เชื่อเพื่อไทยจับมือ พปชร.ตั้งรัฐบาลไม่ง่าย

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – “ปริญญา” เชื่อเพื่อไทยไม่หักหลัง ปชช. 25 ล้านเสียง ไปร่วม พปชร. ตั้งรัฐบาล แลก “ทักษิณ” กลับบ้าน ชี้ทำได้ยาก มีผลกระทบหลายอย่าง แต่ถ้าจะทำต้องโหวตนายกฯ ฝั่งเพื่อไทยแล้วเสียงไม่พอ


นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยกับ “สำนักข่าวไทย” เกี่ยวกับประเด็นตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ล่าสุดมีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยยอมถอย แต่มีเงื่อนไขขอตั้งรัฐบาลหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าจากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา เสียงประชาชนจำนวน 25 ล้านเสียง ที่โหวตให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จึงเป็นความคาดหวังของประชาชนที่ให้เป็นรัฐบาลฝั่งประชาธิปไตยที่มาจากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล และเมื่อพรรคก้าวไกลเอาชนะพรรคเพื่อไทยได้มาเป็นอันดับหนึ่งก็ต้องเป็นไปตามกติกาของระบบรัฐสภา 

“แต่ขณะนี้ปัญหาอยู่ที่ระบบรัฐสภาของไทยที่ไม่ปกติ เพราะสภาฯ ทั่วโลกที่เขาใช้กันคือพรรคการเมืองที่รวมเสียงได้เกินครึ่งสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลมีเสียง 312 เสียง จาก 500 เสียง คือเกิน 60% สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเข้มแข็งแต่กลับตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะระบบรัฐสภาของไทยมีระบบสมาชิกวุฒิสภาร่วมโหวต หากสมาชิกวุฒิสภาตามปกติคือฟรีโหวต โดยที่ไม่มีใครชี้นำควบคุมก็มั่นใจว่าจำนวน 64 เสียงที่พรรคฝ่ายรัฐบาลต้องการไม่ใช่เรื่องที่ไกลกว่าความเป็นจริง แต่ขณะนี้ไม่ปกติ เพราะมีการสั่งการหรือไม่ว่าไม่ให้ ส.ว. ยกมือสนับสนุน เพราะมีหลายปัจจัยชวนให้คิดเช่นนั้น


“หากรอบแรกโหวตนายพิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะยังไม่ได้คะแนนเสียง 376 เสียง ย่อมเป็นสิทธิของพรรคอันดับสอง คือเพื่อไทย ที่จะเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคต่อจากพรรคก้าวไกล แต่ไม่น่าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ถึงขั้นพรรคเพื่อไทยจะสลับข้างไปร่วมกับรัฐบาลเดิม หรือพลังประชารัฐ เชื่อว่าน่าจะเกิดขึ้นได้ยากแม้จะมีกระแสข่าวดีลลับ เพราะพรรคเพื่อไทยได้บทเรียนจากประชาชนที่แพ้การเลือกตั้งเพราะความไม่ชัดเจนเรื่องการรวมกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ แต่เพิ่งมาชัดเจนในช่วงท้ายของการหาเสียง ซึ่งผลออกมาคือแพ้คะแนนเสียงของก้าวไกล นี่คือความไม่ชัดเจน หากไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐจริงๆ น่าจะเกิดปัญหา” นายปริญญา กล่าว

นายปริญญา กล่าวว่า เหตุผลเดียวที่จะเปลี่ยนสูตรให้เพื่อไทยไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐได้คือ พรรคเพื่อไทยเสนอเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้คะแนนเสียง 376 เสียง จึงจะมีความชอบธรรมที่จะคิดถึงสูตรอื่น ดังนั้น อยู่ดีๆ จะไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐเลย คาดว่าเรื่องมันน่าจะยุ่ง และเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะมองเห็นปัญหานี้เช่นกัน 

ส่วนข้อสังเกตพรรคเพื่อไทยจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะต้องการให้นายทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม นายปริญญา กล่าวว่า หนึ่งในเหตุผลที่เพื่อไทยแพ้ก้าวไกลเพราะการพูดเรื่องกลับบ้านของนายทักษิณบ่อยเกินไป มีผลโดยตรงที่ทำให้การเมืองกลายเป็นเรื่องที่มาพัวพันเรื่องส่วนตัว ทำให้ประชาชนหันมาเลือกพรรคก้าวไกล หากจะนำประเด็นการกลับบ้านมาเป็นหลักและทำให้เกิดการเปลี่ยนสูตรให้เพื่อไทยรวมกับพลังประชารัฐ และให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน จะเกิดผลเสียหายกับพรรคเพื่อไทยตามมาอีกมาก ไม่เพียงผลเสียในการเลือกตั้งคราวหน้า แต่จะรวมถึงผลระยะสั้นต่อพรรคเพื่อไทยด้วย


เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่คำนึงถึงเสียงประชาชน แต่ยึดหลักว่าเมื่อเป็นพรรคอันดับสองก็ตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกลได้ นายปริญญา กล่าวว่า หากพรรคการเมืองไม่ใส่ใจในเสียงของประชาชน ไม่มีพรรคไหนอยู่รอดสักพรรคเดียว และใน MOU ของพรรคร่วม มีประเด็นเรื่องการให้ความยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งหมายรวมถึงประชาชนและนายทักษิณที่จะได้ประโยชน์ตรงนั้นอยู่แล้ว ซึ่งตนไม่อยากจะคิดว่าพรรคเพื่อไทยจะคิดเฉพาะตัวนายทักษิณ ยังอยากมองในแง่ดีว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะไม่มีพรรคการเมืองใดที่จะเดินหน้าต่อไปได้ หากไม่ใส่ใจเสียงของประชาชน และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะได้บทเรียนจากผลการเลือกตั้ง และเรื่องการต่อรองตำแหน่งประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยได้เห็นกระแสสังคมที่ชัดเจนและยอมถอยหลายเรื่อง

ส่วนการประชุมร่วม 8 พรรค วันที่ 2 กรกฎาคม จะจบลงด้วยดีหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรจบแล้ว เพราะหากไม่จบ พรรคเพื่อไทยจะกลายเป็นพรรคที่ลำบาก เพราะพรรคเพื่อไทยในสมัยที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ก็ขอตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้ตลอด จึงเป็นสิทธิของพรรคอันดับหนึ่งที่จะขอตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะในทางปฏิบัติต้องเลือกประธานสภาฯ ก่อน เพราะประธานสภาฯ จะเป็นผู้ควบคุมการประชุมในการเลือกนายกรัฐมนตรี

“เป็นเรื่องปกติที่พรรคอันดับหนึ่งจะอยากได้ประธานสภาฯ ของตัวเอง แต่เมื่อกระแสสังคมไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยจึงยอมถอย จึงยังมองโลกในแง่ดีว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ไปไกลถึงขั้นไปรวมกับขั้วอำนาจเก่า สถานการณ์การเมืองยังไม่น่าจะไปถึงจุดนั้น อย่างไรก็ตาม ขอให้รอดูวันที่ 4 กรกฎาคม หากการเลือกประธานสภาฯ ราบรื่น เราจะรู้ว่าจะเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อไร ซึ่งจะได้เห็นความชัดเจนของความเคลื่อนไหวของฝ่ายที่จะสนับสนุนและขัดขวางที่จะชัดเจนขึ้น” นายปริญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย