“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

18 เม.ย. – กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว


ความคืบหน้ากรณีนายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช ลูกของนายกฤษฎา หรือ นายกเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ที่ขับ BMW ปาดหน้ากระบะบนมอเตอร์เวย์ เป็นเหตุให้นายสมบูรณ์ วัย 65 ปี คนขับกระบะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

วันนี้ (18 เม.ย.) ที่สถานีตำรวจทางหลวง 2 มีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยภายหลังประชุม ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในส่วนของการขับขี่ช่วงแรกที่เกิดการเบียดช่องทางจราจรหลังออกจากช่อง M-Flow พบว่ารถกระบะมีการเบี่ยงเข้าช่องทางจราจร โดยไม่ให้สัญญาณไฟ ส่วนรถหรูขับมาตามเส้นทางถูกต้องจริง แต่ใช้ความเร็วสูงและไม่ระมัดระวังเต็มที่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เบื้องต้นแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.การจราจร คือขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย กับทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะมีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท แต่หากมีการแย้งจากผู้ก่อเหตุก็ให้คำตัดสินขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล


“พีช ” โดนแจ้งเพิ่มขับรถไม่มีใบอนุญาต
นายพีชจะโดนข้อหาเพิ่มเติมคือ ขับขี่รถโดยไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของนายพีชหมดอายุตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 64 ส่วนป้ายทะเบียนรถหรูซึ่งเป็นป้ายแดง จากการตรวจสอบเบื้องต้นตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ พบว่ามีตราปั๊มนูนลักษณะเหมือนป้ายจริง แต่ตรวจสอบไม่พบในระบบของกรมขนส่ง จึงต้องให้เจ้าของรถนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่าเป็นทะเบียนที่ได้รับจากผู้ขายรถให้จริง และต้องส่งป้ายให้ทางกรมการขนส่งทางบก ไปตรวจสอบว่าเป็นป้ายปลอมหรือไม่ หากพบความผิดจึงจะส่งให้ สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีอาญาในความผิดปลอมแปลงเอกสารทางราชการ รวมถึงหากมีคลิปการขับรถประมาทหวาดเสียวของนายพีช ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกันก็จะนำมารวบรวมเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีเพิ่มได้

สภ.ลำลูกกา ยืนยันเจตนาทำผิดเข้าข่ายคดีอาญา
พันตำรวจเอก ถิรเดช จันทร์ลาด ผู้กำกับการ สภ.ลำลูกกา เปิดเผยว่า ในส่วนของคดีอาญา เบื้องต้น สภ.ลำลูกกา พิจารณาพฤติการณ์แล้ว ไม่ใช่แค่การขับรถโดยประมาท แต่เป็นเจตนากระทำผิด เข้าข่ายคดีอาญา ส่วนจะเป็นข้อหาใด ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้ได้สอบปากคำนางวรรณา ภรรยาของนายสมบูรณ์ ไปแล้ว ส่วนนายสมบูรณ์ที่ยังอยู่ไอซียู หากให้ปากคำได้ พนักงานสอบสวนจะรีบเข้าไปพบ ขณะที่หลักฐานต่างๆ กำลังเร่งรวบรวมให้ทุกอย่างรัดกุมที่สุด เพื่อจะได้ออกหมายเรียกนายสมิทธิพัฒน์มาให้ปากคำ ย้ำว่าส่วนตัวไม่กังวลที่นายสมิทธิพัฒน์เป็นครอบครัวนักการเมืองท้องถิ่นหรือเกี่ยวพันกับพรรคการเมืองใหญ่ เพราะตำรวจทำตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทะเบียนรถไม่มีอยู่ในระบบขนส่ง คงต้องตรวจสอบอีกครั้ง

“ภูมิธรรม” ลั่นอย่าจับแพะชนแกะ-โยงสัมพันธ์พิเศษ
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงประเด็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กังวลกรณีนายกฯ สนิทสนมกับครอบครัวนายกเบี้ยว ว่าประเด็นดังกล่าวต้องแยกให้ออกระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับข้อกฎหมาย ขอทุกฝ่ายอย่ากังวล ไม่มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว และกรณีฝ่ายค้านพยายามชี้ว่านายทักษิณ ชินวัตร ไปร่วมงานบวชนายสมิทธิพัฒน์ ยืนยันว่านายทักษิณ ไม่ได้ไปงานลูกนายกเบี้ยวคนเดียว และนายกเบี้ยวเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย ลูกชายคนโตก็เป็น สส.พรรค เมื่อ สส. จะบวชน้องชายก็เชิญนายทักษิณ ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย และนายกฯ แพทองธาร ก็เป็นหัวหน้าพรรค หากมีการร้องขอให้ไปร่วมงานทุกคนก็ไป เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เพิ่งเกิด ไปทุกงานของสมาชิกพรรค หรือญาติ ทั้งงานแต่ง งานศพ งานบวช ไม่ควรมองว่าเป็นความสัมพันธ์พิเศษ เพราะทุกพรรคก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน กังวลได้แต่อย่าจับแพะมาชนแกะ


ด้านครอบครัวของคู่กรณี เปิดใจยืนยันได้คุยกับพ่อแม่แล้ว ได้รับคำตอบว่าพ่อมองไม่เห็นคู่กรณีจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจขับเบียดหรือปาดหน้า และตอนนั้นไม่ได้ใช้ความเร็วมาก เป็นการขับปกติ แต่หลังจากนั้นคู่กรณีขับมาจี้ท้ายรถ บีบแตรเรียกให้จอด พ่อแม่ที่มีอายุมากจึงไม่กล้าลงไปคุย เพราะกลัวถูกทำร้าย จึงแค่ลดกระจกและยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนขับรถออกไป แต่เรื่องไม่จบ เพราะคู่กรณีขับมาชนตามที่ปรากฏในคลิป

ส่วนตัวยอมรับว่ารู้สึกรับไม่ได้ เพราะมองว่าหากพ่อขับมาเร็วกว่านี้อาจเกิดความเสียหายที่มากกว่านี้ก็เป็นได้ ที่สำคัญคู่กรณียังลงมาชี้หน้าด่าทอพ่อแม่ โดยไม่สนว่าพ่อได้รับบาดเจ็บ วันนี้จึงอยากมาเรียกร้อง มาสื่อสารอีกด้าน ไม่ได้มาอาฆาตอะไร แต่กังวลใจที่คู่กรณีเป็นลูกนักการเมือง เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยทำคดีนี้ด้วยความเป็นธรรม ส่วนที่นายกเบี้ยวมาเยี่ยมครอบครัว ก็พูดคุยกันเล็กน้อย โดยนายกเบี้ยวยอมรับว่าหากลูกชายผิดก็ให้ว่าไปตามผิด และยินดีชดใช้เยียวยาให้ อย่างไรก็ตาม ก็เป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด

“นายกเบี้ยว“ รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว
ด้านนายกฤษฎา อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี หรือนายกเบี้ยว ให้สัมภาษณ์เพียงคนเดียว โดยไร้เงานายพีช ลูกชาย ที่ไม่พร้อมออกมาให้สัมภาษณ์ด้วย เพราะยังตกใจไม่หาย

นายกเบี้ยว เปิดเผยว่า ตำรวจทางหลวงได้ประสานว่าจะให้ตนเองพาลูกชายไปรับทราบข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่ได้หนี แต่วันนี้ตนและลูกชายเสร็จธุระไม่ทัน จึงจะแจ้งขอเลื่อนไปก่อน ซึ่งตนยังคงสับสน เนื่องจากคดีมีอยู่ 2 ที่ อีกที่คือ สภ.ลำลูกกา อย่างไรก็ตาม ตนเองและลูกชาย พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ส่วนเรื่องสภาพจิตใจหลังจากตนเองได้พบกับลูกเมื่อวานนี้ ลูกชายยังคงตื่นตระหนกตกใจ เนื่องจากอายุยังน้อยและอยู่ในช่วงของวัยรุ่น จึงมองว่าตนเองไม่ผิดและโต้เถียง ตนเองจึงอธิบายให้เข้าใจว่าลูกเป็นคนผิด โดยคดีแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคุณลุงอาจจะเข้าข่ายมีความผิด และถึงแม้ในส่วนที่สองที่มีภาพปรากฏว่าลูกชายของตนเองขับปาดจนทำให้รถกระบะเสียหลัก ลูกชายตนเองจะบอกว่าไม่มีเจตนา แต่สังคมที่ดูคลิปได้ตัดสินไปแล้วว่าลูกชายทำเกินเหตุ ฉะนั้นตนเองและลูกชายจึงยอมรับผิดทุกกรณี และขอโทษสังคม ทั้งนี้ ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน และเมตตา หากตัดสินว่าลูกชายผิดก็น้อมรับ

ส่วนเรื่องที่ลูกชายไม่ไปเยี่ยมคุณลุงและคุณป้านั้น เนื่องจากกลัวถูกโวยวายให้อับอาย แต่เมื่อวานและวันนี้ตนเองได้เดินทางไปเยี่ยมคู่กรณีแล้ว และได้ขอโทษ พร้อมนำกระเช้าไปให้ และแจ้งกับทางคู่กรณีว่าจะพาลูกชายเข้ามากราบขอโทษ ซึ่งทางคู่กรณียินดีให้มา โดยลูกชายพร้อมยินดีจะชดใช้ค่ารักษาและค่าซ่อมรถอย่างเต็มที่

สำหรับการพาลูกชายมาชี้แจงผ่านรายการในวันนี้ เนื่องจากไม่อยากปล่อยเวลาให้นานกว่านี้ หากสังคมจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อยู่ที่ดุลยพินิจของแต่ละคน ยืนยันที่ออกมาชี้แจงในวันนี้ไม่ได้เป็นการฟอกขาว และไม่ได้จะนำมาต่อสู้คดี รวมถึงไม่มีผู้ใหญ่เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งภาพที่ลูกชายร่วมอดีตนายกฯ ทักษิณ และนายกฯ แพทองธาร ร่วมเฟรม ขณะนั้นนายกฯ แพทองธาร ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง เป็นเพียงหัวหน้าพรรคที่มาร่วมงานเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่ได้สนิทกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน เพราะท่านเป็นตำรวจน้ำดี

ทั้งนี้ หลังจากดูคลิปการขับรถของลูกชาย มองว่าขับรถหวาดเสียว จึงตักเตือนลูกชายให้ได้สติ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าลูกชายไม่ได้เจตนาจะชน จากคำกล่าวอ้างว่าขับรถมือเดียวและเสียหลัก อย่างไรก็ตาม ต่อให้มีหลักฐานว่าลูกชายไม่ผิดตนเองก็ยังยอมรับผิด

ส่วนเรื่องใบขับขี่นั้นตนเองเพิ่งทราบในวันนี้ว่าใบขับขี่ลูกชายหมดอายุตั้งแต่ปี 64 และเรื่องป้ายแดงที่ยังไม่ได้เข้าระบบนั้น ลูกชายกล่าวอ้างว่ามีการออกรถมาได้ไม่ถึงปี และจองป้ายทะเบียนเลข 27 ซึ่งเป็นเลขวันเกิดเอาไว้ มองว่าเรื่องนี้มีผลกระทบด้านการเมืองหรือไม่ นายกฤษฎา ระบุว่า เชื่อว่าอยู่ที่ประชาชนจะมอง ให้วันที่ 11 นี้ เป็นวันตัดสิน

สำหรับนิสัยของลูกชายนั้นเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ไม่เคยมีเรื่องชกต่อยมาก่อน แต่ด้วยระยะหลังที่ห่างจึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ ตนเองขอโทษสังคมที่ไม่ได้ดูแลลูก อยู่ห่างกับลูกและมัวแต่ยุ่งกับงาน จึงทิ้งลูกไว้ถึงเป็นอย่างนี้ หลังจากนี้จะดูแลให้มากขึ้น ขอโอกาสให้ลูกชายได้มีที่ยืนในสังคม และจะกลับตัวหลังทำผิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-กลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคกลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้