ร้อง DSI รับกรณีตรวจสอบปมจัดซื้อ ATK-วัคซีน เป็นคดีพิเศษ

ดีเอสไอ 27 ส.ค. – ร้อง “DSI” รับกรณีตรวจสอบปมจัดซื้อชุดตรวจ ATK – วัคซีนซิโนแวค สมัยโควิด-19 ระบาดเป็นคดีพิเศษ


นายวรา จันทร์มณี เลขาธิการเครือข่ายประชาชนเข้มแข็ง เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีขอให้ตรวจสอบย้อนไปในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถึงความโปร่งใส ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการบริหารจัดการ และการใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนหลายหมื่นล้านบาท จัดซื้อชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ Antigen Test Kit (ATK) และวัคซีน Sinovac ของกรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายสมเกียรติ เพชรประดับ ผอ.ส่วนพิจารณาสำนวนร้องทุกข์ กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้แทนรับเรื่อง

เลขาธิการเครือข่ายประชาชนเข้มแข็ง กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ตรวจสอบการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 (Sinovac) และชุดตรวจ ATK ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมควบคุมโรค และรวมไปถึงหน่วยงาน โรงพยาบาลอื่น ๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงประเด็นอื่นที่เห็นว่าจะส่งเสริมการสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการภาครัฐ เนื่องด้วยจากปัญหาอุบัติภัยโควิด-19 ที่ผ่านมา มีคำถามจากสังคมถึงความโปร่งใส ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการบริหารจัดการ และการใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนหลายหมื่นล้านบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) และชุดตรวจ ATK นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่พรรคฝ่ายค้านในขณะนั้นได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค อาทิ 1.เรื่องส่วนต่างราคา มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการอนุมัติงบประมาณการจัดซื้อวัคซีนชิโนแวคในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อจริง ทำให้เกิดส่วนต่างมูลค่าหลายพันล้านบาท และตั้งคำถามว่าเงินส่วนต่างนี้ไปอยู่ที่ใด 2.เรื่องการจัดซื้อแบบพิเศษ มีการกล่าวหาว่ารัฐบาลเลี่ยงการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบปกติ และใช้ช่องทางพิเศษเพื่อให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้จัดซื้อ ซึ่งเป็นการจัดซื้อแบบเชิงพาณิชย์ ไม่ใช่แบบรัฐต่อรัฐ 3.เรื่องการขาดความหลากหลายของวัคซีน โดยฝ่ายค้านกล่าวหาว่ารัฐบาลพึ่งพิงวัคซีนชิโนแวคมากเกินไปและตัดสินใจช้าในการจัดหาวัคซีนชนิดอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น mRNA ซึ่งทำให้ประชาชนขาดทางเลือกในการรับวัคซีนที่มีคุณภาพ 4.เรื่องประสิทธิภาพของวัคซีน เพราะนอกจากประเด็นเรื่องราคาแล้ว ฝ่ายค้านยังตั้งคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น ๆ และประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 5.เรื่องการทุจริตและการเอื้อประโยชน์ มีการกล่าวหาว่าการจัดซื้อดังกล่าวอาจเข้าข่ายการทุจริตหรือเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง โดยมีการเปิดเผยข้อมูลที่อ้างว่าบริษัทชิโนแวคเคยมีประวัติการติดสินบนเจ้าหน้าที่ในต่างประเทศ


นายวรา กล่าวอีกว่า ในส่วนของชมรมแพทย์ชนบท ซึ่งอยู่หน้างานและมีบทบาทในช่วงสถานการณ์โควิดสูง ได้ตั้งคำถามต่อการบริหารจัดการของรัฐบาลในเรื่องต่าง ๆ เป็นระยะ คือ 1.เรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวคที่ต่ำกว่าวัคซีนชนิดอื่น ๆ เช่น ไฟเซอร์ หรือ แอสตราเซเนกา โดยเฉพาะในการป้องกันการติดเชื้อและลดความรุนแรงของโรคที่เกิดจากสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดอย่างหนักในขณะนั้น 2.เรื่องการจัดซื้อที่ล่าช้าและไม่หลากหลาย ชมรมแพทย์ชนบทได้วิจารณ์การตัดสินใจของรัฐบาลที่ไม่เข้า ร่วมโครงการจัดหาวัคซีน โคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นกลไกสากลที่ช่วยให้ประเทศต่าง ๆ สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียม โดยตั้งคำถามถึงการที่รัฐบาลมุ่งเน้นจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคและแอสตร้าเซเนกาเป็นหลัก โดยที่วัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นาเข้ามาอย่างล่าช้า 3.เรื่องการจัดการวัคซีนส่วนเกิน วัคซีนล้นคลัง และมีการกระจายวัคซีนที่ใกล้หมดอายุไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจำนวนมาก ทำให้เกิดคำถามว่าเป็นการนำวัคซีนไปทิ้งที่ปลายทางหรือไม่ แทนที่จะรวบรวมเพื่อนำไปทำลายอย่างถูกวิธี

นายวรา กล่าวอีกว่า ทั้งหมดนี้คือประเด็นตกค้างของสังคม จึงขอให้ทางดีเอสไอช่วยดำเนินการตรวจสอบและเชิญบุคคลที่มองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ และรวมไปถึงหากพบว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวข้องใด ก็ขอให้ดีเอสไอได้รับพิจารณาเป็นคดีพิเศษ ผ่าน 4 ประเด็นเบื้องต้น ดังนี้ 1.ราคาการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค และชุดตรวจ ATK ที่สูงเกินสมควร เมื่อเปรียบเทียบกับราคาตลาดและการจัดซื้อในช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับหน่วยงานอื่น 2.ประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค ซึ่งขณะนั้นมีข้อมูลว่ามีข้อจำกัดในการป้องกันการติดเชื้อ โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ แต่ยังมีการสั่งซื้อจำนวนมากในช่วงหลัง 3.กระบวนการคัดเลือกผู้จัดจำหน่ายวัคซีน และ ATK ขาดความโปร่งใส มีข้อสงสัยว่ามีการใช้อำนาจแทรกแซงทางนโยบาย หรือข้ามกลไกขององค์การเภสัชกรรม หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 4.การละเลยต่อคำเตือนของผู้เชี่ยวชาญและภาคประชาสังคม ซึ่งมีการแสดงเหตุผลทางวิชาการ และจุดยืนชัดเจนไม่เห็นด้วยกับคุณภาพของ ATK และประสิทธิภาพของวัคซีนในช่วงเวลาดังกล่าว

นายวรา กล่าวด้วยว่า ส่วนเหตุผลว่าทำไมจึงมายื่นขอให้ดีเอสไอตรวจสอบในช่วงนี้นั้น ก็ต้องยอมรับว่ามีความเกี่ยวข้องกับกรณีที่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท ถูกกระทรวงสาธารณสุขสอบวินัยร้ายแรงเรื่องการจัดซื้อชุดตรวจ ATK สมัยโควิด-19 ระบาด เพราะมันทำให้ตนคิดย้อนไปในช่วงนั้นว่า ในการจัดจัดซื้อยุคเดียวกัน แต่ละหน่วยงานมีการจัดซื้อในราคากี่บาท มีความโปร่งใสเหมือนกันหมดหรือไม่ เพราะในช่วงนั้นชมรมแพทย์ชนบทได้มีการตั้งคำถามว่าเหตุใดกรมควบคุมโรคมีการจัดซื้อจำนวนมาก แต่กลับใช้น้อย จนวันนี้ก็ยังไม่มีการตรวจสอบชัดเจน ตนจึงไม่เห็นที่จะพุ่งเป้าไปที่กรณีของ นพ.สุภัทร เพียงรายเดียว โดยถ้าหาก นพ.สุภัทร มีความผิดจริง ก็ต้องถูกลงโทษไปตามระเบียบวินัย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับ นพ.สุภัทร ส่วนเรื่องการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคเชิงลึกที่ตนอยากให้ตรวจสอบนั้น ก็ขอให้เป็นการพิจารณาของดีเอสไอต่อไป เพราะหน่วยงานตอนนั้นที่มีการจัดซื้อ ก็เกี่ยวกับกรมควบคุมโรค และ ยังมี รพ.อื่น ๆ ทั้งใน กทม. และปริมณฑล ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีอคติอะไรกับใคร เพราะตนเป็นภาคประชาชน ส่วนการตรวจสอบจะดำเนินไปถึงบุคคลใดนั้น ก็อยู่ที่ดีเอสไอ ซึ่งทางดีเอสไอก็แจ้งว่า จะนำเอาข้อมูลที่ตนยื่นในวันนี้เข้าสู่การพิจารณาต่อไป


ส่วนกรณีของ รมว.สธ. ที่ต้องติดตามวาระการประชุมนั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตนได้ทำเรื่องถึงคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เรียกผู้รับผิดชอบ ปลัด สธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเหตุผล และขอทราบข้อมูลที่มีการตัดสินให้ นพ.สุภัทร ออกจากราชการ แต่ขณะเดียวกัน ตนก็ต้องยื่นให้กับดีเอสไอเพื่อดำเนินการคู่ขนาน คาดว่าไม่น่าจะเกินเดือนที่ทางกรรมาธิการจะนัดประชุม ส่วนกรณีที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. ใกล้จะเกษียณแล้วนั้น ตนก็มีความกังวล แต่ไม่ใช่กังวลเรื่องที่ นพ.สุภัทร จะถูกไล่ออก แต่กลัวเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่จะไม่เป็นธรรมมากกว่า เพราะตอนนี้ ปลัด สธ. ยังอยู่ในอำนาจ ตนจึงเห็นด้วยที่ควรย้ายปลัด สธ. ออกไปก่อน และสังคมควรกังวลเรื่องการตรวจสอบข้าราชการคนหนึ่งอย่างไม่เป็นธรรม อย่าให้เป็นการกลั่นแกล้งและควรตรวจสอบให้ทั่วถึง. -119-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]