กกต.จัด kick off ชวนปชช. ใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาล

10 เม.ย.- กกต.จัด kick off ชวนประชาชนออกมา เลือกตั้งเทศบาล ยืนยันความพร้อมอำนวยความสะดวก ตั้งเป้าคนลงคะแนนร้อยละ 70 เน้นย้ำผู้สมัครตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม รับรองตัวเอง ไม่มีสิทธิโดนโทษหนัก


สำนักงานคณะกรรมการจัดกิจกรรม kick off การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี “สร้างสรรค์ประเทศไทยพร้อมใจไปเลือกตั้ง” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 กรณีครบวาระจำนวน 76 จังหวัด 2,469 แห่ง โดยเป็นการเลือกตั้งทั้งสมาชิกและนายกเทศมนตรี จำนวน 2,121 แห่ง เป็นการเลือกตั้งเฉพาะสมาชิกสภาเทศบาล จำนวน 348 แห่ง เนื่องจากมีการเลือกกรณีพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นนอกจากครบวาระไปก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสวนา เพื่อรณรงค์และสร้างสรรค์การรับรู้ถึงความสำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี และกระตุ้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง และออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยมีนางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และนายสุทธิพงษ์ เชาวน์แล่น ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และยังมีหน่วยงานผู้แทนภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมกิจกรรม


นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานเปิดกิจกรรม kick off เลือกตั้งเทศบาล กล่าวว่ากิจกรรมครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญช่วยส่งเสริมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีที่จะมีขึ้น เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นกระบวนการที่สำคัญในการเสริมสร้างการปกครองท้องถิ่นให้เข้มแข็ง ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง เพื่อพัฒนาท้องถิ่นของตนเองให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน พร้อมขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนมั่นใจว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงาน กกต.และภาคีเครือข่ายจัดการเลือกตั้งทุกภาคส่วนมีความพร้อมที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย และพร้อมอำนวยความสะดวกในการออกไปใช้สิทธิของประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม พร้อมขอเชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ซึ่งกกต.ได้มีการจัดทำ application smart vote ให้ทุกคนศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้อย่างครบถ้วน สะดวกและรวดเร็วเพื่อสร้างความพร้อมให้แก่ตนเองในการออกไปใช้สิทธิอย่างมีคุณภาพ และเพื่อให้ทุกเสียงมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองสมกับชื่อกิจกรรม “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง”

นายอิทธิพร ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของ กกต.ในการจัดการเลือกตั้ง โดยยืนยันว่ามีความพร้อมทุกด้านทั้งบุคลากร การประชาสัมพันธ์ รวมถึงภาคีเครือข่ายที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการเลือกตั้งก็มีความพร้อมไม่ว่าจะเป็นกรมการปกครอง กรมประชาสัมพันธ์ โดยจะพยายามประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงความสัมพันธ์ของการเลือกตั้งท้องถิ่นในรูปแบบเทศบาล รวมถึงบัตรเลือกตั้งก็จัดพิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีบัตร 2 ใบ โดยสีเหลืองทองจะเป็นบัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและบัตรเลือกตั้งสีเขียวสำหรับเลือกสมาชิกสภาเทศบาล ทั้งนี้ขั้นตอนการรับสมัครเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ประกาศรายชื่อ โดยวันที่ 11 เมษายนจะมีการประกาศรายชื่อผู้สมัครหลังผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม

ส่วนจะมีการจับตาพื้นที่ไหนเป็นพิเศษในการส่งชุดเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ไปตรวจสอบ นายอิทธิพรกล่าวว่า กกต.มีชุดเคลื่อนที่เร็วทุกจังหวัด โดยประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่พบยังมีความเรียบร้อย และก็หวังว่าทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะแนวโน้มการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่ผ่านมาลดลงเรื่อยๆ โดยดูจากคำร้อง ซึ่งในการเลือกตั้งระดับ อบจ.ปี 2563 มีคำร้อง 600 กว่าเรื่อง และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2568 มีคำร้อง 500 กว่าเรื่อง เชื่อว่าแนวโน้มน่าจะดีขึ้นเรื่องการแข่งขัน เรื่องการร้องเรียนการทำผิดกฎหมายก็จะน้อยลง และกกต. ได้เตรียมความพร้อม ยืนยันว่า กกต.ได้เตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งแล้วพร้อมจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมและชอบด้วย โดยครั้งนี้ตั้งเป้าว่าจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 70 เนื่องจากครั้ง ที่ผ่านมามีประชาชน ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 66 แม้ว่ายอดเฉลี่ยจะดูน้อย แต่มีบางจังหวัดที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก เช่นจังหวัดพัทลุง ร้อยละ 83 ดังนั้น จึงต้องเพิ่มความพยายามในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง


ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครบางรายที่อาจมีลักษณะต้องห้ามในการลงรับสมัครเลือกตั้ง นายอิทธิพร กล่าวว่า โดยปกติ กกต.ก็จะมีหนังสือไปสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้สมัครทุกคนก็ควรต้องตระหนัก ว่าตัวเองมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามอย่างไรหรือไม่ ซึ่งมีข้อห้ามบัญญัติไว้ชัดเจนตามกฎหมายดังนั้นเป็นหน้าที่ของผู้สมัคร ที่ต้องรับรองตัวเองด้วยหากมาสมัครโดยไม่มีสิทธิ์ก็จะโดนดำเนินคดี ตามมาตรา 120

นายอิทธิพรยังกล่าวถึงช่องทางในการตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการเลือกตั้งระดับเทศบาล โดยสามารถตรวจสอบ 3 ช่องทาง คือเอกสารแจ้งเจ้าบ้าน ซึ่งจะแจกให้กับทุกบ้านอย่างน้อย 15 วันก่อนการเลือกตั้ง เว็บไซต์กกต. และ แอปพลิเคชั่นสมาร์ท โหวต หลังจากนี้ก็จะมีการนำข้อมูลของผู้สมัครทุกรายประชาชนได้ศึกษา สำหรับมีผู้มาสมัครการเลือกตั้งในระดับเทศบาลมีผู้มาสมัคร 65,000 คนโดยสมัครนายกเทศมนตรี ประมาณ4,500 คน ส่วนที่เหลือเป็นการสมัครสมาชิกสภาเทศบาล รวมถึงยังสามารถใช้แอปพลิเคชัาน ดังกล่าวตรวจสอบที่ตั้งของหน่วยเลือกตั้งและแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิได้

นายอิทธิพร ยืนยืนยันว่าการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทย กกต.พยายามรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งและผู้สมัครที่ได้รับเลือกก็จะมีความภาคภูมิใจ จึงขอเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ในวันดังกล่าวและ กกต.ก็พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้สะดวกให้ประชาชนได้มาใช้สิทธิในการเลือกตั้ง .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำไทยเลือกสันติวิธี แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ ลั่น “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ย้ำไทยเลือกสันติวิธี ปมชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หากปะทะเราพร้อม ยอมรับเป็นเพื่อนที่ดี แต่จะขอบ้านเราไม่ได้ หลังถูกจี้ถาม “ตระกูลชิน” เกี่ยวดอง “ฮุน เซน” แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ บอกปรึกษาทหารแล้ว งง สื่อฯ ทำไมวันนี้ ดุจัง ปลอบ ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ลงพื้นที่ดูหน้างาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ชายแดน ว่า ได้เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง สิ่งสำคัญมาก ๆ คนไทยต้องรักกันสามัคคีกัน ไม่ใช่การเมืองในประเทศที่จะต้องมีการแบ่งฝ่ายกัน ทุกๆ ฝ่ายต้องช่วยกันรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศเราต้องสามัคคีกัน ต้องใช้ความเป็นหนึ่ง รักกันของคนในชาติ รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ฝ่ายค้าน รัฐบาลก็คือประเทศไทย และการแสดงความเห็นและการปล่อยข่าวปลอมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า ถ้าถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น รัฐบาลทำเต็มที่และรักษาอธิปไตยของเราเป็นสิ่งที่จำเป็น รัฐบาลและทหาร คุยกันตลอดว่า จะไปทางไหนอย่างไรเราต้องมั่นใจว่าเราเป็นประเทศไทยเพลงชาติไทย เขาเรียกว่า […]

‘อี แจ-มยอง’ คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.เกาหลีใต้

โซล 4 มิ.ย. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุน ขณะที่ คิม มุน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว นายอี ได้ชัยชนะการเลือกตั้งหลังจากการนับคะแนนผ่านไปร้อยละ 94.4 และเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน นายอี ได้คะแนนเสียงไปแล้วร้อยละ 48.8 และนายคิม คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคพลังประชาชน แนวอนุรักษ์นิยม ได้ร้อยละ 42 แม้ว่าคะแนนที่ยังไม่ได้นับ จะตกเป็นของนายคิมแต่ก็ยังตามนายอีไม่ทัน ซึ่งทำให้นายอี ยืนยันชัยชนะของเขาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวเลขผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2540 ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 44.4 ล้านคน มีผู้มาใช้สิทธิราว 35.24 ล้านคนตามหน่วยเลือกตั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77.1 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนในปี 2565 นายอีกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการสร้างความเป็นเอกภาพของผู้คนในประเทศ และว่าเขาจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและพูดคุยกัน ด้าน นายคิม […]

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย