เร่งกู้ข้อมูล รพ.สระบุรี หลังถูกแฮกเรียกค่าไถ่

สระบุรี 10 ก.ย. – กรณีโรงพยาบาลสระบุรี ถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) เจาะระบบและเรียกค่าไถ่เป็นบิทคอยน์ คิดเป็นเงินไทยราว 63,000 ล้านบาท ล่าสุดหลายฝ่ายกำลังเร่งกู้ข้อมูลให้กลับมาใช้งานได้


ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่โรงพยาบาลสระบุรี หลังเกิดเหตุมัลแวร์จากแฮกเกอร์นิรนามเจาะฐานข้อมูลระบบสารสนเทศเพื่อเรียกค่าไถ่ ทำให้แพทย์และพยาบาลทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา

สำหรับปฏิบัติการกู้คืนระบบสารสนเทศของโรงพยาบาลสระบุรี ได้รับความช่วยเหลือจากทั้งกระทรวงดิจิทัลฯ ที่จัดส่งทีมไซเบอร์เข้ามาพักค้างคืนแก้ไขปัญหา รวมถึงตำรวจ ปอท. และพันธมิตรจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการประชุมและวิเคราะห์ รวมถึงตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อหาข้อมูล คาดว่า 2 สัปดาห์ จะสามารถหาต้นตอของมัลแวร์ชนิดนี้ได้ รวมถึงพัฒนามาตรการป้องกันในอนาคต


ผอ.โรงพยาบาลสระบุรี ระบุจากการสอบถามข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ พบว่าเป็นการสุ่มเข้ามาโจมตี ไม่ใช่เลือกเจาะจงแฮกข้อมูลโรงพยาบาลสระบุรี ส่วนกรณีมีการติดต่อเข้ามาเรียกค่าไถ่หรือไม่นั้น ผอ.โรงพยาบาลสระบุรี ระบุว่ามีตัวแทนกำลังดำเนินการอยู่

ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งโรงพยาบาลในสังกัดเร่งสำรองข้อมูลเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และเตรียมของบประมาณ 1,900 ล้านบาท เพื่อวางระบบข้อมูล ทำให้ทุกโรงพยาบาลในสังกัดใช้งานระบบเดียวกัน เพื่อเป็น National Health Platform คาดว่าภายใน 1-2 ปีจะชัดเจน

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นกับโรงพยาบาลสระบุรีไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เกิดขึ้นมาเป็นระยะในช่วงหลายปีทั่วโลก โดยเฉพาะแรนซัมแวร์ชื่อว่า “WannaCry” ซึ่งทำให้คอมพิวเตอร์นับแสนเครื่องติดมัลแวร์ตัวนี้ สำหรับการถูกมัลแวร์เล่นงานส่วนใหญ่เกิดจากการคลิกลิงก์ หรือดาวน์โหลดไฟล์ที่แนบมาในอีเมล และเมื่อเปิดไฟล์ดังกล่าวจะทำให้ข้อมูลถูกเข้ารหัสเพื่อเรียกค่าไถ่จากการปลดล็อกข้อมูล โดยส่วนใหญ่ใช้บิทคอยน์หรือคริปโตเคอเรนซีตระกูลอื่นๆ


สำหรับวิธีป้องกันที่ได้ผลดีที่สุดคือ หากได้รับอีเมลที่ไม่รู้จักไม่ควรคลิกเปิดอ่าน หรือลบทิ้งทันที รวมถึงให้สังเกต URL ปลายทาง หากเป็นเว็บแปลกปลอมไม่ควรกดเข้าไป รวมถึงการสำรองข้อมูลเป็นระยะจะช่วยได้อีกทาง หรือการใช้ระบบปฏิบัติการและโปรแกรมที่ถูกลิขสิทธิ์จะช่วยป้องกันทางอ้อมได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

สอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการไชน่า เรลเวย์ฯ ปฏิเสธทุกข้อหา

ดีเอสไอสอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อหา อ้างเป็นผู้แทนรัฐวิสาหกิจจีนมาลงทุนในไทย ถูกส่งมาบริหารบริษัทในไทยเท่านั้น

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัว กินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม