ศบค.ปรับสีพื้นที่-เปิดผับบาร์ 1 มิ.ย.

ทำเนียบรัฐบาล 20 พ.ค.-ศบค.ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์โควิด 1 มิ.ย.นี้ เปิดสถานบันเทิง อาบอบนวด กลุ่มเสี่ยงสูงไม่ต้องกักตัว ทำงานปกติ แต่ให้สังเกตอาการ 10 วัน ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือน


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ว่า วันนี้(20 พ.ค.) ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,463 ราย ติดเชื้อในประเทศ 6,439 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 1 ราย จากเรือนจำ / ที่ต้องขัง 23 ราย หายป่วยแล้ว 7,019 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ในโรงพยาบาลสนามและอื่น ๆ 58,910 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 1,037 ราย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ 510 ราย และผู้เสียชีวิต 41 ราย

“พบว่าการติดเชื้อไปในทิศทางที่เป็นบวก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ รวมทั้งการเสียชีวิตของผู้ป่วยติดเชื้อ ทำให้ใกล้เคียงกับการคาดการณ์เรื่องการประกาศให้การระบาดของโรคโควิดเป็นโรคประจำถิ่น ที่ประชุมศบค.เห็นชอบแนวทางจัดการกรณีสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ เสี่ยงสูง จากนี้ไปไม่ต้องกักตัว 5 วัน ให้ไปทำงานปกติ เพียงแต่สังเกตุอาการ 10 วัน และตรวจ ATK เมื่อมีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.เห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมโรคแบบบูรณาการ โดยมีผลในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ซึ่งจะไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม ) ไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) แต่จะปรับเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง(สีเหลือง) จาก 65 จังหวัด เหลือ 46 จังหวัด และเพิ่มพื้นที่เฝ้าระวัง(สีเขียว) จำนวน 14 จังหวัด และพื้นที่สีฟ้า พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวจาก 12 เป็น 17 จังหวัด

“พื้นที่สีเหลืองเฝ้าระวังสูง 46 จังหวัด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 1,000 คน สถานศึกษาสามารถใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด ส่วนการเล่นกีฬา เปิดบริการได้ตามปกติ แต่การจัดการแข่งขันต้องจำกัดผู้ชม โดยกีฬาในร่ม ผู้ชมไม่เกินร้อยละ 75 กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมตามความจุสนามและมาตรการเว้นระยะห่าง ส่วนโรงภาพยนตร์ โรงมโหรสพและการแสดงพื้นบ้านเปิดตามปกติ” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่สีเขียว พื้นที่เฝ้าระวังและสีฟ้า พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมและรวมกลุ่มตามความเหมาะสม ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ตามปกติ สถานที่เล่นกีฬาเปิดบริการและจัดการแข่งขันได้ตามปกติ รวมทั้งโรงภาพยนตร์และการแสดงพื้นบ้านที่สามารถเปิดดำเนินการตามปกติ ทั้งนี้ ในส่วนของสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด เปิดบริการได้วันที่ 1 มิถุนายน 2565


โฆษก ศบค. กล่าวว่าพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวและพื้นที่เฝ้าระวัง(พื้นที่สีฟ้าและสีเขียว) โดยให้จำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 24.00 น. เปิดบริการไม่เกิน 24.00 น. งดบริการเครื่องดื่มที่ใช้แก้วร่วมกัน งดกิจกรรมส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การให้บริการที่มีการคลุกคลีและสัมผัสใกล้ชิดกับลูกค้าจะต้องสวมหน้ากากอนามัย ส่วนผู้ให้บริการ พนักงาน นักร้อง นักดนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ วัคซีนเข็มกระตุ้น ตรวจคัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวัน ตรวจ ATK พนักงานทุก 7 วัน

“ผู้รับบริการต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ วัคซีนเข็มกระตุ้น และปฏิบัติตามมาตรการ ยูนิเวอร์แซลพรีเวนชั่น ส่วนมาตรการสำหรับสถานประกอบการ ที่จะเปิดดำเนินการต้องขึ้นทะเบียนขออนุญาต จากคณะกรรมการโรคติดต่อ เพื่อประเมิน อนุญาตและติดตามกำกับอย่างใกล้ชิด” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ปรับมาตรการสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร และการบริหารจัดการระบบ Thailand Pass วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ปรับลดการตรวจการเข้าราชอาณาจักร โดยผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบ สามารถแสดงผล Professional ATK หรือ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ยกเลิกการกักตัวในกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับไม่ครบ และไม่มีผลตรวจ แต่เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินสามารถตรวจ Professional ATK ได้ พร้อมกันนี้ปรับการลงทะเบียน Thailand Pass เฉพาะชาวต่างชาติ ส่วนคนไทยไม่ต้องลงข้อมูลใน Thailand Pass แต่ยังคงประกันสุขภาพของชาวต่างชาติที่ 10,000 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ศบค. ยังผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศในกลุ่มข้าราชการ บุคลากรของรัฐและนักเรียนทุนให้สามารถเดินทางได้

“ปัจจุบันกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 แล้วร้อยละ 80 ส่วนเข็มที่สามฉีดเพียงร้อยละ 43.1 ซึ่งถือว่ายังน้อยอยู่ โดยมี 16 จังหวัด สามารถฉีดวัคซีนได้มากกว่าร้อยละ 60 ในทุกกลุ่มเป้าหมาย ต้องชื่นชมว่าทำได้ดี” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ขยายเวลาพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึง 31 กรกฎาคม 2565 เป็นการขยายครั้งที่ 18 เพื่อคงไว้ซึ่งมาตรการป้องกันและควบคุมโรคต่อไปจนกว่าจะผ่านเกณฑ์การประเมินการเป็นโรคประจำถิ่นตามที่สาธารณสุขกำหนด

“นายกรัฐมนตรีขอบคุณประชาชน และผู้ที่ทำงานทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันทำงานเป็นอย่างดี การควบคุมสถานการณ์โควิด และขับเคลื่อนประเทศไทย อยากเห็นความสงบ ร่มเย็นปลอดภัย และคงบรรยากาศดี ๆ ต่อไป” โฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]