สุรินทร์ 24 ส.ค.- ผู้เสียหายเข้าร้องขอความช่วยเหลือทางคดีกับยุติธรรมจังหวัด หลังกลัวว่าผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหาทำอนาจารหลานสาวตัวเอง จะวิ่งเต้นล้มคดี เพราะรู้จักผู้ใหญ่ในจังหวัดมาก ด้านชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ออกตามหาผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว หลังนายอำเภอเรียกให้มาสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ยังไร้วี่แวว
ความคืบหน้ากรณีสาววัย 35 ปี ลูกบ้านหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.สนม จ.สุรินทร์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สนม ว่าเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ถูกนายสามารถ ผู้ใหญ่บ้านใน ต.แคน ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา กระทำอนาจารจนมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย ทั้งบริเวณหน้าอก แขน ไหล่ แผ่นหลัง และแก้ม หลังจากไปร่วมนั่งดื่มเบียร์จนเมา ซึ่งวานนี้ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ล่าสุดตั้ง 2 ข้อหา กระทำอนาจาร และทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งผู้ใหญ่ให้การปฏิเสธ พร้อมขอสู้คดีในชั้นศาลต่อไป
วันนี้ หญิงผู้เสียหายเข้าพบนายวิโรจน์ ประคองใจ นักวิชาการยุติธรรม จ.สุรินทร์ สาขา อ.รัตนบุรี เพื่อขอคำปรึกษาด้านข้อกฎหมาย การช่วยเหลือเยียวยาทางคดี หลังยังรู้สึกไม่สบายใจ และกลัวว่าผู้ใหญ่บ้านจะวิ่งเต้นล้มคดี เพราะรู้จักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคน ยืนยันข่าวที่ให้ไปเป็นไปตามข้อเท็จจริง ไม่มีบิดเบือน หรือโกหก แต่มาเสียความรู้สึกกับคอมเมนต์ในสื่อออนไลน์ กล่าวว่า ทำไปเพราะอยากดังบ้าง อยากได้เงินบ้าง และจะเดินทางไปร้องศูนย์ดำรงธรรมให้ดำเนินการกับผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด ถึงแม้ว่าตนเองจะจน แต่ไม่เคยหวังผลอย่างอื่น ที่มาคบมาดื่มด้วย เพราะคนรู้จักกันเคารพ แต่มากระทำแบบนี้มันสวมควรแล้วหรือ
ผู้ใหญ่บ้านฉาวยังล่องหน หลังนายอำเภอเรียกสอบ
ด้านภรรยาผู้ใหญ่บ้านเปิดเผยสั้นๆ ว่า ไม่ทราบว่าสามีของตนเองหายไปไหน ยังตามตัวไม่เจอเช่นกัน
ด้าน น.ส.วันเพ็ญ หาญเสมอ นายอำเภอสนม ผู้บังคับบัญชาของผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า วันนี้ได้มอบปลัดอำเภอที่รับผิดชอบงานเรื่องวินัยของกำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับนายสามารถ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถติดต่อนายสามารถได้ จึงให้ชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ออกไปตามหาตัว มาเพื่อมาสอบสวนข้อเท็จจริงอีกด้าน แต่ก็ยังไม่พบตัว ส่วนผู้เสียหายเดินทางมาให้ข้อมูลเบื้องต้นแล้วเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ หากตามตัวพบ และการสอบสวนพบว่ามีความผิดจริง จะเสนอผู้ว่าตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป โดยพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
จากนั้นผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านอาหารชื่อ “ร้านยายนาตาเฒ่า” ตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านของผู้ใหญ่บ้านศรีสำโรง ม.13 ต.แคน อ.สนม เจ้าของร้าน คือ นายสุธิพงษ์ ปัสสารี เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุเห็นทั้ง 2 คน ดื่มเหล้ากันปกติ จนถึงประมาณ 16.00 น. ผู้ใหญ่จึงขับรถออกไปเอาเหล้ามา สักพักผู้เสียหายโทรตามเพื่อนมานั่งเป็นเพื่อน มาทานข้าวไม่ได้ดื่มเหล้า จากนั้นผู้ใหญ่ก็ชวนไปธุระ โดยได้ยินไม่ชัดเจนว่าไปไหน จากนั้นก็ขึ้นรถไปด้วยกัน 3 คน ซึ่งผู้ใหญ่เป็นลูกค้าประจำ ส่วนฝ่ายหญิงก็เป็นลูกค้าประจำเหมือนกัน แต่ไม่สนิทสนมจนรู้จักนิสัยใจคอว่าเป็นอย่างไร และไม่รู้ว่าทั้งคู่สนิทกันมากแค่ไหน.-สำนักข่าวไทย