ตร.-ผอ.รพ.แจงวิสามัญผู้ป่วยคลั่ง ทำตามยุทธวิธี

สุรินทร์ 5 ม.ค.- ตำรวจ-รพ. แถลงเหตุวิสามัญผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ คลั่งกลาง รพ.สุรินทร์ ตำรวจแจงทำตามยุทธวิธี แต่ผู้ป่วยมีอาการคลั่ง ไม่สงบ จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อระงับเหตุ ด้าน รพ. เผยเหตุดังกล่าวเกือบเสียคนไข้อีกคน ส่วนกล้องวงจรปิด พบว่าใช้การไม่ได้ อยู่ระหว่างการเปลี่ยน

ความคืบหน้ากรณีนายอภิชัย อายุ 26 ปี เข้ารับการรักษาโรคไส้ติ่งอักเสบ ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ และนอนพักฟื้นอยู่ภายในห้องผู้ป่วยรวม ก่อนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาด ใช้ขวานจากอุปกรณ์ดับเพลิง และเสาน้ำเกลือ ไล่ทำร้ายพยาบาล ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย และทรัพย์สินทางราชการ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย เจ้าหน้าที่แจ้งตำรวจเข้าระงับเหตุตามยุทธวิธี แต่ก็ไม่เป็นผล จนท้ายที่สุดตำรวจใช้อาวุธปืนยิง จนเป็นเหตุให้นายอภิชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา


ขณะที่ครอบครัวผู้ตายยังติดใจ เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ทำไมต้องถึงขั้นวิสามัญ เพราะผู้ตายไม่ได้ฆ่าใครตาย ไม่ได้ทำร้ายผู้ป่วย แค่ทำลายข้าวของ พร้อมร้องขอดูกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุด้วย ระหว่างเกิดเหตุตนเองก็ไม่เห็น จึงต้องการขอดูกล้องวงจรปิด เพื่อคลายข้อข้องใจ

เวลา 14.00 น. วันที่ 4 ม.ค.68 ที่ห้องประชุม สภ.เมืองสุรินทร์ พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ พร้อม นพ.ชวมัย สืบนุการณ์ ผอ.โรงพยาบาลสุรินทร์ และบุคลากร โรงพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์ ร่วมประชุมเพื่อสอบสวน ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก่อนที่จะแถลงความคืบหน้าคดีดังกล่าว เบื้องต้น พล.ต.ต.สุคนธ์ บอกว่า หลังได้รับแจ้งเหตุ สายตรวจเข้าไปยังที่เกิดเหตุ รพ.สุรินทร์ โดยส่วนหนึ่ง ไปยังอาคาร 9 อีกส่วนไปยังอาคาร 11 ชั้น 1 ตึกจิตเวช โดยที่ชั้น 9 พบผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งอาละวาด ในมือมีขวาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ผจญเพลิง ถืออาวุธที่มือด้านขวา มือด้านซ้ายถือเสาสายน้ำเกลือ สายตรวจได้ดำเนินการตามยุทธวิธี ตั้งแต่เจรจาให้วางอาวุธ แต่ไม่เป็นผล ผู้ก่อเหตุยังอยู่ในอาการที่คลุ้มคลั่ง และ ตรงเข้ามาหาสายตรวจทั้ง 2 นาย ซึ่งจริงๆ แล้วมีสายตรวจยืนแบ็คอัพข้างหลังอีก 2 นาย มีเจ้าหน้าที่ รปภ.และหัวหน้าตึกอยู่ที่ด้านหลังอีก 20 คน โดยผู้ก่อเหตุได้ตรงเข้ามาหาสายตรวจ แล้วจะใช้อาวุธทำร้าย


ตำรวจจึงถอยแล้ว ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงลงพื้นก่อน 1 นัด เพื่อให้ชายที่คลุ้มคลั่งหยุด แต่ปรากฏว่าผู้ป่วยก็ยังไม่หยุด จึงได้ตัดสินใจยิงเข้า ที่บริเวณขา 1 นัด แล้วไล่มาโดนแขน 1 นัด สุดท้ายก็มาที่ลำตัวอีก 1 นัด จนล้มลง จากนั้นตำรวจจึงเข้าควบคุมและช่วยปฐมพยาบาล แต่ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตในเวลาต่อมา ยืนยันเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุ จำเป็นจะต้องใช้อาวุธระงับยับหยั่งภัยอันตราย เพราะเป็นขวานขนาดใหญ่ ก่อนหน้านั้นผู้ก่อเหตุพยายามเข้าไปทำร้ายคนป่วย ซึ่งในชั้นนั้น มีผู้ป่วยอยู่จำนวนมาก แล้วยังเป็นผู้ป่วยสูงอายุ 80 ปี และติดเตียงอยู่ด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดำเนินการในกรณีดังกล่าว โดยแบ่งเป็น 3 สำนวน คือ สำนวนชันสูตรพลิกศพ สำนวนคดีวิสามัญฆาตรกรรม ดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เป็นคนยิง ผู้ป่วย ในข้อหาฆ่าผู้อื่น ซึ่งตำรวจให้การว่า เป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่ ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตก็ต้องตกเป็นผู้ต้องหาด้วย คดีนี้มีการตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ด้าน ผอ.รพ.สุรินทร์ บอกว่าเรื่องดังกล่าว ปลัดกระทรวง และ รพ. รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ผู้ป่วยรายดังกล่าว ส่งต่อมาจาก รพ.อำเภอจอมพระ ด้วยอาการไส้ติ่งอักเสบ ผู้ป่วยที่มีรูปร่างสูงใหญ่ การผ่าตัดเมื่อวันที่ 3 ม.ค. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แล้วให้พักที่อาคารศูนย์รวมก่อน รู้สึกตัวดี ให้อาหารได้ กระทั่งช่วงเที่ยงได้รับรายงานว่าผู้ป่วยมีอาการสับสน พูดไม่รู้ จึงได้ย้ายผู้ป่วยมาอยู่ข้างๆ เคาท์เตอร์พยาบาลด้านหน้า เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด และแพทย์ให้ยาระงับอาการ เพื่อให้ผู้ป่วยสงบลง แต่ก็ยังไม่สงบ กระทั่งผู้ป่วยลุกดึงสายน้ำเกลือออก คว้าเสาน้ำเกลือเดินออกไปทำร้ายบุคลากรและคนไข้ จึงแจ้ง รปภ. 20 นาย มาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาช่วยระงับเหตุ ทั้งนี้ผู้ป่วยมีประวัติติดสุรา


ส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้น มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องมือแพทย์ เครื่องตรวจคลื่นหัวใจ กระจกห้องแพทย์ กระจกห้อง ล้างเครื่องมือ อุปกรณ์ถังดับเพลิง ฯลฯ ที่สำคัญเราเกือบจะเสียคนไข้ที่ใส่ท่อช่วยหายใจ ดีที่เขาไม่ทำ แต่หลังเกิดเหตุ ผู้ป่วยเสียเลือดมาก ทำให้เสียชีวิต ยืนยัน รพ. ได้ทำตามแนวทางที่ได้กำหนดอย่างเต็มที่แล้ว

กรณีที่ญาติของดูกล้องวงจรปิด ผอ.โรงพยาบาล บอกว่า กล้องอยู่ระหว่างการเปลี่ยนจึงไม่สามารถใช้การได้ แต่เรามีเจ้าหน้าที่ รพ. ที่เป็นประจักษ์พยาน มีคนไข้ ญาติคนไข้อีกหลายคน ที่เห็นเหตุการณ์ ส่วนการดูแลเยียวยา ผู้บริหารโรงพยาบาล จะเข้าไปดูแลจิตใจของทางญาติ ส่วนการเยียวยาด้านอื่นๆ อยู่ระหว่างดำเนินการ และวันนี้ (5 ม.ค.) เป็นวันฌาปนกิจ ตนเองก็จะไปร่วมงานด้วย นอกจากนี้จะต้องเยี่ยวยาบุคลกรทางการแพทย์ที่อยู่ในเหตุการณ์เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

ราชทัณฑ์เปิดภาพผ้าเช็ดตัว-ผังห้องขังหมายเลข 50

กรมราชทัณฑ์ เปิดภาพและขนาดผ้าเช็ดตัวที่จัดสรรแจกให้ผู้ต้องขังชาย-หญิง ในเรือนจำ พร้อมข้อมูลแดน 5 และผังห้องขังหมายเลข 50

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย