18 เม.ย. – ดีเอสไอ-โยธาฯ ประชุมลับ ตรวจเอกสารหลังเข้าค้นกิจการร่วมค้า 4 บริษัท ด้านวิศวกร 2 คน ขอให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัว
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยว่าการตรวจค้นเมื่อวาน 4 จุด เจ้าหน้าที่สามารถยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และฮาร์ดดิส และเอกสารต่างๆ เพื่อมาตรวจสอบพยานหลักฐานโครงการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับอาคาร สตง. รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับตัวนายบินลิง วู ที่ดีเอสไอมีเหตุต้องสงสัยว่าอาจมีพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับบริษัทไชน่าเรลเวย์ฯ จึงได้เข้าตรวจค้น ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนรวมถึงเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการฯ อยู่ระหว่างพิจารณาและตรวจสอบพยานหลักฐานดังกล่าว
ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบเอกสารพบรายชื่อวิศวกร 51 คน โดยในจำนวนนี้มีนายสมเกียรติ และนายชัยฤทธิ์ ที่เข้ามาแสดงตัวแล้ว โดยวันนี้นายชัยฤทธิ์ ก็เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน ซึ่งในรายละเอียดยังไม่ทราบว่ามีการแอบอ้างชื่อหรือปลอมลายเซ็นด้วยหรือไม่ แต่ทราบว่ามีประเด็นถูกพาไปถ่ายรูปรวมหน้าตึก สตง.
ส่วนวิศวกรรายใหม่อีก 2 คน ที่ดีเอสไอเชิญมา ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ยืนยันว่าวิศวกรและผู้เกี่ยวข้องทุกคนจะต้องเรียกมาสอบปากคำทั้งหมด เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่ามีการควบคุมงานจริงหรือไม่ มีใครเป็นวิศวกรในโครงการนี้จริงบ้าง แล้วจึงจะขยายผลไปได้ว่ามีการปลอมลายเซ็นหรือไม่ กระบวนการทำงานถูกต้องหรือไม่
ส่วนกรณีของนายพิมล อายุ 85 ปี ที่ปรากฏรายชื่อว่าเป็นผู้ออกแบบอาคาร สตง.นั้น พนักงานสอบสวนได้ไปพบตัวแล้ว และพบว่าเจ้าตัวมีอาการป่วยจริงๆ โดยเจ้าตัวยังได้ขอเวลาในการเตรียมเอกสารมาให้การ คาดว่าจะเป็นช่วงสัปดาห์หน้า
พ.ต.ต.วรณัน ยืนยันว่าผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบริษัท อิตาเลี่ยนไทยฯ ที่เลื่อนไป หรือตัวนายปฏิวัติ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จะต้องเรียกตัวมาสอบปากคำ โดยพนักงานสอบสวนได้ทำตารางนัดหมายพยานไว้เรียบร้อยแล้ว หรือหากตำรวจ สน.บางซื่อ มีการเรียกสอบปากคำนายปฏิวัติในวันที่ 21 เมษายนนี้ ดีเอสไอก็อาจไปสอบปากคำด้วยก็ได้
สำหรับภาพรวมคดีที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษนั้น คดีนอมินีขณะนี้คืบหน้าไปกว่า 50% แล้ว และหลังจากนี้เป็นกระบวนการพิจารณาว่าหลักฐานพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลใดหรือไม่ เพราะเป็นคดีหลักคดีแรกที่ดีเอสไอรับผิดชอบ
ส่วนคดีที่ทำคู่ขนานก็จะมีทั้งคดีการฮั้วประมูลซึ่งขยายผลออกมา ซึ่งองค์ประกอบความผิดคดีฮั้วประมูลมีหลายเรื่อง เช่น การที่ทำให้การแข่งขันราคาไม่เป็นธรรมโดยใช้กลอุบายไปฟันราคา เพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาแล้วไปลดค่างานหรือการดำเนินการอย่างอื่นเพื่อลดค่าใช้จ่าย ก็เข้าข้อกฎหมายนี้ได้เหมือนกัน และการเรียกสอบวิศวกรผู้คุมงาน ก็เป็นการสืบสวนในคดีฮั้วประมูลนี้
นอกจากนี้ก็ยังมีคดีเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง เหล็กเส้นที่ตกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ สมอ. ที่หากพบความผิด เจ้าหน้าที่ สมอ.ก็จะมาร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นอีก 1 คดี และคดีสุดท้ายที่ดีเอสไอตรวจสอบ คือกรณีที่บริษัทที่ขายเหล็กให้กับโครงการ มีการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารภาษีที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ พ.ต.ต.วรณัน ยังยืนยันด้วยว่าไม่กังวล แม้จะมีกระแสข่าวว่าคนที่แก้ไขแบบอาคาร สตง. มีความเกี่ยวกับกับผู้หลักผู้ใหญ่ใน สตง. โดยบอกว่าเรื่องนี้สปอร์ตไลท์ของสังคมค่อนข้างเยอะ ไม่น่าจะมีปัญหา และดีเอสไอรับคดีขนาดใหญ่ ทำงานเป็นรูปแบบคณะกรรมการ เรื่องนี้จึงไม่เป็นประเด็น
ส่วนที่ ดีเอสไอ พนักงานสอบสวนได้เรียกวิศวกร 2 คน คือ นายสราวุฒิ และอีกหนึ่งคนยังไม่ทราบชื่อ จาก 51 คน เข้ามาให้ข้อมูล ที่ห้องประชุมกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ โดยประเด็นที่จะประชุมกันในวันนี้ คือการนำเอกสารที่ไปตรวจยึดจากการเข้าค้นกิจการร่วมค้า 4 บริษัท มาตรวจสอบเพื่อหาพยานหลักฐานอื่น ส่วนวิศวกร 2 คน ที่มีการเรียกให้ข้อมูลนั้นทางพยานต้องการให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัว พนักงานสอบสวนจึงไปสอบปากคำที่สถานที่อื่น.- 412-สำนักข่าวไทย