นายกฯ เปิดงานสัมมนาธุรกิจไทย–เวียดนาม

เวียดนาม 16 พ.ค.- นายกฯ เปิดงานสัมมนาธุรกิจไทย–เวียดนาม ยกระดับความร่วมมือภาคเอกชนภายใต้หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน ตั้งเป้าการค้าระหว่างกันทะลุ 8.75 แสนล้านบาท


วันนี้ (16 พฤษภาคม 2568) เวลา 14.00 น. ณ ห้องทัง ลอง บอลรูม โรงแรม Melia Hanoi กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (H.E. Mr. Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ร่วมเป็นประธานเปิดงานสัมมนาทางธุรกิจไทย–เวียดนาม (Thailand–Viet Nam Business Forum) ภายใต้หัวข้อ “1+1 = Zero Boundary on Three Connects” โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรธุรกิจชั้นนำจากทั้งสองประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม สมาคมมิตรภาพไทย–เวียดนาม สภาธุรกิจไทย–เวียดนาม รวมทั้งบริษัทเอกชนชั้นนำของไทยและเวียดนามในหลากหลายสาขา


สำหรับผู้เข้าร่วมงานฝ่ายเวียดนาม อาทิ รองนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามประธานกรรมการบริษัท VietJet Air ประธานกรรมการบริษัท Thai Vietjet ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท FPT Corporation ผู้อำนวยการโรงเรียนโพลีเทคนิค FPT รองผู้ว่าการธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย และรองประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอย เป็นต้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณรัฐบาลเวียดนาม โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีเวียดนามที่ให้เกียรติร่วมเปิดงาน พร้อมกล่าวแสดงความยินดีที่ได้เห็นการรวมตัวของผู้นำภาครัฐและภาคธุรกิจจากทั้งสองประเทศอย่างกว้างขวาง โดยเน้นย้ำว่า ความร่วมมือไทย–เวียดนามกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่หลังการยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน” (Comprehensive Strategic Partnership) ซึ่งสะท้อนความแน่นแฟ้นของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศทั้งในมิติการเมือง เศรษฐกิจ และประชาชนต่อประชาชน โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการเติบโตและเข้มแข็งไปด้วยกันในภูมิภาคที่มีความเปลี่ยนแปลงสูง

สำหรับหัวใจสำคัญของหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้านคือการเร่งส่งเสริมการเชื่อมโยงห่วงโซ่เศรษฐกิจ (value chain) ไทย–เวียดนามในทุกระดับ และงานสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายจะได้พบปะ พูดคุย และขยายเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่เกื้อกูลกันอย่างแท้จริง


โดยรัฐบาลทั้งสองประเทศเห็นพ้องในการผลักดัน “Three Connects” หรือยุทธศาสตร์การเชื่อมโยง 3 ด้าน ได้แก่ 1.การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ปิโตรเคมี อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ โลจิสติกส์ และเซมิคอนดักเตอร์ 2.การเชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยอาศัยเครือข่ายเมืองคู่มิตรกว่า 20 คู่ และ 3.การเชื่อมโยงการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น พลังงานหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว และการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

ด้านการค้าการลงทุน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทยในระดับโลก และเป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน ส่วนไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 7 ของเวียดนามในโลก และเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน โดยในปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่างกันอยู่ที่ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้ตั้งเป้าเร่งผลักดันให้ได้ ถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.75 แสนล้านบาทโดยเร็ว

ขณะที่ การลงทุนในประเทศเวียดนาม ไทยเป็นมีนักลงทุนเป็นอันดับ 9 ด้วย มูลค่ารวมกว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5 แสนล้านบาท อีกทั้งภาคเอกชนเวียดนามเริ่มมีการขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวโยงทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ โดยกว่า 50% ของการค้าระหว่างไทย–เวียดนาม เป็นการนำเข้าและส่งออกวัตถุดิบและชิ้นส่วนเพื่อผลิตสินค้าอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงแผนการพัฒนาเส้นทางบินตรง ระหว่างจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยกับเวียดนามในอนาคต ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศเที่ยวบินแรกของสนามบินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จะช่วยส่งเสริมทั้งการเดินทางของประชาชนและการท่องเที่ยวระหว่างกัน รวมทั้งสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังมีแผนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ เช่น เส้นทางเดินเรือสำราญระหว่างสิงคโปร์–ไทย–เวียดนาม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากนอกภูมิภาค และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ส่วนการพัฒนาอย่างยั่งยืน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันกว่า 2 ใน 3 ของการลงทุนจากไทยในเวียดนามเป็นโครงการด้านพลังงานหมุนเวียน และในวันนี้ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่าง EXIM Bank ของไทยกับธนาคาร BIDV ของเวียดนาม เพื่อร่วมกันสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจสีเขียวและอุตสาหกรรมสมัยใหม่ พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะเร่งพัฒนาระบบการชำระเงินข้ามแดนให้สะดวกรวดเร็ว มีต้นทุนต่ำ เพื่อเอื้อต่อการขยายตัวของการค้าการลงทุน

นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างไทยและเวียดนามไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในระดับรัฐบาลเท่านั้น แต่ภาคเอกชนคือกำลังสำคัญที่จะทำให้ความร่วมมือในทุกมิติ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

โดยรัฐบาลทั้งสองประเทศพร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ และแสดงความเชื่อมั่นว่า ผลลัพธ์จากการจัดงาน Business Forum ในวันนี้ จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย–เวียดนามให้แน่นแฟ้นและยั่งยืนต่อไปในอนาคต

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างภาคเอกชนไทยและเวียดนาม จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่

1.บันทึกความเข้าใจระหว่างสายการบิน Vietjet กับ Thai Vietjet

2.บันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กับมหาวิทยาลัย FPT

3.บันทึกความเข้าใจระหว่าง FPT Group กับบริษัท Sunline Technology จำกัด

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะนายเลือง เกื่อง (H.E. Mr. Luong Cuong) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบประธานาธิบดี จากนั้นจะเข้าเยี่ยมคารวะ นายโต เลิม (H.E. Mr. To Lam) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ที่ทำการพรรคคอมมิวนิสต์ ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทยในเวลาประมาณ 17.00 น. .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]