รัฐสภา 27 มิ.ย. – “เสรี” เตรียมส่งหลักฐาน “พิธา” ถือหุ้นสื่อ ให้ กกต. วันพรุ่งนี้ ชี้เสียง ส.ว. หนุนนั่งนายกฯ ยังไม่พอ ย้ำต้องพิจารณาหลายปัจจัย รวมทั้งนโยบาย ม.112 กระทบความมั่นคงประเทศ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เตรียมนัดหารือกับประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะ เพื่อนำเอกสารและหลักฐานในคดีที่เกี่ยวข้องกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่กรรมาธิการฯ ตรวจพบ โดยเฉพาะหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการถือครองหุ้น ITV และการจำหน่ายที่ดิน เพื่อมอบให้ กกต. ทั้งหมด
นายเสรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธาอ้างหลักการการเลือกนายกรัฐมนตรีของวุฒิสภาที่ต้องสนับสนุนพรรคการเมืองที่รวบรวมเสียงข้างมากได้ว่า ต้องพิจารณาถึงพฤติกรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยว่ามีพฤติกรรมที่ไม่ควรเป็นหรือไม่ เช่น การแสดงออกถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 การเสนอนโยบายเลือกตั้งผู้ว่าจังหวัด ผู้ดำรงตำแหน่งขาดคุณสมบัติหรือการยุยงส่งเสริมเยาวชนให้ละเมิดกฎหมาย ดังนั้น มาตรฐานการเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อ 2562 ไม่สามารถนำมาใช้ในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ได้
“เชื่อว่าเสียงที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีของสมาชิกวุฒิสภายังไม่เพียงพอที่จะทำให้นายพิธาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ โดยเชื่อว่าเมื่อนายพิธามีเสียงข้างมากแล้ว แต่ยังคงยืนยันจะเดินหน้าแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ส.ว. จะไม่ลงมติให้ ซึ่งการพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ไม่ได้มีใบสั่งจากใคร มีเพียงใบสั่งจากประชาชนที่ประชาชนเลือกพรรคก้าวไกลมาแค่ 14 ล้านเสียง จากผู้เลือกตั้งทั้งหมด และยังต้องตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธาด้วยว่ามีลักษณะต้องห้าม และมีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งจะต้องแยกการพิจารณาออกจากการได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้ง” นายเสรี กล่าว
ส่วนหากพลิกขั้วการจัดตั้งรัฐบาลมาเป็นพรรคเพื่อไทยจะมีภาษีดีกว่าพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ต้องรอพิจารณาว่าเป็นใคร เพราะทราบเพียงชื่อเดียวขณะนี้คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือหากเป็นพรรคเพื่อไทยก็ต้องรอว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อใด แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าทั้งรายชื่อจากพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย จะได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสภาหรือไม่ เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องใช้กฎเกณฑ์เดียวกัน
ส่วนการยื่นตรวจสอบคุณสมบัตินายพิธาจะเป็นไปได้หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ส.ว. ไม่สามารถตรวจสอบคุณสมบัติความเป็น ส.ส. ของนายพิธาได้ เว้นแต่นายพิธาจะขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ส.ว. จึงสามารถเข้าชื่อเสนอตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีที่ใช้คุณสมบัติเดียวกันกับ ส.ส. ได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 และ 170 แต่ในวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) ตนจะไปร้องขอให้ กกต. เร่งวินิจฉัย ตรวจสอบคุณสมบัติการถือครองหุ้น ITV ของนายพิธา เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี
ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีรภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธาว่า กกต. มีหน้าที่พิจารณาได้ว่านายพิธาเป็นผู้ถือหุ้นหรือไม่ ทั้งถือครองตามกฎหมาย การเป็นผู้จัดการมรดก การตรวจสอบวัตถุประสงค์และการประกอบการของ ITV เพราะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่สามารถือครองหุ้นสื่อมวลชนได้ จึงขอให้ กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้เกิดความชัดเจน และไม่ให้มีปัญหาในการเลือกตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
“นอกจากเรื่องคุณสมบัติแล้ว ยังต้องพิจารณานโยบายของพรรคก้าวไกลด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะประชาชนที่เลือกส่วนหนึ่งต้องการนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร นโยบายสวัสดิการ แต่ประชาชนที่เลือกส่วนหนึ่งไม่ได้เห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาณา มาตรา 112 ดังนั้น เมื่อ ส.ว. ต้องร่วมลงมติก็ต้องนำนโยบายของพรรคก้าวไกลมาพิจารณาด้วยว่ากระทบกับความมั่นคงและความสงบสุขของประเทศหรือไม่” นายสมชาย กล่าว
นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล ตัวแทนกลุ่มพิราบขาว ได้ยื่นหนังสือถึงนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา และนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีรภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อขอให้วุฒิสภาร่วมกันเข้าชื่อตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธาที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ให้ กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนการเลือกนายกรัฐมนตรี และไม่ให้ต้องทูลเกล้าฯ ชื่อบุคคลที่ขาดคุณสมบัติขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย