กมธ.มั่นคงฯ จี้เอาผิดคนทำเอกสาร จัดเพจ “ปชน.” อยู่กลุ่มต้านสถาบัน

รัฐสภา​1พ.ค.- กมธ.มั่นคงฯ จี้ กอ.รมน. เอาผิดคนทำเอกสารจัดหมวดหมู่ เพจ “พรรคประชาชน” ถูกจัดในกลุ่มต่อต้านสถาบัน หลังหน่วยงานยอมรับเอกสารจริง แต่แจงเป็นการทำข้อมูลผิดพลาด “โรม” ชี้ผิดที่ซ้ำซากคล้ายจงใจป้ายสีฝ่ายการเมือง เผย “วินธัย” รับมีคณะทำงานพิเศษ IO แค่พีอาร์กองทัพ ไม่มีใส่ร้ายป้ายสี ปัดอยู่เบื้องหลังบัญชี “เจ๊จุกคลองสาม”

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมกมธ.ฯ พิจารณาศึกษาปฏิบัติการข่าวสาร ( IO ) ทางสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ส่งผลกระต่อสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน ว่า เอกสารของ กอ.รมน.ที่ได้มีการสรุปข่าวและประเมินสถานการณ์เป็นประจำ พบปัญหาที่เห็นคือ ทาง กอ.รมน. ได้มีการสรุปข้อมูลข่าวสาร และกระจายต่อในลักษณะที่เป็นการกล่าวหาและใส่ความเท็จต่อบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหมวดหมู่ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และและประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม อยู่ในรายชื่อ ทั้งยังมีการรวมรายชื่อกลุ่มต่อต้านสถาบันฯ โดยมีเพจพรรคประชาชนก็อยู่ในกลุ่มที่ต่อต้านสถาบันด้วย


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับเอกสารดังกล่าวทางกอ.รมน. ยอมรับกับทางกมธ.ฯว่าเป็นเอกสารจริง โดยไม่มีข้อโต้แย้งว่าเป็นเอกสารปลอม แต่กอ.รมน. ปฏิเสธว่าเนื้อหาการจัดหมวดหมู่ว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาด เนื่องจากนำเนื้อหาข้อมูลทั่วไปมาจากอินเตอร์เน็ต โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าหากมีความผิดพลาดจริงต้องมีการลงโทษลงโทษผู้กระทำผิด เนื่องจากเป็นการกระทำผิดที่ซ้ำซากคล้ายจงใจ ป้ายสีฝ่ายการเมือง

“ที่บอกว่าการผิดพลาดหลายๆ ครั้ง มันดูจะไม่น่าเป็นความผิดพลาดแล้ว แต่เป็นความจงใจที่จะทำให้เกิดการใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมืองที่เป็นซีกรัฐบาล หรือซีกฝ่ายค้าน ซึ่งเอกสารพวกนี้มีการเปิดเผยและส่งต่อให้หน่วยงานต่างๆ ซึ่งต้องมีการลงนาม ดังนั้นหากเอาผิดสามารถเอาผิดได้เลย หาก กอ.รมน. บริสุทธ์ใจ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อความแตกแยกทางการเมือง ในเรื่องนี้ต้องมีบุคคลรับผิด ” นายรังสิมันต์กล่าว


นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการใช้ IO มีโครงสร้างที่คณะทำงานพิเศษกองทัพบก ที่ปรากฏชื่อ พล.อ.ธรรมนูญ วิถี เป็นหัวหน้าคณะทำงานพิเศษ ในส่วนนี้พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ยอมรับกับ กมธ.ฯว่า คณะทำงานพิเศษกองทัพบก มีอยู่จริง แต่ปฏิเสธว่าไม่มีการดำเนินการใดๆในลักษณะการใส่ร้ายป้ายสี เป็นการทำงานในลักษณะการประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบกเท่านั้น ซึ่งมีการส่งต่อไปยังอินฟลูเอนเซอร์ และนักข่าว ที่ติดตามกองทัพอยู่เป็นประจำเท่านั้น

ประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ ยังได้ยกตัวอย่างบัญชี IO ที่อาจเชื่อมโยงกับทางกองทัพ เช่น บัญชี “เจ๊จุกคลองสาม” ที่ครั้งหนึ่งเคยแสดงอยู่หน้าจอ LCD ของกองทัพบก ที่ พล.ต.วินธัย ชี้แจงว่าเป็นความผิดพลาด กองทัพไม่ได้อยู่เบื้องหลังบัญชีดังกล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นอกจากนั้นยังพบภาพที่เผยแพร่ข้อมูลตำรวจควบคุมฝูงชน ที่มองว่าภาพดังกล่าวมุมที่เกิดขึ้นต้องมาจากตำรวจเป็นคนถ่ายเท่านั้น หรือภาพที่มีการอ้างถึงม๊อบ vivo แต่เมื่อดจากมุมถ่ายภาพ ก็คือมุมจากทางตำรวจ ในส่วนนี้ทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ได้ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องนี้ เบื้องต้น กมธ.ฯ จึงตั้งข้อสังเกตว่าว่าอย่างน้อยต้องตรวจสอบในเรื่องนี้ ว่าผู้ที่นำข้อมูลลับของราชการมาเผยแพร่เป็นบุคคลในราชการตำรวจ และกองทัพ หรือไม่


“เมื่อฝ่ายความมั่นคง ปฏิเสธการเข้าไปเกี่ยวข้องกับ IO จึงหวังว่า หน่วยงานความมั่นคงจะทำหน้าที่ตามกฏหมาย โดยไม่ปล่อยให้ปฏิบัติการ IO เกิดขึ้นต่อไป”นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมวันนี้ (1 พ.ค.) สืบเนื่องมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายชยพล สท้อนดี ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาชน และเป็นการเชิญครั้งที่ 2 ต่อจากการเชิญครั้งแรกที่หลายหน่วยงานไม่ได้มา โดยครั้งนี้หลายหน่วยงานตอบรับร่วมเข้าชี้แจงเป็นอย่างดีทั้ง กอ.รมน. กระทรวงกลาโหม ,กองทัพบก ,กองทัพเรือ ,กองทัพอากาศ ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.),คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง(ป.ป.ช.)และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน(สตง.) สำหรับรายบุคคลที่ไม่ได้มาชี้แจงในครั้งนี้ เช่น พล.อง ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหาร ,พล.ท.วณัฐ ลักษณ์สิริ ผู้อำนวยการสำนักการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ,พล.ต. นิพัฒน์ เล็กฉลาด ผู้อำนวยการศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก

ขณะที่นายชยพล กล่าวเสริมว่า การที่ กอ.รมน.ไม่ยอมรั เรื่องการทำ IO ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนโดยรวม แม้ข้อมูลนั้น จะอยู่ในเอกสารเดียวกัน แต่ก็มีการรับเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น จึงอยากให้สังคมเป็นผู้ตัดสิน ส่วนบัญชี “เจ๊จุกคลอง3” ซึ่งมีการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลทางการเมืองหลายคน หน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงระบุว่า ไม่ใช่หน่วยงานส่งข้อมูลให้โดยตรง แต่อาจเป็นการรั่วไหลของข้อมูลต่างๆ ซึ่งน่ากังวลว่า ข้อมูลที่รั่วไหลไปสู่เพจที่มีแนวคิดสนับสนุนวิธีการของกองทัพ นำไปใช้โจมตีบุคคลทางการเมืองต่างๆ นั้น จึงสอบถามว่าหน่วยงานความมั่นคงจะสามารถติดตามบุคคลเหล่านี้มาดำเนินคดีได้หรือไม่ แต่ไม่ได้รับคำตอบ หรือการยืนยันใดๆ ว่าจะสามารถติดตามบัญชีในลักษณะแอคหลุมได้จริงหรือไม่

นายชยพล กล่าวต่อว่า มีรายงานภัยคุกคามภายในราชอาณาจักร ของจังหวัดสกลนคร ที่ระบุถึงการที่กองทัพไปดำเนินคดีกับบัญชีผู้ใช้หลายคน ที่ไม่ได้ใช้ชื่อจริงของตัวเอง ซึ่งโพสต์ในลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ต่อกองทัพ และกองทัพก็สามารถติดตามตัวจนเจอ รู้ชื่อนามสกุล เพื่อจับตัวนำมาดำเนินคดี จึงต้องตั้งคำถามว่า นี่คือการเลือกปฏิบัติหรือไม่ คือจะดำเนินคดี และติดตามอย่างจริงจัง เฉพาะบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อกองทัพหรือไม่ และจงใจปล่อยข้อมูล ปล่อยให้บุคคลที่มีแนวคิดเดียวกันกับกองทัพลอยนวล กองทัพควรมีแนวคิดเช่นนี้หรือไม่ เพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของกองทัพแน่นอน

นายชยพล กล่าวด้วยว่า การดำเนินการหลังจากนี้ จะต้องมีการดำเนินการร้องเรียน และส่งหลักฐานไปที่หน่วยงานใดบ้าง โดยเฉพาะหน่วยงานที่เป็นแขนขาสำคัญของโครงสร้างคณะทำงานพิเศษกองทัพบก และจะมีการตรวจสอบรายชื่อหน่วยงานย้อนหลัง ว่ามีหน่วยงานใดเป็นผู้รวบรวมข้อมูลส่งเข้ามา และใครเป็นผู้เซ็นต์รับรอง รวมถึงการขอรายชื่ออินฟลูเอ็นเซอร์ด้วย เพราะแม้เนื้อหาบางส่วนจะมาจากสื่อมวลชนกระแสหลัก แต่กองทัพก็ยอมรับว่า สื่อนั้น ผิดพลาด บิดเบือนข้อมูล ไม่มีข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับของกองทัพ จึงใช้ขอความร่วมมือให้อินฟลูเอ็นเซอร์สื่อสารแทนกองทัพ เพื่อเผยแพร่ข้อจริงที่กองทัพเห็นว่า คือข้อเท็จจริง และกองทัพยืนยันว่า ไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย