เชื่อเพื่อไทยจับมือ พปชร.ตั้งรัฐบาลไม่ง่าย

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – “ปริญญา” เชื่อเพื่อไทยไม่หักหลัง ปชช. 25 ล้านเสียง ไปร่วม พปชร. ตั้งรัฐบาล แลก “ทักษิณ” กลับบ้าน ชี้ทำได้ยาก มีผลกระทบหลายอย่าง แต่ถ้าจะทำต้องโหวตนายกฯ ฝั่งเพื่อไทยแล้วเสียงไม่พอ


นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยกับ “สำนักข่าวไทย” เกี่ยวกับประเด็นตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ล่าสุดมีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยยอมถอย แต่มีเงื่อนไขขอตั้งรัฐบาลหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าจากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา เสียงประชาชนจำนวน 25 ล้านเสียง ที่โหวตให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จึงเป็นความคาดหวังของประชาชนที่ให้เป็นรัฐบาลฝั่งประชาธิปไตยที่มาจากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล และเมื่อพรรคก้าวไกลเอาชนะพรรคเพื่อไทยได้มาเป็นอันดับหนึ่งก็ต้องเป็นไปตามกติกาของระบบรัฐสภา 

“แต่ขณะนี้ปัญหาอยู่ที่ระบบรัฐสภาของไทยที่ไม่ปกติ เพราะสภาฯ ทั่วโลกที่เขาใช้กันคือพรรคการเมืองที่รวมเสียงได้เกินครึ่งสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลมีเสียง 312 เสียง จาก 500 เสียง คือเกิน 60% สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเข้มแข็งแต่กลับตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะระบบรัฐสภาของไทยมีระบบสมาชิกวุฒิสภาร่วมโหวต หากสมาชิกวุฒิสภาตามปกติคือฟรีโหวต โดยที่ไม่มีใครชี้นำควบคุมก็มั่นใจว่าจำนวน 64 เสียงที่พรรคฝ่ายรัฐบาลต้องการไม่ใช่เรื่องที่ไกลกว่าความเป็นจริง แต่ขณะนี้ไม่ปกติ เพราะมีการสั่งการหรือไม่ว่าไม่ให้ ส.ว. ยกมือสนับสนุน เพราะมีหลายปัจจัยชวนให้คิดเช่นนั้น


“หากรอบแรกโหวตนายพิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะยังไม่ได้คะแนนเสียง 376 เสียง ย่อมเป็นสิทธิของพรรคอันดับสอง คือเพื่อไทย ที่จะเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคต่อจากพรรคก้าวไกล แต่ไม่น่าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ถึงขั้นพรรคเพื่อไทยจะสลับข้างไปร่วมกับรัฐบาลเดิม หรือพลังประชารัฐ เชื่อว่าน่าจะเกิดขึ้นได้ยากแม้จะมีกระแสข่าวดีลลับ เพราะพรรคเพื่อไทยได้บทเรียนจากประชาชนที่แพ้การเลือกตั้งเพราะความไม่ชัดเจนเรื่องการรวมกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ แต่เพิ่งมาชัดเจนในช่วงท้ายของการหาเสียง ซึ่งผลออกมาคือแพ้คะแนนเสียงของก้าวไกล นี่คือความไม่ชัดเจน หากไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐจริงๆ น่าจะเกิดปัญหา” นายปริญญา กล่าว

นายปริญญา กล่าวว่า เหตุผลเดียวที่จะเปลี่ยนสูตรให้เพื่อไทยไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐได้คือ พรรคเพื่อไทยเสนอเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้คะแนนเสียง 376 เสียง จึงจะมีความชอบธรรมที่จะคิดถึงสูตรอื่น ดังนั้น อยู่ดีๆ จะไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐเลย คาดว่าเรื่องมันน่าจะยุ่ง และเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะมองเห็นปัญหานี้เช่นกัน 

ส่วนข้อสังเกตพรรคเพื่อไทยจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะต้องการให้นายทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม นายปริญญา กล่าวว่า หนึ่งในเหตุผลที่เพื่อไทยแพ้ก้าวไกลเพราะการพูดเรื่องกลับบ้านของนายทักษิณบ่อยเกินไป มีผลโดยตรงที่ทำให้การเมืองกลายเป็นเรื่องที่มาพัวพันเรื่องส่วนตัว ทำให้ประชาชนหันมาเลือกพรรคก้าวไกล หากจะนำประเด็นการกลับบ้านมาเป็นหลักและทำให้เกิดการเปลี่ยนสูตรให้เพื่อไทยรวมกับพลังประชารัฐ และให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน จะเกิดผลเสียหายกับพรรคเพื่อไทยตามมาอีกมาก ไม่เพียงผลเสียในการเลือกตั้งคราวหน้า แต่จะรวมถึงผลระยะสั้นต่อพรรคเพื่อไทยด้วย


เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่คำนึงถึงเสียงประชาชน แต่ยึดหลักว่าเมื่อเป็นพรรคอันดับสองก็ตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกลได้ นายปริญญา กล่าวว่า หากพรรคการเมืองไม่ใส่ใจในเสียงของประชาชน ไม่มีพรรคไหนอยู่รอดสักพรรคเดียว และใน MOU ของพรรคร่วม มีประเด็นเรื่องการให้ความยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งหมายรวมถึงประชาชนและนายทักษิณที่จะได้ประโยชน์ตรงนั้นอยู่แล้ว ซึ่งตนไม่อยากจะคิดว่าพรรคเพื่อไทยจะคิดเฉพาะตัวนายทักษิณ ยังอยากมองในแง่ดีว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะไม่มีพรรคการเมืองใดที่จะเดินหน้าต่อไปได้ หากไม่ใส่ใจเสียงของประชาชน และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะได้บทเรียนจากผลการเลือกตั้ง และเรื่องการต่อรองตำแหน่งประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยได้เห็นกระแสสังคมที่ชัดเจนและยอมถอยหลายเรื่อง

ส่วนการประชุมร่วม 8 พรรค วันที่ 2 กรกฎาคม จะจบลงด้วยดีหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรจบแล้ว เพราะหากไม่จบ พรรคเพื่อไทยจะกลายเป็นพรรคที่ลำบาก เพราะพรรคเพื่อไทยในสมัยที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ก็ขอตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้ตลอด จึงเป็นสิทธิของพรรคอันดับหนึ่งที่จะขอตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะในทางปฏิบัติต้องเลือกประธานสภาฯ ก่อน เพราะประธานสภาฯ จะเป็นผู้ควบคุมการประชุมในการเลือกนายกรัฐมนตรี

“เป็นเรื่องปกติที่พรรคอันดับหนึ่งจะอยากได้ประธานสภาฯ ของตัวเอง แต่เมื่อกระแสสังคมไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยจึงยอมถอย จึงยังมองโลกในแง่ดีว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ไปไกลถึงขั้นไปรวมกับขั้วอำนาจเก่า สถานการณ์การเมืองยังไม่น่าจะไปถึงจุดนั้น อย่างไรก็ตาม ขอให้รอดูวันที่ 4 กรกฎาคม หากการเลือกประธานสภาฯ ราบรื่น เราจะรู้ว่าจะเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อไร ซึ่งจะได้เห็นความชัดเจนของความเคลื่อนไหวของฝ่ายที่จะสนับสนุนและขัดขวางที่จะชัดเจนขึ้น” นายปริญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน

สระแก้ว 4 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายให้ชาวกัมพูชา รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน ในส่วนของไทย หากฝ่าฝืนเอาผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง-ป่าไม้ โทษปรับ-จำคุก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จ.สระแก้ว ติดตั้งประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยป้ายมี 3 ภาษา ไทย-กัมพูชา-อังกฤษ พร้อมแผนที่ ระบุว่า “ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกถือครองที่ดินและอยู่อาศัยทำกินในราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามแผนที่แนบท้ายกรอบสีฟ้า หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 […]

เร่งล่าคนร้ายฆ่าหญิงสาวยัดกระเป๋าเดินทางถ่วงน้ำ

ชลบุรี 3 ก.ย. – คดีสังหารโหดหญิงปริศนายัดกระเป๋าเดินทาง โยนทิ้งอ่างเก็บน้ำ จ.ชลบุรี ตำรวจเร่งหาเบาะแสล่าตัวคนร้าย พบลายนิ้วมือแฝงบนดัมเบลที่ใช้ถ่วงน้ำหนักกระเป๋า ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งมีโซ่เหล็ก และกุญแจล็อกแน่นหนา ขึ้นมาตรวจสอบ หลังจากพบลอยอยู่ในอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30 ปี ไม่ทราบสัญชาติ เปลือยท่อนบน นุ่งกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม นอนขดตัวอยู่ในกระเป๋า พบร่องรอยเขียวช้ำบริเวณลำคอ กลางหน้าอก และดั้งจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลว่า ผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน ส่วนบริเวณช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋า พบแผ่นดัมเบล 9 แผ่น (ขนาดน้ำหนัก 5 กก. จำนวน 1 แผ่น / 2.5 […]

แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา

3 ก.ย. – แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา ชี้ผิดมาตรา 112 และมาตรา 157 สะพัด! ตีกลับ พ.ร.ฎ.ยุบสภา เหตุไม่เป็นไปตามระเบียบ-กฤษฎีกาแย้งไร้อำนาจ ด้าน “อนุทิน” บอกยังเป็นแค่ข่าว รอรัฐบาลแจงดีกว่า นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เอาผิดนายภูมิธรรม เวชยชัย ในความผิดมาตรา 112 พร้อมเผยว่า การพยายามยื่นทูลเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถือเป็นการกระทำที่มิบังควร เนื่องจากไม่มีอำนาจหน้าที่หรือสิทธิที่สามารถทำได้ นายไทกร ระบุว่า ได้รับข้อมูลว่านายภูมิธรรม นำเรื่องพระราชกฤษฎีกายุบสภาไปส่งยังสำนักพระราชวังแล้ว หนังสือฉบับนั้นได้ถูกส่งกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่พรรคเพื่อไทยและนายภูมิธรรมยังไม่ยอมที่จะเคารพต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตนเองไม่มีสิทธิในการที่จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะยุบสภา กลับมีความพยายามที่จะเรียกประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ โดยมีการทาบทามให้ ดร.วิษณุ เครืองาม และคณะ มาทำหน้าที่ เพื่อที่จะตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นอีกฉบับใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพื่อที่จะนำส่งสำนักพระราชวังอีกครั้ง ถือว่าการกระทำที่ไม่บังควร “ศุภชัย” […]