กอ.รมน. บูรณาการแก้ไขปัญหาโควิด ควบคู่คุมเข้มชายแดน

กทม. 15 ม.ค.-เลขาธิการ กอ.รมน. เน้นย้ำบูรณาการแก้ไขปัญหาโควิด ควบคู่คุมเข้มชายแดนสกัดการหลบหนีเข้าเมือง พร้อมกำชับวางตัวเป็นกลาง อำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเลือกตั้ง

พันเอกวินธัย สุวารี รองโฆษก กอ.รมน. เปิดเผยว่า จากการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ครั้งที่ 1/2565 ประจำเดือน ม.ค.65 ผ่านระบบประชุมทางไกล (VTC) โดย พลเอก สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสธ.ทบ./เลขาธิการ กอ.รมน. เป็นประธาน นั้น หน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ได้รายงานความคืบหน้าการปฏิบัติงานในห้วงที่ผ่านมา พร้อมรับมอบนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติงานเพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ


โดยเลขาธิการ กอ.รมน. ให้ความสำคัญและเน้นย้ำในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ โดยในส่วนของ กอ.รมน. ได้สั่งการให้ กอ.รมน.ส่วนกลาง, ส่วนภูมิภาค และรอง ผอ.รมน.จังหวัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนเผชิญเหตุเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาด และเตรียมความพร้อมด้านสถานที่, เจ้าหน้าที่, สิ่งอุปกรณ์ และยานพาหนะ เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย, การรองรับผู้ป่วยในรูปแบบการรักษาตัวเองจากที่บ้าน (HI) และศูนย์แยกโรคของชุมชน (CI) และรพ.สนาม ตลอดจนบูรณาการเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง, ฝ่ายปกครอง พร้อมสหวิชาชีพเข้าตรวจสถานประกอบการ โรงงาน ร้านอาหาร เพื่อควบคุมให้การปฏิบัติเป็นไปตามมาตรการ ศบค. อย่างเคร่งครัด ควบคู่สร้างการรับรู้การป้องกันตนเองจากโควิด-19 ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ รวมถึงรณรงค์การฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็ว ในขณะเดียวกันเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐ เลขาธิการ กอ.รมน. ได้สั่งการให้ นขต.กอ.รมน. จัดกำลังพลปฏิบัติงาน ณ ที่ตั้งหน่วยให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น โดยสลับผลัดเข้าทำงานไม่เกิน 1 ใน 3 จนถึงวันที่ 31 ม.ค. 65 พร้อมกำชับให้กำลังพลทุกนายที่ต้องเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ กอ.รมน. ต้องเข้ารับการตรวจคัดกรอง ATK ก่อนการปฏิบัติงานทุกครั้ง

ในส่วนของสถิติการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองและขบวนการนำพา ในห้วงที่ผ่านมายังคงพบมีการลักลอบเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยในห้วงต้นเดือน ม.ค. 65 ที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ 2,392 ราย ซึ่งจากการสอบถามพบว่าส่วนมากเข้ามาเพื่อมาหางานทำในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล และบางส่วนต้องการเดินทางกลับประเทศต้นทาง ในขณะเดียวกันสามารถจับกุมขบวนการนำพาได้ 24 ราย พบเป็นคนไทย 18 ราย และเมียนมา 6 ราย จากการสอบสวนพบว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนที่มีความต้องการแรงงานต่างด้าว โดยได้มีการเรียกเก็บค่านายหน้าจากแรงงานสูงถึง 18,000-25,000 บาทต่อคน พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้ กอ.รมน. บูรณาการสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะห้วงฤดูแล้งที่แม่น้ำเริ่มตื้นเขินทำให้สามารถเดินเท้าข้ามได้ ขอให้ กกล.ป้องกันชายแดน และ กอ.รมน.จังหวัด เข้มงวดในการเฝ้าระวัง ตรวจตราพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ตอนในอย่างเข้มงวด


สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ชุมพร เขตเลือกตั้งที่ 1 และ จ.สงขลา เขตเลือกตั้งที่ 6 แทนตำแหน่งที่ว่างในวันที่ 16 ม.ค.65 นี้ เลขาธิการ กอ.รมน. ได้มอบหมายให้ กอ.รมน. จังหวัด ร่วมกับหน่วยราชการในพื้นที่รณรงค์เชิญชวนประชาชนให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน พร้อมวางตัวเป็นกลางโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายการเมืองใดๆ ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย หรือต้องการแจ้งเบาะแสหรือเหตุฉุกเฉินด้านความมั่นคงติดต่อได้ที่ 1374 ตลอด 24 ชม.

ในช่วงท้ายการประชุม เลขาธิการ กอ.รมน. ได้กล่าวขอบคุณการปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทของทุกภาคส่วนที่ร่วมกันเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงอย่างเต็มที่ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดในการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐการบูรณาการประสานงาน รวมถึงการเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงร่วมกันเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม