10 เม.ย. – “บิ๊กโอ๋” สั่งขยายผลคนร้ายชาวมาเลเซียก่อเหตุชิงทองซ้ำในพื้นที่หาดใหญ่ หลังติดคุกกว่า 20 ปี ถูกขึ้นบัญชีดำ แต่พบลอบเข้าไทย ประวัติอื้อมีบัตรประชาชนหลายใบ
พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พร้อมด้วยตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจภูธรภาค 9 แถลงจับกุม นายอาหวู่พะ สินเถา หรือ อนุชา แซ่โหยว หรือ นายยี บุน ลง (Mr.Yee Boon Long) อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาชิงทองรูปพรรณน้ำหนักรวมกว่า 138 บาท มูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท ที่ร้านทองกลางเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 8 เมษายน จากนั้นตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับได้ พร้อมของกลางทองครบจำนวน อาวุธและกระสุนปืน 50 นัด ก่อนถูกจับกุมที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เขตตลิ่งชัน ขณะที่กำลังจะเดินทางมาหาลูกชายที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
พล.ต.อ.ธนายุตม์ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหามีประวัติเคยก่อเหตุตั้งแต่อายุ 17 ปี ในประเทศมาเลเซีย ทั้งคดีปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่น จนกระทั่งถูกผลักดันออกนอกประเทศมาเลเชีย เลยหนีมากบดานในประเทศไทย พบว่า ยังมีการก่อเหตุซ้ำโดยเมื่อปี 2558 ได้ฆ่าผู้อื่น 2 ราย ที่อ.หาดใหญ่ และปี 2560 ก่อเหตุชิงทองกว่า 100 บาท บริเวณร้านทองตรงข้ามร้านที่ปล้นปัจจุปัน โดยมีการนำทองบางส่วนไปขายเพื่อซื้ออาวุธปืน ซึ่งคดีเก่าถูกจับกุมและถูกศาลจำคุกกว่า 20 ปี และกำลังตรวจตรวจสอบรายละเอียดว่าได้รับการประกันตัวหรือได้รับการปล่อยตัวเมื่อใด และในปี 2568 มาก่อเหตุชิงทองร้านดังกล่าว
จากการขยายผลพบว่า ผู้ต้องหาถือ 2 สัญชาติ คือสัญชาติไทยและมาเลเซีย รวมทั้งมีบัตรประชาชนคนไทยหลายใบ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ ตำรวจภูธรภาค 9 ตรวจสอบรายละเอียดว่าการที่ผู้ต้องหาถูกจับกุมในคดีอาญา แล้วมีการผลักดันออกนอกประเทศไปช่องทางใด แต่ยืนยันเบื้องต้นว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้มีการผลักดันและขึ้นแบล็คลิสไปแล้ว ส่วนการที่ผู้ต้องหาเข้ามาก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่าเข้ามาโดยช่องทางธรรมชาติ แต่ยืนยันไม่ได้เป็นการบกพร่องของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แต่เพราะผู้ต้องหาจงใจเข้ามาก่อเหตุ จึงหาวิธีหลบเลี่ยง ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องหรือไม่ ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบขยายผลที่มาของอาวุธปืนดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ธนายุตม์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ภายใน 24 ชั่วโมง เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน พร้อมฝากถึงผู้ที่ก่อเหตุ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่ว่าจะเป็นการก่อเหตุในร้านทองหรือธนาคาร ไม่สามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างแน่นอน. -420-สำนักข่าวไทย