นครศรีธรรมราช 10 เม.ย. – ตำรวจนครศรีธรรมราช ตามจับโจรชิงทอง 2 บาท ได้สำเร็จ หลังหลบหนีไป จ.เชียงใหม่ สารภาพเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบจึงก่อเหตุ
ย้อนดูเหตุการณ์ชายวัยรุ่น อายุประมาณ 20-25 ปี ทำทีเลือกดูสร้อยคอทองคำ ก่อนอาศัยจังหวะเจ้าของร้านเผลอ หยิบสร้อยคอทองคำ 1 บาท จำนวน 2 เส้น วิ่งหลบหนี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 67 ร้านทองแห่งหนึ่ง ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังเกิดเหตุเจ้าของร้านคือ นายกาว แซ่กัว วัย 83 ปีในขณะนั้น แจ้งความเพื่อให้ตำรวจตามจับกุมคนร้าย แต่เวลาผ่านไปเกือบปีเรื่องยังเงียบและไร้วี่แวว จนเกือบจะหมดหวังไปแล้ว
วานนี้ (9 เม.ย.) ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้เป็นผลสำเร็จ หลังใช้เวลานานเกือบปี พ.ต.อ.ดร.ธีรวุฒิ เทพเลื่อน ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นำตัวนายสิทธิเดช หรือไข่แดง อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาชิงทองน้ำหนัก 2 บาท ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พ.ต.อ.ดร.ธีรวุฒิ เล่าถึงพฤติกรรมของนายไข่แดง ว่าเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 67 นายไข่แดงใช้รถมอเตอไซค์ฮอนด้าเวฟสีขาว-ดำ ไปจอดไว้ข้างซอยข้างๆ ร้านทอง ห่างออกมาประมาณ 500 เมตร แล้วเดินเท้ามาที่ร้านทองโดยใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ทำทีเข้าไปในร้านทอง และบอกว่าจะมาดูสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น ไปใช้ในพิธีงานแต่งงาน เจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้สูงอายุหลงเชื่อจึงหยิบสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท มาให้ดู 2 เส้น แล้วทำทีพินิจพิเคราะห์ดูสร้อยคอ จากนั้นอาศัยช่วงเจ้าของเผลอ นายไข่แดงจึงหยิบสร้อยคอทองคำทั้ง 2 เส้น วิ่งหลบหนีไป
ตำรวจสืบจนทราบว่านายไข่แดงหลบหนีไปอยู่ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จึงประสานไปยังสถานีตำรวจ สภ.เชียงดาว จนสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา บริเวณด่านตรวจแก่งปันเต้า เขตเทศบาลตำบลแม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และส่งตัวมายัง สภ.อ.ทุ่งสง เพื่อดำเนินคดี
สอบสวนนายไข่แดงให้การว่าตนเองเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบประมาณ 30,000 กว่าบาท จึงเกิดความเครียด และขี่รถจักรยานยนต์มายังตลาดในเมืองทุ่งสง พบว่าร้านทองดังกล่าวไม่มีคน และคนขายเป็นผู้สูงอายุ จึงตัดสินใจชิงทอง จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้านั่งรถ บขส. หนีไป จ.สุราษฎร์ธานี แล้วเอาทองไปขายได้เงินมา 80,000 บาท ก่อนรุ่งขึ้นอาศัยรถเพื่อนไปยัง อ.เชียงดาว ไปรับจ้างกรีดยาง กระทั่งถูกจับกุมตัว สรุปใช้เวลาในการหลบหนี 9 เดือนกว่า.-สำนักข่าวไทย