“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

18 เม.ย. – กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว


ความคืบหน้ากรณีนายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช ลูกของนายกฤษฎา หรือ นายกเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ที่ขับ BMW ปาดหน้ากระบะบนมอเตอร์เวย์ เป็นเหตุให้นายสมบูรณ์ วัย 65 ปี คนขับกระบะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

วันนี้ (18 เม.ย.) ที่สถานีตำรวจทางหลวง 2 มีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยภายหลังประชุม ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในส่วนของการขับขี่ช่วงแรกที่เกิดการเบียดช่องทางจราจรหลังออกจากช่อง M-Flow พบว่ารถกระบะมีการเบี่ยงเข้าช่องทางจราจร โดยไม่ให้สัญญาณไฟ ส่วนรถหรูขับมาตามเส้นทางถูกต้องจริง แต่ใช้ความเร็วสูงและไม่ระมัดระวังเต็มที่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เบื้องต้นแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.การจราจร คือขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย กับทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะมีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท แต่หากมีการแย้งจากผู้ก่อเหตุก็ให้คำตัดสินขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล


“พีช ” โดนแจ้งเพิ่มขับรถไม่มีใบอนุญาต
นายพีชจะโดนข้อหาเพิ่มเติมคือ ขับขี่รถโดยไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของนายพีชหมดอายุตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 64 ส่วนป้ายทะเบียนรถหรูซึ่งเป็นป้ายแดง จากการตรวจสอบเบื้องต้นตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ พบว่ามีตราปั๊มนูนลักษณะเหมือนป้ายจริง แต่ตรวจสอบไม่พบในระบบของกรมขนส่ง จึงต้องให้เจ้าของรถนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่าเป็นทะเบียนที่ได้รับจากผู้ขายรถให้จริง และต้องส่งป้ายให้ทางกรมการขนส่งทางบก ไปตรวจสอบว่าเป็นป้ายปลอมหรือไม่ หากพบความผิดจึงจะส่งให้ สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีอาญาในความผิดปลอมแปลงเอกสารทางราชการ รวมถึงหากมีคลิปการขับรถประมาทหวาดเสียวของนายพีช ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกันก็จะนำมารวบรวมเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีเพิ่มได้

สภ.ลำลูกกา ยืนยันเจตนาทำผิดเข้าข่ายคดีอาญา
พันตำรวจเอก ถิรเดช จันทร์ลาด ผู้กำกับการ สภ.ลำลูกกา เปิดเผยว่า ในส่วนของคดีอาญา เบื้องต้น สภ.ลำลูกกา พิจารณาพฤติการณ์แล้ว ไม่ใช่แค่การขับรถโดยประมาท แต่เป็นเจตนากระทำผิด เข้าข่ายคดีอาญา ส่วนจะเป็นข้อหาใด ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้ได้สอบปากคำนางวรรณา ภรรยาของนายสมบูรณ์ ไปแล้ว ส่วนนายสมบูรณ์ที่ยังอยู่ไอซียู หากให้ปากคำได้ พนักงานสอบสวนจะรีบเข้าไปพบ ขณะที่หลักฐานต่างๆ กำลังเร่งรวบรวมให้ทุกอย่างรัดกุมที่สุด เพื่อจะได้ออกหมายเรียกนายสมิทธิพัฒน์มาให้ปากคำ ย้ำว่าส่วนตัวไม่กังวลที่นายสมิทธิพัฒน์เป็นครอบครัวนักการเมืองท้องถิ่นหรือเกี่ยวพันกับพรรคการเมืองใหญ่ เพราะตำรวจทำตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทะเบียนรถไม่มีอยู่ในระบบขนส่ง คงต้องตรวจสอบอีกครั้ง

“ภูมิธรรม” ลั่นอย่าจับแพะชนแกะ-โยงสัมพันธ์พิเศษ
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงประเด็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กังวลกรณีนายกฯ สนิทสนมกับครอบครัวนายกเบี้ยว ว่าประเด็นดังกล่าวต้องแยกให้ออกระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับข้อกฎหมาย ขอทุกฝ่ายอย่ากังวล ไม่มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว และกรณีฝ่ายค้านพยายามชี้ว่านายทักษิณ ชินวัตร ไปร่วมงานบวชนายสมิทธิพัฒน์ ยืนยันว่านายทักษิณ ไม่ได้ไปงานลูกนายกเบี้ยวคนเดียว และนายกเบี้ยวเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย ลูกชายคนโตก็เป็น สส.พรรค เมื่อ สส. จะบวชน้องชายก็เชิญนายทักษิณ ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย และนายกฯ แพทองธาร ก็เป็นหัวหน้าพรรค หากมีการร้องขอให้ไปร่วมงานทุกคนก็ไป เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เพิ่งเกิด ไปทุกงานของสมาชิกพรรค หรือญาติ ทั้งงานแต่ง งานศพ งานบวช ไม่ควรมองว่าเป็นความสัมพันธ์พิเศษ เพราะทุกพรรคก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน กังวลได้แต่อย่าจับแพะมาชนแกะ


ด้านครอบครัวของคู่กรณี เปิดใจยืนยันได้คุยกับพ่อแม่แล้ว ได้รับคำตอบว่าพ่อมองไม่เห็นคู่กรณีจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจขับเบียดหรือปาดหน้า และตอนนั้นไม่ได้ใช้ความเร็วมาก เป็นการขับปกติ แต่หลังจากนั้นคู่กรณีขับมาจี้ท้ายรถ บีบแตรเรียกให้จอด พ่อแม่ที่มีอายุมากจึงไม่กล้าลงไปคุย เพราะกลัวถูกทำร้าย จึงแค่ลดกระจกและยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนขับรถออกไป แต่เรื่องไม่จบ เพราะคู่กรณีขับมาชนตามที่ปรากฏในคลิป

ส่วนตัวยอมรับว่ารู้สึกรับไม่ได้ เพราะมองว่าหากพ่อขับมาเร็วกว่านี้อาจเกิดความเสียหายที่มากกว่านี้ก็เป็นได้ ที่สำคัญคู่กรณียังลงมาชี้หน้าด่าทอพ่อแม่ โดยไม่สนว่าพ่อได้รับบาดเจ็บ วันนี้จึงอยากมาเรียกร้อง มาสื่อสารอีกด้าน ไม่ได้มาอาฆาตอะไร แต่กังวลใจที่คู่กรณีเป็นลูกนักการเมือง เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยทำคดีนี้ด้วยความเป็นธรรม ส่วนที่นายกเบี้ยวมาเยี่ยมครอบครัว ก็พูดคุยกันเล็กน้อย โดยนายกเบี้ยวยอมรับว่าหากลูกชายผิดก็ให้ว่าไปตามผิด และยินดีชดใช้เยียวยาให้ อย่างไรก็ตาม ก็เป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด

“นายกเบี้ยว“ รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว
ด้านนายกฤษฎา อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี หรือนายกเบี้ยว ให้สัมภาษณ์เพียงคนเดียว โดยไร้เงานายพีช ลูกชาย ที่ไม่พร้อมออกมาให้สัมภาษณ์ด้วย เพราะยังตกใจไม่หาย

นายกเบี้ยว เปิดเผยว่า ตำรวจทางหลวงได้ประสานว่าจะให้ตนเองพาลูกชายไปรับทราบข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่ได้หนี แต่วันนี้ตนและลูกชายเสร็จธุระไม่ทัน จึงจะแจ้งขอเลื่อนไปก่อน ซึ่งตนยังคงสับสน เนื่องจากคดีมีอยู่ 2 ที่ อีกที่คือ สภ.ลำลูกกา อย่างไรก็ตาม ตนเองและลูกชาย พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ส่วนเรื่องสภาพจิตใจหลังจากตนเองได้พบกับลูกเมื่อวานนี้ ลูกชายยังคงตื่นตระหนกตกใจ เนื่องจากอายุยังน้อยและอยู่ในช่วงของวัยรุ่น จึงมองว่าตนเองไม่ผิดและโต้เถียง ตนเองจึงอธิบายให้เข้าใจว่าลูกเป็นคนผิด โดยคดีแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคุณลุงอาจจะเข้าข่ายมีความผิด และถึงแม้ในส่วนที่สองที่มีภาพปรากฏว่าลูกชายของตนเองขับปาดจนทำให้รถกระบะเสียหลัก ลูกชายตนเองจะบอกว่าไม่มีเจตนา แต่สังคมที่ดูคลิปได้ตัดสินไปแล้วว่าลูกชายทำเกินเหตุ ฉะนั้นตนเองและลูกชายจึงยอมรับผิดทุกกรณี และขอโทษสังคม ทั้งนี้ ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน และเมตตา หากตัดสินว่าลูกชายผิดก็น้อมรับ

ส่วนเรื่องที่ลูกชายไม่ไปเยี่ยมคุณลุงและคุณป้านั้น เนื่องจากกลัวถูกโวยวายให้อับอาย แต่เมื่อวานและวันนี้ตนเองได้เดินทางไปเยี่ยมคู่กรณีแล้ว และได้ขอโทษ พร้อมนำกระเช้าไปให้ และแจ้งกับทางคู่กรณีว่าจะพาลูกชายเข้ามากราบขอโทษ ซึ่งทางคู่กรณียินดีให้มา โดยลูกชายพร้อมยินดีจะชดใช้ค่ารักษาและค่าซ่อมรถอย่างเต็มที่

สำหรับการพาลูกชายมาชี้แจงผ่านรายการในวันนี้ เนื่องจากไม่อยากปล่อยเวลาให้นานกว่านี้ หากสังคมจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อยู่ที่ดุลยพินิจของแต่ละคน ยืนยันที่ออกมาชี้แจงในวันนี้ไม่ได้เป็นการฟอกขาว และไม่ได้จะนำมาต่อสู้คดี รวมถึงไม่มีผู้ใหญ่เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งภาพที่ลูกชายร่วมอดีตนายกฯ ทักษิณ และนายกฯ แพทองธาร ร่วมเฟรม ขณะนั้นนายกฯ แพทองธาร ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง เป็นเพียงหัวหน้าพรรคที่มาร่วมงานเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่ได้สนิทกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน เพราะท่านเป็นตำรวจน้ำดี

ทั้งนี้ หลังจากดูคลิปการขับรถของลูกชาย มองว่าขับรถหวาดเสียว จึงตักเตือนลูกชายให้ได้สติ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าลูกชายไม่ได้เจตนาจะชน จากคำกล่าวอ้างว่าขับรถมือเดียวและเสียหลัก อย่างไรก็ตาม ต่อให้มีหลักฐานว่าลูกชายไม่ผิดตนเองก็ยังยอมรับผิด

ส่วนเรื่องใบขับขี่นั้นตนเองเพิ่งทราบในวันนี้ว่าใบขับขี่ลูกชายหมดอายุตั้งแต่ปี 64 และเรื่องป้ายแดงที่ยังไม่ได้เข้าระบบนั้น ลูกชายกล่าวอ้างว่ามีการออกรถมาได้ไม่ถึงปี และจองป้ายทะเบียนเลข 27 ซึ่งเป็นเลขวันเกิดเอาไว้ มองว่าเรื่องนี้มีผลกระทบด้านการเมืองหรือไม่ นายกฤษฎา ระบุว่า เชื่อว่าอยู่ที่ประชาชนจะมอง ให้วันที่ 11 นี้ เป็นวันตัดสิน

สำหรับนิสัยของลูกชายนั้นเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ไม่เคยมีเรื่องชกต่อยมาก่อน แต่ด้วยระยะหลังที่ห่างจึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ ตนเองขอโทษสังคมที่ไม่ได้ดูแลลูก อยู่ห่างกับลูกและมัวแต่ยุ่งกับงาน จึงทิ้งลูกไว้ถึงเป็นอย่างนี้ หลังจากนี้จะดูแลให้มากขึ้น ขอโอกาสให้ลูกชายได้มีที่ยืนในสังคม และจะกลับตัวหลังทำผิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]