ตราด 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ลงเยี่ยมให้กำลังใจ ศูนย์พักพิงผู้อพยพ จ.ตราด นั่งพื้นกินข้าวเป็นกันเอง คลายความกังวล พร้อมสั่งการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อส. ชรบ. อปพร. ดูแลบ้านเรือนของประชาชน เผย “นายกฯอิ๊งค์” ฝากส่งกำลังใจมาด้วย
วันนี้ (27 ก.ค. 68) เวลา 12.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชนผู้อพยพในศูนย์พักพิงพื้นที่จังหวัดตราด โดยมี นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ร่วมคณะ
สำหรับบรรยากาศภาพรวมในศูนย์พักพิงมีความพร้อมทั้งด้านอาหาร น้ำดื่ม เครื่องใช้ที่จำเป็น ไม่ขาดแคลน และพบว่าพี่น้องประชาชนในศูนย์อพยพมีทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาบางส่วน ซึ่งทุกคนต่างชื่นชมหน่วยงานในพื้นที่ว่ามีการดูแลที่ดีและบริหารจัดการได้ดี แต่ยังมีประชาชนบางส่วนที่มีความกังวลต่อสถานการณ์ และเป็นห่วงบ้าน ไม่อยากทิ้งบ้านไว้เป็นเวลานานโดยขาดคนดูแล อีกทั้งบางครอบครัวยังมีสัตว์เลี้ยงตกค้างอยู่ที่บ้านด้วย
นายภูมิธรรม และคณะ ได้มอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในศูนย์พักพิง และนั่งพื้นกินข้าวพูดคุยกับประชาชนในศูนย์พักพิง อย่างเป็นกันเอง เพื่อสร้างความอุ่นใจ คลายความกังวลให้กับประชาชน

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การเดินทางมาเยี่ยมเยียนในครั้งนี้ เพราะอยากเห็นด้วยตาตนเองว่า พี่น้องประชาชนมีความพร้อมเรื่องอาหารการกิน และของใช้ต่าง ๆ อีกทั้งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก็ยังได้ฝากความห่วงใยและฝากกำลังใจมาด้วย และท่านอยากให้พี่น้องทุกคนเข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะเข้ามาดูแลให้ทุก ๆ คนมีความเป็นอยู่ที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของพี่น้องประชาชนหลายๆ คนที่ยังห่วงบ้าน อยากให้คลายความกังวล เพราะตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองช่วยดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจะมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครต่างๆ ทั้ง อส. ชรบ. อปพร. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยสอดส่องดูแลบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่
ในช่วงท้าย นายภูมิธรรม ยังให้กำลังใจกลุ่มแรงงานชาวกัมพูชาที่มาพักพิงอยู่ในศูนย์อพยพ ว่าไม่ต้องมีความกังวลใด ๆ เพราะคนไทยมีน้ำใจ และรัฐบาลก็พร้อมช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม หากสถานการณ์สิ้นสุดลง ค่อยพิจารณากันอีกครั้งว่าจะดำเนินการกันอย่างไร.-312.-สำนักข่าวไทย