“อนุดิษฐ์” จ่อนำข้อมูล “นายหน้าค้าโควิด” เข้าตรวจสอบใน กมธ.ป.ป.ช.

กรุงเทพฯ 2 ม.ค. – “อนุดิษฐ์” เตรียมนำข้อมูล “นายหน้าค้าโควิด” เข้าตรวจสอบใน กมธ.ป.ป.ช. เชื่อจะสามารถกระชากหน้ากากผู้มีอำนาจรับ “ส่วยโควิด” ค้าแรงงานต่างด้าว เพื่อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง


น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลอ้างว่า การระบาดโควิด-19 ในรอบแรกเตรียมตัวไม่ทัน จึงเกิดการแพร่ระบาด และขอให้พี่น้องประชาชนทุกคน “การ์ดอย่าตก” ซึ่งพบว่าผู้ติดเชื้อรอบแรกส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสนามมวยลุมพินี แต่ประชาชนต้องควักเงินซื้ออุปกรณ์ป้องกันตัวเอง ทำตามที่รัฐบาลร้องขอทุกประการ ทำให้ธุรกิจจำนวนมากต้องปิดตัวลง หลายคนต้องตกงาน แต่สุดท้ายแขก VIP ของรัฐบาลติดโควิดเดินทางเข้ามาในประเทศ ไม่ผ่านมาตรการคัดกรอง

ส่วนโควิด-19 รอบ 2 ที่แพร่ระบาดในขณะนี้ มีหลายฝ่ายออกมาเตือนตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนว่า จะมีการระบาดรอบ 2 เพราะอินโดนีเซียและเมียนมา เกิดการระบาด ซึ่งรัฐบาลได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตามแนวชายแดน ระยะทางกว่า 5,000 กิโลเมตร และพบว่ามีการลักลอบเข้าเมืองจากช่องทางธรรมชาติ เป็นไปตามที่รัฐบาลได้ระบุก่อนหน้านี้


แต่ปัญหาสำคัญไม่ได้อยู่ที่การลักลอบเข้ามาเพียงอย่างเดียว ปัญหาอยู่ตรงที่แรงงานต่างด้าวเข้าเมืองได้อย่างไร มีงานทำได้อย่างไร และที่สำคัญคือ การได้รับอภิสิทธิ์ไม่ต้องกักโรค 14 วันได้อย่างไร

“จึงต้องตั้งคำถามว่า ขบวนการนายหน้าค้าแรงงานต่างด้าว คือคำตอบของเรื่องนี้ทั้งหมดหรือไม่” เพราะจากข้อมูลผู้ที่เคยรับผิดชอบเรื่องระบาดวิทยาในพื้นที่ได้ถ่ายทอดให้คณะทำงานของตนเองนั้น ทราบว่า การค้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมีอยู่จริง ขบวนการนำเข้าต่างด้าว มีทั้งกลุ่มคนมีสี ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ของรัฐที่เห็นแก่ได้ นายหน้าทั้งไทยและต่างด้าว ร่วมมือกันเพื่อป้อนแรงงานผิดกฎหมายเหล่านี้ให้กับเจ้าของธุรกิจในประเทศไทย และมีผลประโยชน์มหาศาล เพราะกินกันถึง 2 เด้ง เก็บเงินทั้งจากนายจ้าง และเก็บเงินจากชาวต่างประเทศที่ลักลอบเข้าเมือง โดยแต่ละวันปล่อยให้ทะลักเข้ามาหลายร้อยหลายพันคน จึงต้องกระชากหน้ากากไอ้โม่ง ที่ปล่อยปละละเลย มีความบกพร่อง ไร้ประสิทธิภาพ หรือที่แย่ไปกว่านั้น คือ มีส่วนร่วมในกระบวนการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ในครั้งนี้ ออกมาให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็น

สำหรับการระบาดรอบนี้ คนไทยทั้งประเทศต้องเสี่ยงตายจากโรคร้าย และอดตายเพราะพิษเศรษฐกิจ สาเหตุทั้งหมดมาจากส่วยโควิด ซึ่งผู้มีอำนาจในประเทศปล่อยให้ขบวนการค้าแรงงานต่างด้าว หรือ “นายหน้าค้าโควิด” นำพาหะที่มีเชื้อโรคร้ายแรงเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง เรื่องดังกล่าวจึงต้องประชาสัมพันธ์ถึงพลเมืองดี ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากมีข้อมูลหรือเบาะแสใดๆ เกี่ยวกับขบวนการค้าแรงงานต่างด้าว สามารถส่งข้อมูลมาที่ตนเอง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำไปตรวจสอบประมวลผล เพื่อใช้ประโยชน์ในชั้นของกรรมาธิการต่อไป


สำหรับผู้ที่ให้ข้อมูลและเกิดความไม่สบายใจ ก็สามารถใช้นามแฝงได้ โดยตนเองจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อทำความจริงปรากฏโดยเร็ว และหากติดตามข้อเท็จจริงและพิสูจน์ได้ว่าเป็นความรับผิดชอบของเจ้ากระทรวงคนใดที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ผิดพลาด ไร้ประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลยให้มีขบวนการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าว และยังนิ่งเฉยปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ไม่ดำเนินการใดๆ จะถือว่าผู้นั้นรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำครั้งนี้ด้วย ซึ่งตนเองจะนำข้อมูลข้อเท็จจริงดังกล่าวไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้