กมธ.มั่นคงฯ จี้เอาผิดคนทำเอกสาร จัดเพจ “ปชน.” อยู่กลุ่มต้านสถาบัน

รัฐสภา​1พ.ค.- กมธ.มั่นคงฯ จี้ กอ.รมน. เอาผิดคนทำเอกสารจัดหมวดหมู่ เพจ “พรรคประชาชน” ถูกจัดในกลุ่มต่อต้านสถาบัน หลังหน่วยงานยอมรับเอกสารจริง แต่แจงเป็นการทำข้อมูลผิดพลาด “โรม” ชี้ผิดที่ซ้ำซากคล้ายจงใจป้ายสีฝ่ายการเมือง เผย “วินธัย” รับมีคณะทำงานพิเศษ IO แค่พีอาร์กองทัพ ไม่มีใส่ร้ายป้ายสี ปัดอยู่เบื้องหลังบัญชี “เจ๊จุกคลองสาม”

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมกมธ.ฯ พิจารณาศึกษาปฏิบัติการข่าวสาร ( IO ) ทางสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ส่งผลกระต่อสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน ว่า เอกสารของ กอ.รมน.ที่ได้มีการสรุปข่าวและประเมินสถานการณ์เป็นประจำ พบปัญหาที่เห็นคือ ทาง กอ.รมน. ได้มีการสรุปข้อมูลข่าวสาร และกระจายต่อในลักษณะที่เป็นการกล่าวหาและใส่ความเท็จต่อบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหมวดหมู่ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และและประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม อยู่ในรายชื่อ ทั้งยังมีการรวมรายชื่อกลุ่มต่อต้านสถาบันฯ โดยมีเพจพรรคประชาชนก็อยู่ในกลุ่มที่ต่อต้านสถาบันด้วย


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับเอกสารดังกล่าวทางกอ.รมน. ยอมรับกับทางกมธ.ฯว่าเป็นเอกสารจริง โดยไม่มีข้อโต้แย้งว่าเป็นเอกสารปลอม แต่กอ.รมน. ปฏิเสธว่าเนื้อหาการจัดหมวดหมู่ว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาด เนื่องจากนำเนื้อหาข้อมูลทั่วไปมาจากอินเตอร์เน็ต โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าหากมีความผิดพลาดจริงต้องมีการลงโทษลงโทษผู้กระทำผิด เนื่องจากเป็นการกระทำผิดที่ซ้ำซากคล้ายจงใจ ป้ายสีฝ่ายการเมือง

“ที่บอกว่าการผิดพลาดหลายๆ ครั้ง มันดูจะไม่น่าเป็นความผิดพลาดแล้ว แต่เป็นความจงใจที่จะทำให้เกิดการใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมืองที่เป็นซีกรัฐบาล หรือซีกฝ่ายค้าน ซึ่งเอกสารพวกนี้มีการเปิดเผยและส่งต่อให้หน่วยงานต่างๆ ซึ่งต้องมีการลงนาม ดังนั้นหากเอาผิดสามารถเอาผิดได้เลย หาก กอ.รมน. บริสุทธ์ใจ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อความแตกแยกทางการเมือง ในเรื่องนี้ต้องมีบุคคลรับผิด ” นายรังสิมันต์กล่าว


นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการใช้ IO มีโครงสร้างที่คณะทำงานพิเศษกองทัพบก ที่ปรากฏชื่อ พล.อ.ธรรมนูญ วิถี เป็นหัวหน้าคณะทำงานพิเศษ ในส่วนนี้พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ยอมรับกับ กมธ.ฯว่า คณะทำงานพิเศษกองทัพบก มีอยู่จริง แต่ปฏิเสธว่าไม่มีการดำเนินการใดๆในลักษณะการใส่ร้ายป้ายสี เป็นการทำงานในลักษณะการประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบกเท่านั้น ซึ่งมีการส่งต่อไปยังอินฟลูเอนเซอร์ และนักข่าว ที่ติดตามกองทัพอยู่เป็นประจำเท่านั้น

ประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ ยังได้ยกตัวอย่างบัญชี IO ที่อาจเชื่อมโยงกับทางกองทัพ เช่น บัญชี “เจ๊จุกคลองสาม” ที่ครั้งหนึ่งเคยแสดงอยู่หน้าจอ LCD ของกองทัพบก ที่ พล.ต.วินธัย ชี้แจงว่าเป็นความผิดพลาด กองทัพไม่ได้อยู่เบื้องหลังบัญชีดังกล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นอกจากนั้นยังพบภาพที่เผยแพร่ข้อมูลตำรวจควบคุมฝูงชน ที่มองว่าภาพดังกล่าวมุมที่เกิดขึ้นต้องมาจากตำรวจเป็นคนถ่ายเท่านั้น หรือภาพที่มีการอ้างถึงม๊อบ vivo แต่เมื่อดจากมุมถ่ายภาพ ก็คือมุมจากทางตำรวจ ในส่วนนี้ทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ได้ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องนี้ เบื้องต้น กมธ.ฯ จึงตั้งข้อสังเกตว่าว่าอย่างน้อยต้องตรวจสอบในเรื่องนี้ ว่าผู้ที่นำข้อมูลลับของราชการมาเผยแพร่เป็นบุคคลในราชการตำรวจ และกองทัพ หรือไม่


“เมื่อฝ่ายความมั่นคง ปฏิเสธการเข้าไปเกี่ยวข้องกับ IO จึงหวังว่า หน่วยงานความมั่นคงจะทำหน้าที่ตามกฏหมาย โดยไม่ปล่อยให้ปฏิบัติการ IO เกิดขึ้นต่อไป”นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมวันนี้ (1 พ.ค.) สืบเนื่องมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายชยพล สท้อนดี ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาชน และเป็นการเชิญครั้งที่ 2 ต่อจากการเชิญครั้งแรกที่หลายหน่วยงานไม่ได้มา โดยครั้งนี้หลายหน่วยงานตอบรับร่วมเข้าชี้แจงเป็นอย่างดีทั้ง กอ.รมน. กระทรวงกลาโหม ,กองทัพบก ,กองทัพเรือ ,กองทัพอากาศ ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.),คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง(ป.ป.ช.)และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน(สตง.) สำหรับรายบุคคลที่ไม่ได้มาชี้แจงในครั้งนี้ เช่น พล.อง ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหาร ,พล.ท.วณัฐ ลักษณ์สิริ ผู้อำนวยการสำนักการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ,พล.ต. นิพัฒน์ เล็กฉลาด ผู้อำนวยการศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก

ขณะที่นายชยพล กล่าวเสริมว่า การที่ กอ.รมน.ไม่ยอมรั เรื่องการทำ IO ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนโดยรวม แม้ข้อมูลนั้น จะอยู่ในเอกสารเดียวกัน แต่ก็มีการรับเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น จึงอยากให้สังคมเป็นผู้ตัดสิน ส่วนบัญชี “เจ๊จุกคลอง3” ซึ่งมีการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลทางการเมืองหลายคน หน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงระบุว่า ไม่ใช่หน่วยงานส่งข้อมูลให้โดยตรง แต่อาจเป็นการรั่วไหลของข้อมูลต่างๆ ซึ่งน่ากังวลว่า ข้อมูลที่รั่วไหลไปสู่เพจที่มีแนวคิดสนับสนุนวิธีการของกองทัพ นำไปใช้โจมตีบุคคลทางการเมืองต่างๆ นั้น จึงสอบถามว่าหน่วยงานความมั่นคงจะสามารถติดตามบุคคลเหล่านี้มาดำเนินคดีได้หรือไม่ แต่ไม่ได้รับคำตอบ หรือการยืนยันใดๆ ว่าจะสามารถติดตามบัญชีในลักษณะแอคหลุมได้จริงหรือไม่

นายชยพล กล่าวต่อว่า มีรายงานภัยคุกคามภายในราชอาณาจักร ของจังหวัดสกลนคร ที่ระบุถึงการที่กองทัพไปดำเนินคดีกับบัญชีผู้ใช้หลายคน ที่ไม่ได้ใช้ชื่อจริงของตัวเอง ซึ่งโพสต์ในลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ต่อกองทัพ และกองทัพก็สามารถติดตามตัวจนเจอ รู้ชื่อนามสกุล เพื่อจับตัวนำมาดำเนินคดี จึงต้องตั้งคำถามว่า นี่คือการเลือกปฏิบัติหรือไม่ คือจะดำเนินคดี และติดตามอย่างจริงจัง เฉพาะบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อกองทัพหรือไม่ และจงใจปล่อยข้อมูล ปล่อยให้บุคคลที่มีแนวคิดเดียวกันกับกองทัพลอยนวล กองทัพควรมีแนวคิดเช่นนี้หรือไม่ เพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของกองทัพแน่นอน

นายชยพล กล่าวด้วยว่า การดำเนินการหลังจากนี้ จะต้องมีการดำเนินการร้องเรียน และส่งหลักฐานไปที่หน่วยงานใดบ้าง โดยเฉพาะหน่วยงานที่เป็นแขนขาสำคัญของโครงสร้างคณะทำงานพิเศษกองทัพบก และจะมีการตรวจสอบรายชื่อหน่วยงานย้อนหลัง ว่ามีหน่วยงานใดเป็นผู้รวบรวมข้อมูลส่งเข้ามา และใครเป็นผู้เซ็นต์รับรอง รวมถึงการขอรายชื่ออินฟลูเอ็นเซอร์ด้วย เพราะแม้เนื้อหาบางส่วนจะมาจากสื่อมวลชนกระแสหลัก แต่กองทัพก็ยอมรับว่า สื่อนั้น ผิดพลาด บิดเบือนข้อมูล ไม่มีข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับของกองทัพ จึงใช้ขอความร่วมมือให้อินฟลูเอ็นเซอร์สื่อสารแทนกองทัพ เพื่อเผยแพร่ข้อจริงที่กองทัพเห็นว่า คือข้อเท็จจริง และกองทัพยืนยันว่า ไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ศาลปกครองสูงสุด สั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้านบาท

22 พ.ค. – ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ความเสียหาย 10,028 ล้านบาท จากคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ ก.คลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ศาลปกครองสูงสุดนัดออกบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดีที่กระทรวงการคลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351 /2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717 ล้านบาท ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังเฉพาะส่วน ให้ชดใช้จำนวน 10,028 ล้านบาท และเพิกถอนคำสั่งยึดอาญัติทรัพย์สิน เพื่อขายทอดตลาด และคำสั่งอื่น โดยเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำอุทธรณ์ฟังขึ้นบางส่วน ศาลพิจารณาว่าไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในการจำนำข้าวเปลือกนาปี แต่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายการระบายข้าวโดยวิธีการขายแบบรัฐต่อรัฐหรือ จีทูจี จากความเสียหาย 20,057 ล้านบาท เพราะประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดความเสียหาย และต้องกำหนดสัดส่วนรับผิด ร้อยละ 50 […]

“ยิ่งลักษณ์” ส่งทนายฟังคำพิพากษา ลุ้นชดใช้คดีจำนำข้าว

ศาลปกครอง 22 พ.ค.- “ยิ่งลักษณ์” ส่งทนายรอฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ชดใช้ 3.5 หมื่นล้านบาท คดีจำนำข้าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. ศาลปกครองสูงสุดเตรียมออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ในคดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ในคดีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย บรรยากาศที่ศาลปกครอง ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน. ทุ่งสองห้องราว 20 นาย มารักษาความสงบเรียบร้อย […]

ปรับแผนช่วยคนงานตกหลุมลึก 19 เมตร – 4 วันยังไม่ถึงครึ่งทาง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เตรียมปรับแผนการค้นหานำร่างคนงานขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตร หลัง 4 วัน ยังขุดลงไปไม่ถึงครึ่งทาง ผ่านไปแล้ว 4 วัน สำหรับการค้นหานำร่างคนงานที่ตกลงไปในหลุมโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 8 ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องแบบ 24 ชั่วโมง มีรายงานว่า ขณะนี้ขุดลงไปได้ประมาณ 7 เมตร จากความลึกของหลุม 19 เมตร ยังไม่พบร่างของผู้สูญหายแต่อย่างใด อุปสรรคสำคัญคือเสาเข็มปูนขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ในหลุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการประชุมหารือปรับแผนการช่วยเหลือกันอีกครั้ง หลังจากวางแผ่นชีสไพล์แล้ว แต่ยังไม่มั่นใจ 100% ว่าแผนนี้จะป้องกันไม่ให้ดินสไลด์ลงไปทับคนงานที่กำลังลงไปช่วยหรือไม่ โดยการทำงานจะเน้นความปลอดภัยของทุกคนเป็นหลัก ส่วนตัวเลขการขุดเจาะ เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ทางรองผู้ว่าฯ กทม. แจ้งว่าขุดลึกไปได้แล้ว 9 เมตรนั้น ทางหน้างานขอชี้แจงว่าให้ยึดตัวเลขล่าสุดเป็นหลัก เพราะวัดจากขอบถนนและพื้นด้านล่างไม่เสมอกัน บางชุดอาจขุดลงไปได้มากกว่า แต่เป็นจุดที่ลงไปไม่ได้ ยอมรับการปฏิบัติงานครั้งนี้ยากกว่าที่คิด แต่ไม่เกินขีดความสามารถอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำทีมแถลงคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” เปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด

22 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำแถลงความคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” ยักยอกเงินวัดไร่ขิง พร้อมเปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด สนทนากับสีกาคนสนิท ส่วนเงินบัญชีวัดไร่ขิง และภายในมูลนิธิฯ พบว่ามีการทำธุรกรรมผิดปกติหลายรายการ และยังพบเงินกฐินถูกถอนออกไป ไม่มีการนำเข้าบัญชีวัด.-สำนักข่าวไทย