ธอส. มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ

4 ก.ย. – ธอส. มอบถุงยังชีพ 1,100 ชุด บรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมจัดทำมาตรการพักหนี้ – ลดเงินงวด – ลดดอกเบี้ย – เคลมสินไหมเร่งด่วน ช่วยเหลือผู้ประสบภัย


นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือขณะนี้ ส่งผลให้หลายจังหวัดภาคเหนือเกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ จึงได้ส่งทีมลงพื้นที่เป็นการเร่งด่วน เพื่อมอบถุงยังชีพ จำนวน 1,100 ชุด ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัย ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก พร้อมกันนี้ ธอส. ยังเดินหน้าให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยแก่ผู้ได้รับผลกระทบผ่าน “มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี 2568” โดยมีรายละเอียด ดังนี้

มาตรการที่ 1 : สำหรับลูกค้าปัจจุบัน ลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยพักชำระหนี้นาน 3 เดือน พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 0% ต่อปี 3 เดือนแรก เดือนที่ 4 – 12 คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2.00% ต่อปี พร้อมลดเงินงวดลง 50% ของเงินงวดที่ชำระในปัจจุบัน เมื่อครบระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ ลูกค้าสามารถกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดิมต่อไป และลูกค้าที่ต้องการกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย สามารถเข้าร่วมโครงการสินเชื่อซ่อม – แต่ง และสินเชื่อซ่อม – แต่ง Plus วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 5 ปี โดยวงเงิน 1 แสนบาทแรก อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี เพียง 1% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี ในวงเงิน 200,000 บาทถัดมา โดยไม่ต้องจดทะเบียนการจำนองเพิ่มที่สำนักงานที่ดิน


มาตรการที่ 2 : สำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ กู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซม หรือปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม วงเงินกู้สูงสุดต่อราย ต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1 – 3 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด, อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 4 – 24 เท่ากับ 2.00% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 เท่ากับ MRR-3.30% ต่อปี (2.945% ต่อปี), ปีที่ 4 เท่ากับ MRR-2.40% ต่อปี (3.845% ต่อปี) และปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี, ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.245% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้ 40 ปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,100 บาทต่อเดือนเท่านั้น ฟรีค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักประกัน (1,900 – 2,800 บาท) และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองไม่เกิน 1% ของวงเงินจำนอง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน

มาตรการที่ 3 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่หลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และไม่ต้องชำระเงินงวด จากนั้น เดือนที่ 7 – 18 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน และเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

มาตรการที่ 4 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาท (ตัดเงินต้นทั้งหมด) จากนั้น เดือนที่ 7 – 12 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวกอีก 100 บาท และเมื่อผ่อนชำระครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้


มาตรการที่ 5 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระ โดยใช้อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือ (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 6 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL หากที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง และไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 7 : พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติกับบริษัทประกันภัยที่ธนาคารจัดให้ พิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่ประสบภัยทุกรายอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ โดยผู้เอาประกันสามารถแจ้งความเสียหายโดยใช้ภาพถ่าย จ่ายตามความเสียหายจริงไม่เกิน 20,000 บาท และสำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพิ่มความคุ้มครองภัยธรรมชาติตามความเสียหายจริงอีกไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี (รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์)

ลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการตามมาตรการดังกล่าว สามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร. 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th.-111-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เปิดเล่มแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน ยึดหลักบริหารราชการแผ่นดิน 3 ประการ

กทม.25 ก.ย.- เปิดเล่มแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน ปกน้ำเงิน ขลิบธงชาติ ยึดหลักบริหารราชการแผ่นดิน 3 ประการ “พิทักษ์สถาบัน-ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย-ยึดมั่นหลักนิติธรรม” ยันรัฐบาลสนับสนุนการทำประชามติและทำฉบับใหม่ให้สอดคล้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่จะทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นเล่มนโยบาย ปกน้ำเงิน และมีองค์ประกอบ ที่ปกใกล้สันปก เป็น ขลิบสีธงชาติ โดยมี ทั้งหมด 50 หน้ารวมปก มีสาระสำคัญ โดยสรุปคือ เรื่องหลักบริหารราชการแผ่นดินและนโยบายสำคัญยึดหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1. การพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 2.ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ 3.ยึดมั่นในหลักนิติธรรม การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และการบริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์ของประชาชน นอกจากนี้ยัง มีเนื้อหา เกี่ยวกับการเข้าสู่การบริหารราชการแผ่นดิน ของรัฐบาล ภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โอกาสในการสร้างรายได้ของประชาชนและการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ ซึ่งด้วยระยะเวลาที่มีอยู่จำกัดและงบประมาณที่ไม่ได้เป็นผู้จัดทำอีกทั้งยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่ประเทศกำลังประเชิญอยู่ในขณะนี้ […]

ชายแดนตึงเครียด กัมพูชายั่วยุตลอดคืน

25 ก.ย. – กัมพูชายังไม่เลิกยั่วยุ ชายแดนตึงเครียดตลอดคืน หลังพบการยิงปืนและระเบิดในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ด้าน รมว.ต่างประเทศ เตรียมบินด่วนแจงเวที UNGA เย็นนี้ สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กกองทัพบก ทันกระแส รายงานว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา กัมพูชายังคงมีพฤติกรรมยั่วยุและเป็นปรปักษ์ต่อฝ่ายไทย ทางเพจเผยว่า ได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะในหลายพื้นที่ รวมถึงพบความพยายามของทหารกัมพูชาที่เคลื่อนที่เข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม และมีการยิงปืน เพื่อตรวจสอบระยะทาง ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายยั่วยุอย่างชัดเจน รมว.ต่างประเทศ เตรียมบินด่วนแจงเวทีโลกเย็นนี้ นายสีหศักดิ์ พงศ์เกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางเข้ากระทรวงการต่างประเทศวันแรก พบปะข้าราชการ โดยระบุถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เย็นวันนี้ (25 ก.ย.) จะเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA รวมทั้งพบปะกับบุคคลสำคัญ เช่น เลขาธิการสหประชาชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น ในฐานะประธานอนุสัญญาออตตาวา เกี่ยวกับการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และจะพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ที่จะเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชนในวาระต่อไป ทั้งนี้ การพบปะในครั้งนี้ไม่ได้พบปะเพียงแค่พิธีการทูตเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” เข้าทำงาน กต.วันแรก จ่อบินแจงปมเขมรเวที UNGA

กระทรวงการต่างประเทศ 25 ก.ย.- “สีหศักดิ์” เข้ากระทรวงการต่างประเทศวันแรก ให้กำลังใจข้าราชการ ย้ำ ต้องเป็น 4 เดือนที่มีความหมาย ทำงานให้เป็นเอกภาพ รับอาจแก้ไม่ได้หมด แต่หวังสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา คลี่คลายขึ้น ติง “เขมร” แทนที่จะพูดคุยกันเองก่อน แต่กลับยกไปพูดคุยในเวทีระหว่างประเทศ เตรียมบินด่วนแจงโลกเวที UNGA เย็นนี้ พบเลขาฯ ออตตาวาด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.15น. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะทํางาน เดินทางเข้ากระทรวงการต่างประเทศวันแรก หลังจากได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี และเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน โดยได้สักการะพระพุทธราชไมตรีศรีสัมพันธ์ ศาลพระภูมิประจํากระทรวง พระรูปสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ และเทพธิดาบัวแก้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับ จากนั้น ได้พบปะข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประจำกระทรวงการต่างประเทศ โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่รับหน้าที่ จึงถือโอกาสนี้มาทักทายข้าราชการ […]

นายกฯ พบตลาดทุนไทยชื่นมื่น กลไกสร้างการเติบโตทางศก.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ 25 ก.ย.- นายกฯ พบตลาดทุนไทยชื่นมื่น เหมือนได้พบกัลยาณมิตร เป็นแหล่งระดมทุน สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง หารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ในหัวข้อ “ข้อเสนอจากตลาดทุน เพื่อเสริมพลังภาครัฐ” นายอนุทิน​ กล่าวก่อนเริ่มประชุมว่า​ วันนี้ตั้งใจมาพบทุกท่านถึงอาคารตลาดหลักทรัพย์​ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ตื่นเต้นนอนไม่หลับ​ มาตั้งแต่ 09.00 น. เพราะทราบดี​ ​จะได้มาพบกับกัลยาณมิตร​ที่ดี​ เพื่อนที่หวังดีต่อกันตลอดเวลา​ และความสัมพันธ์ของเราก็พัฒนาไป แต่ละคนก็มีหน้าที่ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง​ แม้จะอยู่ในภาคเอกชน​ ตลาดทุน​ แต่พวกเราในฐานะรัฐบาลก็มีหน้าที่ในการสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือในทุกทาง ที่จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จมากที่สุด​ “ท่านเป็นแหล่งระดมทุนให้กับประเทศ เป็นกลไกในการสร้างการเจริญเติบโตกับทางเศรษฐกิจ​ ว่าประเทศไทยมีความมั่นคงมั่งคั่งในระดับไหน เป็นตัวสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในต่างประเทศ” นายอนุทิน กล่าว -สำนักข่าวไทย