ตราด 23 ก.ค.- ตราดอ่วม! ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ล่าสุด ผู้ว่าฯ ตราดประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยในพื้นที่ 3 ตำบลหลังท่วมหนัก บางพื้นที่จม 1 เมตร คาดอีก 2-3 วันสถานการณ์กลับสู่ปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมเมืองตราด ในชุมชนรักษ์คลองบางพระ ชุมชนวัดโบสถ์ ชุมชนกิจสวัสดิ์ อีกทั้งโครงการชลประทานตราด ปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำสระสีเสียด เนื่องจากน้ำในอ่างใกล้ล้น ซึ่งตอนนี้สถานการณ์เริ่มจะคลี่คลายลงแล้ว
เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.) ประชาชนเดินทางกลับเข้าบ้านเพื่อดูทรัพย์สินและสำรวจความเสียหาย ขณะที่การปล่อยน้ำของโครงการชลประทานตราด ยังคงเปิดประตูระบายน้ำอ่างเก็บน้ำสระสีเสียด ปล่อยน้ำในอ่างอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดระดับน้ำในอ่างให้มากที่สุด หลังจากมีฝนตกสะสมมากกว่า 400 มม. นานกว่า 3 วันแล้ว และน้ำทะเลหนุน อาจส่งผลให้ระดับน้ำยังไม่ลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 21 ก.ค. น้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนใน 3 ตำบล คือ ต.บางพระ ในเขตเทศบาลเมืองตราด, ต.หนองเสม็ด และ ต.วังกระแจะ ทำให้บ้านเรือนกว่า 1,000 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมในระดับ 1.00-1.20 เมตร โดยเฉพาะโรงเรียนกิตติวิทยา และชุมชนหมู่บ้านสืบแสวงทรัพย์ ชุมชนวัดโบสถ์ ชุมชนกิจสวัสดิ์ รวมทั้งชุมชนรักษ์คลองบางพระที่อยู่ใกล้คลองบางพระ และปัจจุบันยังท่วมขังอยู่
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าฯ ตราด ได้ออกประกาศพื้นที่ภัยพิบัติสาธารณภัยและภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด นำงบประมาณมาใช้ช่วยเหลือประชาชน ประกาศให้พื้นที่ชุมชนบ้านล่าง ชุมชนกิจสวัสดิ์ ชุมชนโภคไพร ชุมชนวัดโบสถ์ ชุมชนรักคลองบางพระ และชุมชนท่าเรือจ้าง ในเขตเทศบาลเมืองตราด โดยให้เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2567
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์พื้นที่น้ำท่วม และเข้าไปในพื้นที่โรงเรียนกิตติวิทยาที่เป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด และพื้นที่ชุมชนกิจสวัสดิ์ ซึ่งได้เห็นประชาชนเดือดร้อน จึงต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ ส่วนเรื่องการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำนั้น เป็นอำนาจของทางชลประทานตราด
นายกิตติพงษ์ อยู่ละออ นายกเทศบาลตำบลหนองเสม็ด เปิดเผยว่า พื้นที่ตำบลหนองเสม็ด โดยเฉพาะหมู่ 4 ที่มีชาวบ้านในซอยสืบแสวงทรัพย์ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากอยู่ติดกับโครงการชลประทานตราดใกล้คลองส่งน้ำทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนมีระดับความสูงถึง 1.00-1.20 เมตร มีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจำนวนกว่า 500 ครัวเรือน จากจำนวน 4,000 ครัวเรือน ทั้งนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาใน 2 วันนี้สถานการณ์จะคลี่คลายและกลับสู่ปกติได้ใน 3 วัน
ปภ.เตือน 44 จังหวัด ระวังน้ำท่วมฉับพลัน 24-31 ก.ค.
ขณะที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 44 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ช่วงวันที่ 24-31 ก.ค.
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ เมียนมา ลาว และเวียดนาม เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณตอนใต้ของจีน ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้
อาทิ ภาคเหนือมี 11 จังหวัด จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ พิษณุโลก , ภาคอีสาน 7 จังหวัด เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม อุบลราชธานี ส่วน ภาคใต้ 5 จังหวัด ได้แก่ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต ตรัง และ จ.สตูล , ภาคกลาง 11 จังหวัด มี กาญจนบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย