วอชิงตัน 18 เม.ย.- ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า หากประเทศใดไม่ยอมทำข้อตกลงในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ สหรัฐก็จะเป็นฝ่ายทำข้อตกลงให้เอง
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวระหว่างให้การต้อนรับนางจอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลีว่า หากประเทศใดไม่ต้องการทำข้อตกลงในการเจรจากับสหรัฐ สหรัฐก็จะเป็นฝ่ายทำข้อตลงให้กับประเทศเหล่านี้เอง เพราะเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี สหรัฐต้องการฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายและพร้อมที่จะให้ความยุติธรรมกับทุกประเทศ
และเมื่อถูกสื่อถามเรื่องนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางหรือเฟดวิพากษ์วิจารณ์นโยบายกำแพงภาษีของเขาว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้เกิดความไม่แน่นอน และอาจฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะชะงักงันและเงินเฟ้อสูงขึ้น ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า นายพาวเวลล์ตัดสินใจช้าเกินไปและไม่ยอมลดดอกเบี้ยทั้งที่ควรลด หากเขาบอกให้ลาออก นายพาวเวลล์ก็จะต้องออก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า นายทรัมป์มีอำนาจที่จะปลดนายพาวเวลล์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีและรับรองโดยวุฒิสภาหรือไม่ นายพาวเวลล์ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเมื่อปี 2561 โดยนายทรัมป์ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก และได้รับการต่ออายุสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนเมื่อปี 2564 เขายืนยันว่า ไม่มีแผนจะลาออกก่อนครบวาระในเดือนพฤษภาคมปีหน้า

ส่วนในการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ส่งสัญญาณว่า อาจจะยุติการขึ้นภาษีตอบโต้กับจีน หลังจากตั้งกำแพงภาษีกับจีนไปจนถึงร้อยละ 245 ด้วยการกล่าวว่า ไม่ต้องการให้สินค้ามีราคาสูงขึ้นไปอีกเพราะเมื่อราคาแพงขึ้นถึงจุดหนึ่งประชาชนก็จะไม่ซื้อสินค้าแล้ว เขากล่าวว่า จีนได้ติดต่อมาและแสดงความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงกันได้ แต่ก็ปฏิเสธที่จะบอกว่าการเจรจากับจีนจะเป็นไปในรูปแบบใด และจะมีการพบปะกันโดยตรงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนหรือไม่.-816(814).-สำนักข่าวไทย