มทภ.1 แจงยิบพื้นที่ทัพภาค 1 ใช้หลัก 3 ยุทธช่วงปะทะชายแดน

สระแก้ว 22 ส.ค.- “แม่ทัพภาคที่ 1” เปิดใจครั้งแรก แจงยิบใช้หลัก 3 ยุทธ ในพื้นที่ทัพภาค 1 ช่วงรบไทย-กัมพูชา ยัน คำนึงถึงศักดิ์ศรีและรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพภาคหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงผลการประชุม RBC พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ชี้แจงปมต่างๆ ที่เป็นประเด็นข่าว 4 ประเด็น โดยยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 1 ใช้แผนที่ 1:50,000 เช่นเดียวกับกองทัพภาคที่ 2 แต่ลักษณะพื้นที่มีความแตกต่างกัน เพราะกองทัพภาคที่ 2 มีลักษณะภูมิประเทศเด่นชัด เป็นแนวเทือกเขาพนมดงรัก บางจุดมีหน้าผาชัดเจนเป็นป่าเขา ต่างกับพื้นที่ภาคที่ 1 ซึ่งเต็มไปด้วยชุมชนขนาดใหญ่ของทั้งสองฝั่ง ลักษณะดินต่อดิน ยกเว้นบางช่วงที่อาจเป็นแนวคลอง ได้แก่ คลองลึก ยืนยันว่าตลอดแนวหลักเขตตั้งแต่ 28-51 กำลังพลกองทัพภาคที่ 1 สามารถดูแลได้ทั้งหมด พร้อมได้ภาพสดจากกล้องและโดรน เพื่อให้สื่อมวลชนได้เห็นถึงกำลังพลที่รักษาหลักเขตทั้งหมด พลโท […]

เสียงบึ้มสนั่นปราสาทตาควาย คาดทหารกัมพูชาเหยียบระเบิดตัวเอง

21 ส.ค. – เมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ชาวบ้านได้ยินเสียงคล้ายระเบิด บริเวณปราสาทตาควาย หวั่นเกิดเหตุปะทะกันอีกรอบ กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจง คาดเสียงที่ได้ยิน เกิดจากทหารกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง กองทัพภาคที่ 2 โพสต์ชี้แจง ถึงข่าวสารในสื่อออนไลน์ ที่อ้างว่ากองกำลังฝ่ายกัมพูชา ยิงปืนใหญ่ใส่ฐานบริเวณปราสาทตาควายนั้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยในพื้นที่แล้ว ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เสียงระเบิดที่ประชาชนได้ยินสันนิษฐานว่า เกิดจากทหารกัมพูชาเหยียบกับระเบิด ที่ลักลอบวางไว้เอง บริเวณด้านหลังปราสาทตาควาย ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกต่อกระแสข่าวลือที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการของกองทัพภาคที่ 2 เพื่อป้องกันการสับสนและความเข้าใจผิด.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด

ทำเนียบ 20 ส.ค.-ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาเป็นของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด ขัดอนุสัญญาออตตาวา เตรียมยื่นหลักฐานศุกร์นี้ ย้ำพื้นที่บ้านหนองจาน​ จ.สระแก้ว​ เป็นอธิปไตยไทย​ 100% หลังปี​ 2518 ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามฆ่าล้าง​เผ่าพันธุ์​ แต่ไม่ยอมกลับ​ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม​ และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ประจำวันพุธที่ 20 สิงหาคม​ 2568 พลเรือตรี​สุร​สันต์​ กล่าวว่า​ สถานการณ์ชายแดนทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ ขณะที่การตรวจพบโทรศัพท์มือถือของฝ่ายกัมพูชา โดยกองทัพเรือ ได้พบหลักฐานสำคัญ​ ยืนยันว่าทหารกัมพูชา​ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN 2 บริเวณภูมะเขือ สืบเนื่องมาจากวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม​ กองทัพเรือ ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติการกู้ระเบิดและกวาดล้างในพื้นที่ภูมะเขือ​ จังหวัดศรีสะเกษ ของกองร้อยทหารราบที่ 132 กองพันที่ 13 ฐานเหนือเมฆ​ ได้ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว […]

“ผู้กองอะตอม” แจงภาพชี้นิ้วไล่ทหารกัมพูชา ไม่ได้ตึง แค่ “ตาแห้ง”

20 ส.ค. – “ผู้กองอะตอม” โพสต์ชี้แจงภาพชี้นิ้วไล่ทหารทหารกัมพูชา ยืนยันไม่ได้ตึง แต่กลัวตามคณะไม่ทัน และตาแห้ง พร้อมขอบคุณพี่ๆ ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถ กรณีโลกออนไลน์แห่แชร์ภาพของ “ผู้กองอะตอม” ร้อยเอกหญิง ปวิชญา วลีสุขสันต์ ตำแหน่งนายทหารล่าม กองการภาษาต่างประเทศ กรมข่าวทหาร และผู้ช่วยโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เผชิญหน้าและชี้นิ้วไล่ทหารกัมพูชาที่พยายามเข้ามาขัดขวางให้ถอยออกไป ขณะกองทัพไทยกำลังนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ลงพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี สร้างกระแสชื่นชม ล่าสุด วันนี้ (20 ส.ค.) เฟซบุ๊ก “Atomm Pavichaya” หรือ “ผู้กองอะตอม” ร้อยเอกหญิง ปวิชญา วลีสุขสันต์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า “ขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ ขอบคุณพี่ ๆ ตชด. ทหารพราน และพี่ ๆ ทหารทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มความสามารถค่ะ ความทุ่มเท ความเสียสละของทุกท่าน ไม่มีวันเสียเปล่าค่ะ ส่วนภาพชี้นิ้วเมื่อวาน ไม่ได้ตึงแต่อย่างใดค่ะ แค่กลัวตามคณะไม่ทันเฉย ๆ + […]

พล.อ.ณัฐพล​ เผย​ กต.เตรียมคลิปทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด ให้อนุกรรมการออตตาวา​

ทำเนียบ 20 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล​ เผย​ กต.เตรียมคลิปหลักฐานทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด ให้อนุกรรมการออตตาวา​ เร่งประสานญี่ปุ่น​ในฐานะประเทศปฏิบัติเข้ามา​ตรวจสอบ​ก่อนประชุมคณะใหญ่ปลายปี​ พลเอกณัฐ​พล​ นาคพาณิชย์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม​ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึงกรณี​ภายหลังจากทหารไทยพบโทรศัพท์ปริศนาที่ภูมะเขือ เมื่อเปิดออกดูก็พบภาพและคลิปของทหารกัมพูชากำลังฝังทุ่นระเบิด PMN-2 นอกจากนี้ในคลิปยังมีการพูดเป็นภาษาเขมร คล้ายกำลังสาธิตทุ่นระเบิด PMN-2 ว่าไทยจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในการฟ้องนานาชาติ​ ว่า​ เราจะทำ 2 อย่าง ในแง่ของนานาชาติเราจะเผยแพร่เพื่อให้สังคมโลกได้รับทราบว่าห้วงเวลาที่ผ่านมา​ แม้ว่ารัฐบาลกัมพูชา​จะแสดงความจริงใจในการหยุดยิง​ แต่กำลังพลหน้างานยังปฏิบัติการยั่วยุ​ ฝ่าฝืน ทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ถ้ารัฐบาลกัมพูชามีความจริงใจ ก็แสดงว่าทหารไม่มีวินัย ขณะนี้ตนมองอย่างนั้นก่อน แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่ารัฐบาลกัมพูชาไม่มีความจริงใจค่อยว่ากันอีกที ดังนั้นสิ่งที่ต้องดำเนินการในขณะนี้ คือต้องดำเนินการให้สังคมรับทราบทั้งในและต่างประเทศ พร้อมขอให้สื่อมวลชนเสนอข่าวให้ชัดเจนว่า คณะกรรมการอนุสนธิสัญญาออตตาวา​ คณะกรรมการใหญ่อยู่ที่กรุงเจนีวา ซึ่งไทยมีเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย​ ประจำสหประชาชาติ​ ณ​ นครเจนีวา​ ก็จะคอยติดตามขับเคลื่อน ซึ่งตนเคยบอกแล้วว่าจะมีการประชุมประจำปีในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม “แต่มีสื่อฯ บางสำนัก บอกให้รอเดือน พ.ย.- ธ.ค.​ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่อย่างนั้น นั่นคือกลไกหลัก แต่ขณะเดียวกันเรามีหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งตนรับทราบจากกระทรวงการต่างประเทศ ว่า คณะอนุกรรมการออตตาวา ก็ได้ขอหลักฐานมาเรื่อยๆ ดังนั้นกรณีที่พบหลักฐานเพิ่มเติม […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านเร่งสร้างบังเกอร์ หลังเหตุรื้อรั้วช่องอานม้า

อุบลราชธานี 6 ส.ค. – ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เร่งสร้างบังเกอร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไม่สงบตามแนวชายแดน หลังทหารกัมพูชารื้อรั้วลวดหนามบริเวณช่องอานม้า หลังจากเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ทหารไทยตรวจพบทหารกัมพูชา จำนวน 5 นาย เข้ามาตัดรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยวางไว้เป็นแนวเขต บริเวณตลาดช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงได้สั่งให้ทหารกัมพูชายกเลิกการกระทำดังกล่าวและให้ออกจากพื้นที่ จากนั้นทหารไทยได้เข้าดำเนินการกางรั้วหนามคืนสู่สภาพเดิม และตรึงกำลังในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ทีมข่าวเข้าไปสำรวจชาวบ้านที่อยู่ติดชายแดน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พบว่าเหตุการณ์ยังปกติ ซึ่งแต่ละหมู่บ้านมีชุด ชรบ. คอยออกตรวจตราอยู่ประจำ ส่วนใหญ่หมู่บ้านบริเวณนี้จะมีบังเกอร์ไว้หลบภัย ขณะที่บางหมู่บ้านยังไม่มี วันนี้ได้เร่งเสร้างบังเกอร์ขึ้นมา เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ นอกจากนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้าน พบว่าบางหมู่บ้านความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐยังเข้าไม่ถึง ทำให้ต้องดูแลกันเอง รวมถึงส่งเสบียงอาหารให้ทหารที่อยู่ตามแนวชายแดนด้วย สำหรับค่ำคืนนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรอฟังผลการประชุม GBC วันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ขณะที่มีชาวบ้านบางส่วนออกจากศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อกลับบ้านไปทำมาหากิน เนื่องจากอยู่ในช่วงกรีดยาง.-สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงทหารกัมพูชาตัดลวดหนาม “ช่องอานม้า” สั่งให้หยุด-ออกจากพื้นที่

5 ส.ค.- ทบ. แจงพบทหารกัมพูชา 5 นาย เข้ามาตัดลวดหีบเพลง บริเวณช่องอานม้า ทหารไทยสั่งให้หยุดและถอยไป ปัจจุบันลวดหีบเพลงกลับสู่สภาพเดิม ไทยยังคงตรึงกำลัง ทีมโฆษกกองทัพบก เผยเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 2310 ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชา 5 นาย เข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อพบเหตุการณ์ดังกล่าว ฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ทหารกัมพูชายุติการกระทำดังกล่าวและถอยออกจากพื้นที่ทันที ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ปฏิบัติตามโดยออกจากบริเวณดังกล่าว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของไทยได้ดำเนินการวางลวดหีบเพลงกลับคืนสู่สภาพเดิม ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลัง เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมสถานการณ์ทั่วไปยังคงปกติ -สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

ผู้เชี่ยวชาญแนะวิธีสังเกต “โดรน” ป้องกันสับสน

สุรินทร์ 5 ส.ค. – นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ยืนยันกลิ่นเหม็นเน่าในพื้นที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ขออย่าตื่นตระหนก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญแนะวิธีสังเกตโดรน ป้องกันความสับสน นักบินโดรนจิตอาสา สาธิตการขึ้นบินของโดรน และแนะนำการสังเกตความแตกต่างระหว่างเครื่องบิน หลังจากพบวัสดุต้องสงสัยคล้ายโดรนบินเหนือน่านฟ้า จ.สุรินทร์ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา รวมถึงการแจ้งผ่านสายด่วนความมั่นคง 1374 เป็นจำนวนมาก ซึ่งประชาชนรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย จ.สุรินทร์ จึงยกระดับป้องกัน ตรวจสอบ จับกุม โดยประสานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร รวมถึงภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในการบินโดรน ลงพื้นที่บูรณาการกับเจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เพื่อดำเนินการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศห้ามบินโดรนของกองทัพบก และสร้างความอุ่นใจให้ประชาชนในจังหวัด นักบินโดรนจิตอาสาให้ข้อมูลว่า หากพบวัตถุต้องสงสัยบนฟ้าให้สังเกตว่าถ้ามีไฟกะพริบสีเขียวและสีแดง 2 สีเท่านั้น ให้สันนิษฐานว่าคือโดรน และจดจำพิกัดที่พบเห็น ถ่ายภาพหรือวิดีโอและเวลาที่พบ แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD จากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจภูธร และศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC เข้าปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.พนมดงรัก หลังตรวจพบกระสุนปืนใหญ่ BM-21 จากฝั่งกัมพูชา ตกกระจายอยู่ในพื้นที่เพิ่มอีกถึง 181 […]

“สมศักดิ์” สั่งดูแลแจก N95 ประชาชน-จนท.ชายแดน

ทำเนียบ 5 ส.ค.-“สมศักดิ์” สั่งกรมอนามัย-กรมควบคุมโรค ดูแลแจก N95 ประชาชน-จนท.ชายแดน ป้องกันกลิ่นเหม็นจากศพทหารกัมพูชา ชี้กลิ่นไม่ก่อโรคแต่ทำวิงเวียนศีรษะ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงศพของทหารกัมพูชาที่ส่งกลิ่นเหม็นบริเวณชายแดนว่า ได้สั่งการให้กรมอนามัยและกรมควบคุมโรคเข้าไปดูแลปัญหาเรื่องของกลิ่น โดยจัดหน้ากากอนามัย N95 ให้กับเจ้าหน้าที่ทหารและผู้อพยพ เพราะหากเข้าไปใกล้หรือผู้อพยพเข้าไปอยู่ที่บ้านเร็วก็จะทำให้กลิ่นรบกวนการใช้ชีวิต แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้อพยพยังไม่ได้กลับบ้านตามคำสั่งของฝ่ายความมั่นคง นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตามปฏิกิริยาทางเคมีของซากศพที่เป็นสารประกอบที่ทำให้มีกลิ่นเหม็นไม่ได้ทำให้เชื้อโรคอะไร แต่จะทำให้วงเวียนศีรษะและมีปัญหาตามมาสำหรับบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพอนามัยหรือแพ้กลิ่น การป้องกันโดยสวมหน้ากาก N95 หรือใช้น้ำยาที่เป็นสเปรย์ดับกลิ่น ก็จะช่วยบรรเทาได้ ซึ่งจะสาธารณสุขและสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางเพราะปัญหาคือเราไม่สามารถเข้าไปจัดการในพื้นที่ของกัมพูชาได้ ส่วนเรื่องของโรคระบาดอื่นๆ ยังไม่มีอะไรน่ากังวล.-316.-สำนักข่าวไทย

กองทัพบก เปิดพื้นที่ให้คณะ ICRC เข้าเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชา

กทม. 5 ส.ค.-กองทัพบก เปิดพื้นที่ให้คณะ ICRC เข้าเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชา ตามขั้นตอนสากล ยืนยันยึดหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 กองทัพบก ได้ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ อำนวยความสะดวกให้แก่คณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานภูมิภาคคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) ประจำกรุงเทพฯ ในการเข้าเยี่ยมเชลยศึกชาวกัมพูชาจำนวน 18 นาย ณ สถานที่ควบคุมตัวในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 โดย ICRC ถือเป็นหน่วยงานด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ดูแลเรื่องเกี่ยวกับเชลยศึกโดยตรง ปฏิบัติงานตามหลักสากลด้วยความมีมาตรฐาน เป็นกลาง และเป็นที่ยอมรับของนานาชาติการเข้าเยี่ยมในครั้งนี้เป็นไปตามขั้นตอนปกติของหน่วยงาน ICRC ไม่ได้เข้ามาตรวจสอบตามข้อเรียกร้องของฝ่ายกัมพูชาที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใดมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบสภาพความเป็นอยู่ของเชลยศึก และเป็นช่องทางในการติดต่อกับครอบครัว อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความเคารพและยึดมั่นของประเทศไทยในการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพันธกรณีตามอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 ที่ประเทศไทยเป็นภาคี ตลอดจนเน้นย้ำถึงความโปร่งใสในการดำเนินงาน การดูแลเชลยศึกด้วยศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติสากลที่เกี่ยวข้อง ในโอกาสนี้ กองทัพบกได้เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ ICRC เข้าพบและพูดคุยกับเชลยศึกอย่างอิสระโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา พร้อมทั้งจัดให้มีการตรวจสุขภาพ เพื่อยืนยันว่าไม่มีการซ้อมทรมานหรือการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ตามที่มีการกล่าวอ้างในบางสื่อ ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงแต่อย่างใด นอกจากนี้ […]

1 2 3 7
...