ชัวร์ก่อนแชร์: พบสัตว์น้ำกลายพันธุ์จากน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีของญี่ปุ่น จริงหรือ?

21 กันยายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


บทสรุป :

เป็นภาพสัตว์ป่วย สัตว์หายาก และภาพตัดต่อ ที่ถูกนำมาอ้างอย่างผิด ๆ ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการปล่อยน้ำบำบัดกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยอ้างว่าหลังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบการกลายพันธุ์ของสัตว์ทะเลจำนวนมาก พร้อมนำหลักฐานสัตว์กลายพันธุ์ที่พบใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบีลซึ่งเป็นผลจากการสัมผัสกัมมันตรังสีอีกด้วย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


จากการตรวจสอบโดย Fact Checker ในต่างประเทศยืนยันว่า ข้ออ้างเรื่องการพบสัตว์กลายพันธุ์จากกัมมันตรังสีเป็นการสร้างความเข้าใจผิด

สัตว์กลายพันธุ์จากฟูกูชิมะ ?

กุ้งที่มีขางอกจากหลัง

ภาพแรกที่ถูกแชร์คือภาพกุ้งที่มีขางอกออกมาจากเปลือกด้านหลัง ซึ่งการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า แท้จริงแล้วสิ่งที่เกาะอยู่หลังตัวกุ้งคือ เพรียงคอห่าน (Gooseneck Barnacles) เป็นเพรียงทะเลชนิดหนึ่ง มีเปลือกแข็ง อาศัยอยู่ตามโขดหินตามชายฝั่งทะเลหรือพบตามขอนไม้ที่ลอยมาติดชายหาด ดำรงชีวิตด้วยการดักจับแพลงก์ตอนในทะเลเป็นอาหาร การที่เพรียงคอห่านมาเกาะที่ตัวกุ้งพบได้ไม่บ่อยนัก แต่สามารถเกิดขึ้นได้

กุ้งมังกรหนัก 150 กิโลกรัม

ภาพที่ 2 ที่ถูกแชร์คือภาพการจับกุ้งมังกรขนาดมหึมาน้ำหนักกว่า 150 กิโลกรัม ซึ่งถูกแชร์ในต่างประเทศช่วงปลายเดือนสิงหาคม จนมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ทาง Weibo และ Line ของจีนอ้างว่ามีความเกี่ยวข้องกับการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ

แท้จริงแล้วภาพกุ้งมังกรยักษ์เกิดจากการดัดแปลงภาพด้วยเทคโนโลยี AI เมื่อพบว่าลักษณะทางกายภาพบิดเบี้ยวจากความเป็นจริงหลายจุด นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบด้วยเครื่องมือตรวจจับภาพ AI อย่าง Hive Moderation แล้ว พบว่ามีโอกาสเป็นภาพที่ถูกดัดแปลงภาพด้วยเทคโนโลยี AI ถึง 90%

ปลาหมาป่าไซส์ยักษ์

ภาพที่ 3 ที่ถูกแชร์คือภาพการจับปลาหมาป่าขนาดใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากการกลายพันธุ์เพราะการสัมผัสกัมมันตรังสีมากเกินปกติ

ปลาที่อยู่ในภาพคือปลาหมาป่า (Bering Wolffish) พบได้ในทะเลทางตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น เกาะฮอกไกโด ทะเลโอค็อตสค์ และอะแลสก้า

ปลาหมาป่าไซส์ยักษ์ถูกถ่ายเอาไว้ตั้งแต่ปี 2015 ขนาดของตัวปลาที่ยาวถึง 120 เซนติเมตร ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์นำไปเชื่อมโยงเกี่ยวกับการกลายพันธุ์เพราะกัมมันตรังสีมานับแต่นั้น

อย่างไรก็ดี ฮิราซากะ ฮิโรชิ ผู้จับปลาหมาป่าในรูปภาพและจบการศึกษาด้านชีววิทยาทางทะเล ยืนยันว่าปลาหมาป่าขนาดใหญ่สามารถพบได้ทั่วไปในทะเลแถบเกาะฮอกไกโด ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เกิดจากการกลายพันธุ์เพราะกัมมันตรังสีอย่างที่อ้าง นอกจากนี้ปลาหมาป่าไม่ใช่สัตว์หายากและมีอย่างชุกชุมในท้องทะเล การที่ปลาหมาป่าไม่เป็นที่รู้จักอาจเป็นเพราะรสชาติของเนื้อปลาไม่เป็นที่นิยมเหมือนปลาชนิดอื่น ๆ

สัตว์กลายพันธุ์จากเชอร์โนบีล ?

นอกจากนี้ ยังอ้างว่าใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบีลที่เกิดอุบัติเหตุแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ระเบิดเมื่อปี 1986 พบสิ่งมีชีวิตที่ดูแปลกประหลาดมากมายที่กลายพันธุ์เพราะได้รับกัมมันตรังสีจำนวนมหาศาล

สุนัขตาเดียว

ภาพที่ 4 ที่อ้างว่าเป็นสุนัขตาเดียวที่สัมผัสกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบีล แท้จริงแล้วคือภาพลูกแพะตาเดียว ที่ถ่ายได้ที่รัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย เมื่อปี 2017

ลูกแพะในภาพเกิดมาพร้อมกับอาการไซโคลเปีย (Cyclopia) ความผิดปกติทางสมองตั้งแต่กำเนิด ส่งผลให้หัวกะโหลกมีเบ้าตาเพียงแค่ข้างเดียว สิ่งมีชีวิตที่เกิดมาพร้อมกับอาการไซโคลเปียมักจะตายหลังจากลืมตาดูโลกไม่นาน ลูกแพะตาเดียวตัวนี้สามารถรอดชีวิตมาได้นานกว่าปกติ

แมลงกึ่งสัตว์กึ่งพืช

ภาพที่ 5 ที่อ้างว่าเป็นสิ่งมีชีวิตแยกไม่ออกว่าเป็นสัตว์กลายพันธุ์หรือหรือเป็นพืชกลายพันธุ์จนขยับได้ แท้จริงแล้วคือ พยาธิขนม้า (Horsehair Worm) พบในแมลงบางชนิด เช่น เต่าทอง แมลงสาบ ตั๊กแตน และสัตว์จำพวกครัสเตเชียนหรือกุ้งกั้งปู ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์

เอเลี่ยนห้อยหัว

ภาพที่ 6 ที่อ้างว่าเป็นสัตว์ประหลาดคล้ายเอเลี่ยนห้อยหัวอยู่ใต้สะพานในเมืองเชอร์โนบีล แท้จริงแล้วคือ เพรียงหูกระต่าย (Rabbit-Ear Barnacles) สามารถพบได้ทั่วไปในทวีปยุโรป แอฟริกา และประเทศนิวซีแลนด์

แม้งานวิจัยเมื่อปี 2011 จะพบว่า สัตว์ที่อาศัยอยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบีลมีอัตราการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมสูงกว่าปกติถึง 20 เท่า แต่การกลายพันธุ์ก็ไม่รุนแรงขนาดก่อให้เกิดสัตว์สายพันธุ์ใหม่ตามที่กล่าวอ้าง

นอกจากนี้ปริมาณกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบีลก็สูงกว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะถึง 10 เท่า

การกลายพันธุ์ที่เกิดจากการสัมผัสสารกัมมันตรังสี จำเป็นต้องใช้กัมมันตรังสีในปริมาณมากและใช้เวลาที่นานพอ ในกรณีน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ มีปริมาณสารกัมมันตรังสีอย่างทริเทียมหลงเหลือในน้ำเพียง 1,500 เบ็กเคอเรลต่อลิตร ซึ่งน้อยกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้มีในน้ำดื่มหลายเท่า (10,000 เบ็กเคอเรลต่อลิตร) จึงเป็นไปไม่ได้ที่สัตว์ทะเลจะสามารถกลายพันธุ์จากการสัมผัสกัมมันตรังสีในปริมาณน้อยและในเวลาอันสั้นเช่นนี้

ข้อมูลอ้างอิง :

https://tfc-taiwan.org.tw/articles/9530
https://tfc-taiwan.org.tw/articles/9582
https://www.snopes.com/fact-check/puerto-rico-lobster/
https://www.vice.com/en/article/4x3jpp/the-fish-that-was-wrongly-accused-of-being-affected-by-radiation
https://www.techarp.com/facts/radiation-mutant-creatures-facts/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-กลาง-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย