จับหลานทุบฆ่าลุงหมกป่าสวนยาง อ้างแค้นถูกดุด่ามานาน

อุดรธานี 23 ส.ค. – ตำรวจจับหลานฆ่าลุงแท้ๆ วัย 73 ปี หมกป่าสวนยางหลังบ้าน สารภาพความแค้นถูกลุงดุด่าเป็นประจำและเคยเอามีดไล่ฟัน จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว


กรณีนายอำพร ฤทธิ์บูรณ์ อายุ 73 ปี ชาวบ้าน ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ถูกพบเป็นศพถูกทุบหัวฆ่าหมกป่าสวนยางหลังบ้าน ศพเน่าเปื่อยมาประมาณ 5 วัน จนชาวบ้านออกไปหาเห็ดมาพบศพ และแจ้งตำรวจ ซึ่งชาวบ้านต่างบอกว่าผู้ตายเลี้ยงควาย 3 ตัว ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับผู้ใด และยังให้หวยแม่นมาประมาณ 5-6 งวด ตำรวจมุ่งประเด็นการฆ่าไปที่ทะเลาะวิวาทในวงเหล้าแค้นส่วนตัว เพราะทรัพย์สินผู้ตายยังอยู่ครบ เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 22 สิงหาคม 2563

ล่าสุดเช้าวันนี้ พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผู้กำกับการ สภ.หนองวัวซอ นำกำลังเข้าจับกุมนายพิทักษ์ ฤทธิ์บูรณ์ อายุ 41 ปี หลานผู้ตาย ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน โดยจับกุมได้ที่บ้านพักห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร จากการสอบสวนนายพิทักษ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ลงมือฆ่าผู้ตายที่เป็นลุงจริง ก่อนตำรวจนำตัวนายพิทักษ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ


นายพิทักษ์เล่าถึงมูลเหตุที่ฆ่าลุงตนเอง เพราะแค้นที่ถูกผู้ตายดุด่าเป็นประจำ และบอกว่าตนเป็นคนไม่มีประโยชน์ อายุมากแล้วยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ไม่ไปทำงานหาเงิน และลุงเคยเอามีดไล่ฟัน จึงเก็บความแค้นไว้ในใจ โดยก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ 17 สิงหาคม ตนไปหาผู้ตายที่บ้านก็ถูกผู้ตายด่าอีก เช้าวันที่ 18 สิงหาคม ได้ถือท่อนไม้ไผ่ไปนั่งรอผู้ตายอยู่หน้าบ้าน รอจนผู้ตายเดินลงจากบ้านมา ก็วิ่งไปใช้ท่อนไม้ฟาดผู้ตายจนล้มลง แต่ผู้ตายลุกวิ่งหลบหนีไปหลังบ้าน ก็ตามไปตีท้ายทอยจนลุงตายใต้ต้นมะเกลือ หลังจากนั้นนำศพใส่รถเข็นไปทิ้งในป่าสวนยางห่างจากบ้านผู้ตาย 150 เมตร หลังจากนั้นได้กลับบ้าน ล้างคราบเลือดที่ไม้ไผ่และในรถเข็น เสร็จแล้วนำรถเข็นไปจอดใต้ถุนบ้านผู้ตาย และนำท่อนไม้ไผ่ไปซ่อนไว้ใต้ยุ้งข้าว แล้วเก็บตัวอยู่ในบ้าน ไม่ออกไปพบใคร กระทั่งมีคนมาพบศพผู้ตาย และถูกตำรวจจับกุมตัวได้ที่บ้าน

ตำรวจใช้เวลาทำแผนประมาณ 30 นาที ก่อนจะควบคุมตัวกลับ นายพิทักษ์ได้กราบขอขมาแม่และพ่อ ที่ก่อเหตุฆ่าลุงตาย แม่นายพิทักษ์ได้แต่ร้องไห้ และถามว่าคิดอย่างไรถึงได้ทำลงไป ไม่กลัวติดคุกหรือ ซึ่งนายพิทักษ์บอกว่าทำไปเพราะถูกผู้ตายดุด่า แต่ไม่ยอมบอกว่าด่าอะไร และกินยาอยู่หรือไม่ นายพิทักษ์บอกว่ากินยาอยู่ และกราบขอโทษแม่ แต่นายพิทักษ์ยืนยันไม่ขอขมาผู้ตาย

พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผู้กำกับการ สภ.หนองวัวซอ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุเพราะแค้นที่ถูกผู้ตายซึ่งเป็นลุงดุด่าเป็นประจำ เลยเก็บความแค้นและวางแผนฆ่า แม้จะอ้างว่าผู้ต้องหาเคยมีประวัติการรักษาทางจิตเวชที่ จ.ขอนแก่น แต่ผู้ต้องหาให้การรู้เรื่องเหมือนคนปกติ อย่างไรก็ตาม ต้องส่งตัวไปพิสูจน์กับแพทย์ว่ายังเป็นผู้ป่วยทางจิตอยู่หรือไม่ ขณะลงมือก่อเหตุมีสติหรือไม่ ซึ่งจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก