ภูมิใจไทย 23 ก.ย. – นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว เหตุเงื่อนเวลาไม่เอื้อ หวั่นกลับมาไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ไม่เสียโอกาสแจงเรื่องอธิปไตย เชื่อชาวโลกรู้ไทยมีนโยบายชัดเจน ยันร่างนโยบายปกน้ำเงินเสร็จแล้ว นำเข้า ครม.นัดพิเศษ พรุ่งนี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำโลก UNGA ครั้งที่ 78 ว่า ได้มีการหารือกับฝ่ายคนใหม่แล้ว ซึ่งจากการดูเวลา กลัวจะไม่ทันการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ทั้งนี้ก็จะมีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่สำคัญมีเรื่องของอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ด้วย ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ดี มีความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งไปได้และไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่ได้มีการลงนามในข้อตกลง แต่แนวทางของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลนี้เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นที่เรียบร้อย ก็มีความชัดเจนที่จะบริหารสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างไร
ส่วนจะเป็นการเสียโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าความเชื่อมั่นอยู่ที่การจัดการและการได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและกองทัพ ซึ่งความเชื่อมั่นอยู่ตรงจุดนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เวทีไหน เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ขณะที่ทุกฝ่ายในบ้านเรามีความพร้อม ประชาชนให้การสนับสนุนนโยบายต่างๆ นโยบายของกองทัพและรัฐบาล นี่ต่างหากคือความเชื่อมั่น
ส่วนกรณีที่กฤษฎีกาชี้ว่า หากมีเหตุที่จำเป็น ก็ถือว่าดำเนินการได้ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่าจำเป็นคืออะไร อย่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ไม่จำเป็นจะต้องชี้แจงกับใคร เพราะประชาคมโลกก็รับทราบสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีไม่ได้เดินทางไปจะส่งผลเสียต่อประเทศหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในแนวทางของรัฐบาลมีความชัดเจนอยู่แล้ว ประชาคมโลกหรือใครก็ตามก็ได้ติดตามข่าวสารแนวทางของรัฐบาลที่จะเข้ามาปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งวันนี้ต้องการแถลงนโยบายให้เรียบร้อยก่อน
ส่วนจำเป็นจะต้องทำหนังสือไปยังประชาคมโลกหรือไม่ เพราะฝ่ายกัมพูชาเองก็ได้มีการไปชี้แจงในวิธีดังกล่าวแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายกล่าวหาไทย มีการละเมิดตรงจุดนั้นจุดนี้ ซึ่งสามารถแถลงจากที่นี่ก็ได้ โดยการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการตีความต่างๆ มากมาย ที่สำคัญไปแล้วก็ไม่สามารถพูดได้เต็มที่ หากไปเจอคู่เจรจา แล้วมีการสอบถามว่าบริหารได้เต็มรูปแบบหรือไม่ ถ้าตอบว่าน่าจะเต็มรูปแบบ ก็จะเกิดความเสียเปรียบแล้ว ดังนั้นจึงต้องรอให้เรียบร้อยก่อนจึงจะไปคุย ซึ่งไม่จำเป็นต้องคุยที่วงดังกล่าวก็ได้ เพราะคู่กรณีมีไม่กี่ราย
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้หรือไม่ ถ้าแถลงนโยบายแล้ว จะมีการแสดงจุดยืนของรัฐบาลนี้ต่อการปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ามีความจำเป็นก็ต้องทำ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูในเวทียูเอ็นก่อน แต่สิ่งที่สำคัญก็ต้องเข้าไปบริหารราชการแผ่นดินให้เต็มรูปแบบ ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าเดินทางไป หากเกิดเครื่องบินดีเลย์ มีปัญหากลับมาแถลงนโยบายไม่ทัน ก็จะมีปัญหาอื่นๆ ตามมา ซึ่งขณะนี้กำลังประสานงานว่าจะแถลงนโยบายในช่วงวันที่ 29-30 กันยายนนี้ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา ส่วนตัวเห็นว่ายิ่งเร็วยิ่งดี
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ย.) ก็จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบร่างนโยบายของรัฐบาล หลังจากนั้นก็จะนำร่างส่งให้กับสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาได้มีเวลาศึกษาจำนวน 3 วัน เพื่อที่จะได้นำมาอภิปรายได้ ทางนี้ก็คล้ายๆ กับการแถลงนโยบายทุกครั้งที่ผ่านมา โดยที่วิปสามฝ่ายก็จะไปหารือกัน เพื่อทำข้อตกลงเรื่องของเวลาในการอภิปราย
ส่วนกรณีที่ทำให้เกิดดรามาว่า รัฐบาลให้อำนาจกองทัพในการตัดสินใจบริหารชายแดนไทย-กัมพูชา นายกรัฐมนตรี ตอบทันทีว่า ไม่ตอบเรื่องดรามา รอของจริง
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถูกบรรจุในนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาหรือไม่ ว่า เรื่องแก้รัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในข้อตกลง หรือ MOA อยู่แล้ว ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามนั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมีอยู่ด้วยในร่างแถลงนโยบาย วันนี้ก็จะมีการประชุมพรรคหารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ส่วนมีความกังวลเรื่องโมเดลสรรหา ส.ส.ร. หรือไม่ เพราะพรรคประชาชนเองก็ไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตามระบบ
ส่วนเรื่องการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เช่น ลดค่าทางด่วน จะมีในนโยบายหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอแถลงนโยบายก่อน
ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน เดินทางถึงที่ทำการพรรค พร้อมระบุว่า วันนี้มีการประชุมพรรคตามปกติ ส่วนที่มีกลุ่มแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนจะเข้ามาที่พรรคภูมิใจไทย ก็เป็นการมาพบกันตามปกติ.-314.-สำนักข่าวไทย