ศบค.ปรับสีพื้นที่-เปิดผับบาร์ 1 มิ.ย.

ทำเนียบรัฐบาล 20 พ.ค.-ศบค.ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์โควิด 1 มิ.ย.นี้ เปิดสถานบันเทิง อาบอบนวด กลุ่มเสี่ยงสูงไม่ต้องกักตัว ทำงานปกติ แต่ให้สังเกตอาการ 10 วัน ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือน


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ว่า วันนี้(20 พ.ค.) ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,463 ราย ติดเชื้อในประเทศ 6,439 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 1 ราย จากเรือนจำ / ที่ต้องขัง 23 ราย หายป่วยแล้ว 7,019 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ในโรงพยาบาลสนามและอื่น ๆ 58,910 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 1,037 ราย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ 510 ราย และผู้เสียชีวิต 41 ราย

“พบว่าการติดเชื้อไปในทิศทางที่เป็นบวก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ รวมทั้งการเสียชีวิตของผู้ป่วยติดเชื้อ ทำให้ใกล้เคียงกับการคาดการณ์เรื่องการประกาศให้การระบาดของโรคโควิดเป็นโรคประจำถิ่น ที่ประชุมศบค.เห็นชอบแนวทางจัดการกรณีสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ เสี่ยงสูง จากนี้ไปไม่ต้องกักตัว 5 วัน ให้ไปทำงานปกติ เพียงแต่สังเกตุอาการ 10 วัน และตรวจ ATK เมื่อมีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.เห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมโรคแบบบูรณาการ โดยมีผลในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ซึ่งจะไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม ) ไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) แต่จะปรับเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง(สีเหลือง) จาก 65 จังหวัด เหลือ 46 จังหวัด และเพิ่มพื้นที่เฝ้าระวัง(สีเขียว) จำนวน 14 จังหวัด และพื้นที่สีฟ้า พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวจาก 12 เป็น 17 จังหวัด

“พื้นที่สีเหลืองเฝ้าระวังสูง 46 จังหวัด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 1,000 คน สถานศึกษาสามารถใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด ส่วนการเล่นกีฬา เปิดบริการได้ตามปกติ แต่การจัดการแข่งขันต้องจำกัดผู้ชม โดยกีฬาในร่ม ผู้ชมไม่เกินร้อยละ 75 กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมตามความจุสนามและมาตรการเว้นระยะห่าง ส่วนโรงภาพยนตร์ โรงมโหรสพและการแสดงพื้นบ้านเปิดตามปกติ” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่สีเขียว พื้นที่เฝ้าระวังและสีฟ้า พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมและรวมกลุ่มตามความเหมาะสม ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ตามปกติ สถานที่เล่นกีฬาเปิดบริการและจัดการแข่งขันได้ตามปกติ รวมทั้งโรงภาพยนตร์และการแสดงพื้นบ้านที่สามารถเปิดดำเนินการตามปกติ ทั้งนี้ ในส่วนของสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด เปิดบริการได้วันที่ 1 มิถุนายน 2565


โฆษก ศบค. กล่าวว่าพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวและพื้นที่เฝ้าระวัง(พื้นที่สีฟ้าและสีเขียว) โดยให้จำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 24.00 น. เปิดบริการไม่เกิน 24.00 น. งดบริการเครื่องดื่มที่ใช้แก้วร่วมกัน งดกิจกรรมส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การให้บริการที่มีการคลุกคลีและสัมผัสใกล้ชิดกับลูกค้าจะต้องสวมหน้ากากอนามัย ส่วนผู้ให้บริการ พนักงาน นักร้อง นักดนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ วัคซีนเข็มกระตุ้น ตรวจคัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวัน ตรวจ ATK พนักงานทุก 7 วัน

“ผู้รับบริการต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ วัคซีนเข็มกระตุ้น และปฏิบัติตามมาตรการ ยูนิเวอร์แซลพรีเวนชั่น ส่วนมาตรการสำหรับสถานประกอบการ ที่จะเปิดดำเนินการต้องขึ้นทะเบียนขออนุญาต จากคณะกรรมการโรคติดต่อ เพื่อประเมิน อนุญาตและติดตามกำกับอย่างใกล้ชิด” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ปรับมาตรการสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร และการบริหารจัดการระบบ Thailand Pass วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ปรับลดการตรวจการเข้าราชอาณาจักร โดยผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบ สามารถแสดงผล Professional ATK หรือ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ยกเลิกการกักตัวในกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับไม่ครบ และไม่มีผลตรวจ แต่เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินสามารถตรวจ Professional ATK ได้ พร้อมกันนี้ปรับการลงทะเบียน Thailand Pass เฉพาะชาวต่างชาติ ส่วนคนไทยไม่ต้องลงข้อมูลใน Thailand Pass แต่ยังคงประกันสุขภาพของชาวต่างชาติที่ 10,000 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ศบค. ยังผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศในกลุ่มข้าราชการ บุคลากรของรัฐและนักเรียนทุนให้สามารถเดินทางได้

“ปัจจุบันกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 แล้วร้อยละ 80 ส่วนเข็มที่สามฉีดเพียงร้อยละ 43.1 ซึ่งถือว่ายังน้อยอยู่ โดยมี 16 จังหวัด สามารถฉีดวัคซีนได้มากกว่าร้อยละ 60 ในทุกกลุ่มเป้าหมาย ต้องชื่นชมว่าทำได้ดี” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ขยายเวลาพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึง 31 กรกฎาคม 2565 เป็นการขยายครั้งที่ 18 เพื่อคงไว้ซึ่งมาตรการป้องกันและควบคุมโรคต่อไปจนกว่าจะผ่านเกณฑ์การประเมินการเป็นโรคประจำถิ่นตามที่สาธารณสุขกำหนด

“นายกรัฐมนตรีขอบคุณประชาชน และผู้ที่ทำงานทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันทำงานเป็นอย่างดี การควบคุมสถานการณ์โควิด และขับเคลื่อนประเทศไทย อยากเห็นความสงบ ร่มเย็นปลอดภัย และคงบรรยากาศดี ๆ ต่อไป” โฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย