระวังการแทรกแซงพันธุกรรมจากการใช้วัคซีนชนิด DNA ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้วัคซีนชนิด mRNA เนื่องจากวัคซีนทั้งสองชนิดมีกระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกัน

วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA มีการใช้อนุภาคลิพิดในการลำเลียง mRNA เข้าสู่เซลล์ เมื่อ mRNA เข้าสู่บริเวณไซโทพลาซึมซึ่งอยู่ด้านนอกของนิวเคลียส จะถูกไรโบโซมทำการถอดรหัสให้กลายเป็นโปรตีนหนามของไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสหากเกิดการติดเชื้อในอนาคต

ส่วนวัคซีนชนิด DNA จะมีวิธีสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการใช้พลาสมิดเป็นเวคเตอร์ลำเลียง DNA เข้าสู่นิวเคลียสของเซลล์โดยตรง ต่างจากวัคซีนชนิด mRNA ที่กระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันไม่เกิดขึ้นในนิวเคลียสของเซลล์ จึงไม่มีความเสี่ยงที่ดีเอ็นเอตกค้างจากวัคซีนจะเข้าไปแทรกแซงพันธุกรรมเหมือนกับวัคซีนชนิด DNA ที่มีโอกาสเป็นไปได้

ดร.ปีเตอร์ มาร์กส์ ย้ำว่าคำเตือนของ FDA เมื่อปี 2007 เป็นคำเตือนความเสี่ยงทางทฤษฎีจากการใช้วัคซีนชนิด DNA ในสัตว์ทดลอง ไม่เกี่ยวข้องกับดีเอ็นเอตกค้างจากวัคซีนชนิด mRNA ที่ใช้ในมนุษย์แต่อย่างใด

ดีเอ็นเอตกค้างมีในวัคซีนหลายชนิดและไม่เป็นอันตราย

การผลิตวัคซีนแต่ละชนิดจำเป็นต้องใช้ DNA จากเซลล์เจ้าบ้าน (Host Cell) ในการผลิต ระหว่างการผลิตวัคซีนจะมีกระบวนการกำจัดดีเอ็นเอตกค้าง (residual DNA) ออกไปจากวัคซีน

อย่างไรก็ดี ดีเอ็นเอตกค้างเหล่านี้ยังคงพบได้ในวัคซีนหลายชนิด แต่มีอยู่ในปริมาณที่น้อยมากและไม่เป็นอันตรายต่อผู้รับวัคซีน

คิต ลองลีย์ โฆษกของบริษัท Pfizer เปิดเผยว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ดีเอ็นเอตกค้างปริมาณเล็กน้อยถูกพบในวัคซีนที่ผ่านการรับรองด้านประสิทธิผลและความปลอดภัย ทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนไวรัสตับอักเสบ

ดร.ปีเตอร์ มาร์กส์ ชี้แจงว่า ระหว่างการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA กับสัตว์ทดลอง ไม่พบว่าดีเอ็นเอตกค้างในวัคซีนส่งผลเสียต่อหน่วยพันธุกรรม (Genotoxicity) ของสัตว์ทดลอง นอกจากนี้ ปริมาณดีเอ็นเอตกค้างในวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ก็ยังต่ำกว่าค่ามาตรฐานสากลที่พบในชีววัตถุทั่วไปอีกด้วย

ดร.ปีเตอร์ มาร์กส์ ย้ำว่า หลังการฉีดให้กับประชากรโลกไปกว่าพันล้านโดส ยังไม่พบว่ามีผู้รับวัคซีนได้รับผลกระทบจากดีเอ็นเอตกค้าง (residual DNA) ในวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA แต่อย่างใด

ดีเอ็นเอตกค้างไม่แทรกแซงพันธุกรรมมนุษย์

ดร.พอล ออฟฟิต ศาตราจารย์ด้านกุมารเวชศาสตร์ ผู้อำนวยการศูนย์วัคซีนศึกษาจากโรงพยาบาล Children’s Hospital of Philadelphia ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบภูมิคุ้มกัน วัคซีน และโรคติดเชื้อ ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่ดีเอ็นเอตกค้างจากวัคซีนชนิด mRNA จะผ่านเข้าไปในนิวเคลียสของเซลล์ และทำการแทรกแซงพันธุกรรมมนุษย์ได้

ดร.พอล ออฟฟิต อธิบายว่า หากดีเอ็นเอตกค้างจากวัคซีนหลุดเข้าไปในเซลล์ ดีเอ็นเอตกค้างจะเข้าไปอยู่ในบริเวณไซโทพลาซึมซึ่งอยู่ล้อมรอบนิวเคลียสของเซลล์ บริเวณแห่งนั้นจะมีเอนไซม์นิวคลีเอสที่ชื่อว่า ดีออกซีไรโบนิวคลีเอส (DNase) ซึ่งทำหน้าที่ย่อยสลาย DNA แปลกปลอมที่เข้ามาอยู่ในเซลล์

โอกาสที่ดีเอ็นเอตกค้างที่เหลือจะผ่านเข้าไปในนิวเคลียส จำเป็นต้องมีปัจจัย 2 อย่างที่ทำให้เกิดขึ้น คือ ดีเอ็นเอตกค้างต้องสามารถผ่านเยื่อหุ้มนิวเคลียส (​Nuclear Membrane) เพื่อเข้าไปในนิวเคลียส ซึ่งการผ่านเยื่อหุ้มนิวเคลียสจำเป็นต้องใช้รหัสผ่าน ซึ่งดีเอ็นเอตกค้างไม่มีรหัสผ่านเหล่านี้

หากดีเอ็นเอตกค้างสามารถหลุดเข้าไปในนิวเคลียสของเซลล์ได้ ยังจำเป็นต้องใช้เอนไซม์ชนิด Integrase เพื่อทำให้รหัสพันธุกรรมของดีเอ็นเอตกค้างแทรกแซงรหัสพันธุกรรมของผู้รับวัคซีน (DNA integration) ซึ่งดีเอ็นเอตกค้างเหล่านี้ก็ไม่มีเอนไซม์ชนิด Integrase ที่ใช้ในการแทรกแซงรหัสพันธุกรรมเช่นกัน

ดร.พอล ออฟฟิต ย้ำว่า มีหลักฐานทางคลินิกมากมายที่ยืนยันความปลอดภัยของดีเอ็นเอตกค้างในวัคซีนชนิด mRNA และไม่น่าเชื่อว่า ดร.โจเซฟ ลาดาโป จะออกมาต่อต้านวัคซีนโควิด-19 ด้วยเหตุผลเช่นนี้

ประวัติการต่อต้านวัคซีนของ ดร.โจเซฟ ลาดาโป

ดร.โจเซฟ ลาดาโป ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง Surgeon General ของรัฐฟลอริดา โดย รอน ดีซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา เมื่อเดือนกันยายน 2021 และมีบทบาทสำคัญให้ฟลอริดาเป็นรัฐที่มีนโยบายต่อต้านวัคซีนโควิด-19 นับแต่นั้นเป็นต้นมา

โดยปี 2022 หน่วยงานสาธารณสุขฟลอริดาประกาศไม่แนะนำให้เด็กสุขภาพแข็งแรงที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปีฉีดวัคซีนโควิด-19

ในปีเดียวกันนั้น ดร.โจเซฟ ลาดาโป ไม่แนะนำให้ชายวัย 18-39 ปีฉีดวัคซีนโควิด-19 จากหลักฐานที่พบว่ามีสาเหตุนำไปสู่การเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย

ซึ่งมีการเปิดเผยภายหลังพบว่า เป็นรายงานที่ขาดความน่าเชื่อถือและยังพบว่า ดร.โจเซฟ ลาดาโป ลงมือแก้ไขรายงานด้วยตัวเองเพื่อให้วัคซีนโควิด-19 เป็นอันตรายมากกว่าความเป็นจริง

ในเดือนกันยายน 2023 ดร.โจเซฟ ลาดาโป คัดค้านการแนะนำวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับชาวเมืองที่อายุน้อยกว่า 65 ปี โดยเดือนตุลาคม ดร.โจเซฟ ลาดาโป วิจารณ์การแนะนำการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นว่าเป็นเรื่องไร้มนุษยธรรม และเขาไม่มีวันแนะนำให้ใครฉีดอย่างแน่นอน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/article/2024/jan/11/dna-fragments-in-mrna-covid-19-vaccines-wont-harm/
https://www.factcheck.org/2024/01/faulty-science-underpins-florida-surgeon-generals-call-to-halt-mrna-covid-19-vaccination/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]